กระทู้ล่าสุดของ: FootBallteng9340

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: 1 [2]
16  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สโมสรฟุตบอลหงส์แดงที่ดัง เกิดขึ้นได้ยังไง ผู้ใดกันเป็นผู้จัดตั้ง By Ballteng88 เมื่อ: มกราคม 21, 2019, 08:56:24 am
จอห์น องค์การอนามัยโลกลดิ้ง เป็นผู้ก่อตั้งสโมสรหงส์แดง ก่อนที่จะเช่าพื้นที่รอบๆ แอนฟิลด์ เพื่อใช้สร้างสนามฟุตบอล กับให้เอฟเวอร์ตัน เช่าเป็นสนามแข่งขัน ก่อนที่จะหงส์แดง จะก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในชื่อลิเวอร์พูล เอฟซี ในเดือนมีนาคม 1892 และก็เมื่อกลุ่มเอฟเวอร์ตันได้ไปสู่สมาชิกบอลลีก ด้าน จอห์น ฮูลดิ้ง เพียรพยายามจะเข้าไปดำเนินงานในทีมเอฟเวอร์ตันแล้วก็ได้เพิ่มค่าเช่าสนามที่ทีมได้เช่าอยู่ ข้างกรุ๊ปบริหารของเอฟเวอร์ตันก็เลยยกเลิกสัญญาเช่าสนาม และก็กลุ่มเอฟเวอร์ตันได้ย้ายสนามไปอีกฝากของสวนสาธารณะ สแตนลีย์พาร์ค เพื่อไปสร้างสนามเป็นของตนเองโดยใช้ชื่อสนามว่า ข้าดิสันพาร์ค

ประวัติความเป็นมาสมาพันธ์หงส์แดง
ภายหลังจากตั้งได้ไม่นาน หงส์แดงแปลงเป็นสมาพันธ์แนวหน้าของอังกฤษอย่างรวดเร็ว จนถึงประสบผลสำเร็จเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศคราวแรกในช่วงฤดูกาล 1900/01 และก็ครั้งลำดับที่สองใน ฤดูกาล 1905/06 ก่อนจะกระเป๋านแชมป์สองฤดูติดต่อในฤดูกาล1921/22 กับ 1922/23 หลังจากนั้นเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 5 ในช่วงฤดูกาล 1946/47 อย่างไรก็แล้วแต่ซีซั่น 1953/54 ลิเวอร์พูลเจอกับตอนตกอับต้องไปเล่นในในดิวิชัน 2 จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงในด้วยการตั้ง บิลล์ แชงก์แผ่ย์ เป็นผู้จัดการทีมในปี 1959

ประวัติสมาพันธ์ลิเวอร์พูล
เขาได้เข้ามาบูรณะกลุ่มใหม่หมด ด้วยการโละนักฟุตบอลออกถึง 24 ราย พร้อมด้วยปรับโครงสร้างภายใสห้องแต่งตัว ให้มีความทันสมัยมากเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งก่อตั้ง "บูท รูม สตาฟฟ์" ชุดแรกขึ้นมา นำโดย โจ เฟแกน, รูเบ็น เบนเน็ตตื และก็ บ็อบ เพรียสลี่ย์ ต่อจากนั้นจนกระทั่งบรรลุผลสำเร็จได้เลื่อนชั้นในฤดูกาล 1961/62 แล้วก็ฤดู 1963/64 พวกเขาก็ได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอีกทีใน หลังจากรอมานานถึง 17 ปี ด้วยทีเด็ดบอล ballteng88

เรื่องราวสมาพันธ์ลิเวอร์พูล
ปี 1965 แชงก์ลี่ย์ พาทีมครอบครองแชมป์เอฟเอคัพ แต่ทว่าไปพ่ายให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในศึกคัพ วิเนอร์ส คัพ รอบชิงชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม "หงส์แดง" ครอบครองแชมป์ดิวิชั่น 1 อีกครั้งในฤดูกาลต่อมา การบรรลุเป้าหมายของแชงก์ลียังเดินหน้าต่อไป เมื่อลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะยูฟ่าคัพ พร้อมแชมป์ดิวิชั่น 1 ใน ฤดู 1972/73 แล้วก็เอฟเอคัพ อีกรอบใน ฤดูกาล 1973/74 หลังจากนั้น แชงก์คลี ตกลงใจลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังที่อิ่มตัวกับความสำเร็จ ให้ผู้ช่วยของเขาสืบทอดตำแหน่ง ผู้จัดการทีมฟุตบอลแทน โน่นเป็น บ็อบ เพสลี่ย์

ประวัติสมาคมหงส์แดง
ในปี 1976 พาทีมเป็นแชมป์ลีกสูงสุด และแชมป์ยูฟ่า คัพ ในปีเดียวกัน นอกจากนั้น เพสลี่ย์ ยังพาทีมเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พ่วงด้วยแชมป์ดิวิชั่น 1 แม้กระนั้นน่าเสียดายที่มาเสียท่าพ่ายแพ้ในรอบชิงเอฟเอ คัพ 1977 จึงอดเป็นทริเปิ้ลแชมป์ ไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้น "เร้ด แมชชีนส์" ยังคงสานต่อความใหญ่โตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการป้องแชมป์ยุโรปได้อีกสมัย ในปี 1978 หลังจากนั้นหงส์แดง กลับมาครอบครองแชมป์ลีกในปี 1979 พอๆกับว่าตลอดเวลาที่ บ็อบ เพสลี่ย์ กุมบังเหียน ด้านหงส์แดง รวบแชมป์เข้าตู้โชว์ถึง 21 รายการ แบ่งเป็นยูโรปเปี้ยน คัพ 3 ครั้ง, ยูฟ่า คัพ 1 ครั้ง, ดิวิชั่นหนึ่ง 6 ครั้ง และลีก คัพ 3 ครั้ง ซึ่งมีเพียงแค่ถ้วยเดียวที่ เพสลี่ย์ เอื้อมไม่ถึงก็คือถ้วยเอฟเอ คัพ

ประวัติความเป็นมาชมรมลิเวอร์พูล
ยอดผู้จัดการทีมฟุตบอลระดับตำนาน ตกลงใจวางมือในปี 1983 และเป็น โจ เฟแกน อดีตมือขวาขึ้นมาเป็นแม่ทัพ ซึ่งเพียงฤดูกาลแรก เฟแกน ก็พาลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ลีก, ลีก คัพ แล้วก็ ยูโรเปี้ยน คัพ นำมาซึ่งการทำให้เฟแกน เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลคนแรกที่พาทีมได้ 3 แชมป์ ในหนึ่งฤดู ทั้งยังในช่วงฤดูกาล 1984-85 "ลิเวอร์พูล" ก็ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงแชมป์ศึกยูโรเปี้ยน คัพ แต่ว่าเกิดเหตุการณ์ไม่ได้นึกฝันขึ้น โดยหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มเกม ความดุเดือดในสนามก็เริ่มสร้างปัญหาขึ้น แฟนบอลทั้งสองฝ่ายตวาดยั่วยวนกวนประสาทกันไปมาผ่านรั้วลวดที่กันอยู่อย่างไม่แข็งแรงนัก หลังจากที่แฟนบอลฝั่งหงส์แดงโดนปาสิ่งของรัวใส่ "เดอะ ค็อป" เล็กน้อยก็เข้าจู่โจมแฟนบอลชาวอิตาเลียน เมื่อความยุ่งเหยิงในสนามควบคุมไม่อยู่แล้ว แฟนยูเวนตุๆสก็รีบหนีไปทางกำแพงซึ่งได้พังทลายลงมาทับร่างของพวกเขา แฟนบอล 39 รายเสียชีวิตอยู่ตรงนั้นเอง เป็นชาวอิตาลีแฟนบอลยูเวนเหม็นตุส 32 คน, เบลเยียม 4 คน, ประเทศฝรั่งเศส 2 คน และก็ไอร์แลนด์ 1 คน

เรื่องราวสมาพันธ์ลิเวอร์พูล
แม้กระนั้น เกมยังคงดำเนินตามที่มีการกำหนดการ ซึ่งลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายแพ้ไป 0-1 จากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นตอนนั้น ทำให้ชมรมจากเกาะอังกฤษ ถูกแบนไม่ให้ร่วมลงเตะในรายการยุโรป 5 ปี ส่วน โจ เฟแกน ตกลงใจลาออกจากตำแหน่ง แล้วก็เป็น เคนนี่ ดัลกลิช ที่มารับไม้ต่อในบทบาทผู้เล่น-ผู้จัดการทีมฟุตบอล โดยช่วงดังกล่าวมาแล้วข้างต้น สโมสรได้แชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ 3 ครั้ง รวมทั้งเอฟเอ คัพ อีก 2 ครั้ง แต่ว่าสมาพันธ์ราวกับจะต้องคำสาป เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติฮิลส์โบโร เมื่อวันเสาร์ที่ 15 เดือนเมษายน คริสต์ศักราช 1989

ประวัติสมาพันธ์หงส์แดง
ระหว่างเกม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศระหว่าง หงส์แดง กับ นอตติ้งหมูแฮม ฟอเรสต์ ที่สนามฮิลส์โบโรของรังเหย้าของ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ เพราะเหตุว่ามีคนคับแคบเข้ามาดูเกมมากเกินความจุก็เลยทำให้ อรรธจันทร์ ยืนได้พังทลายลงมาและทำให้มีผู้ตายถึง 96 คนซึ่งทั้งผองเป็นแฟนบอลของหงส์แดงแล้วก็มีผู้บาดเจ็บมากถึง 766 คนต่อไปทาง สโมสรบอลอังกฤษ จึงได้ออกกฎให้ทุกสโมสรรื้ออัฒจันทร์ยืนออกให้หมด และก็สร้างอรรธจันทร์แบบนั่งแทนทำให้ยุคอัฒจันทร์แบบยืนสิ้นสุดลง

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
เคนนี่ ดัลกลิช ตกลงใจทิ้งทีมไปแบบช็อกแฟนบอล ในปี 1991 โดยให้เหตุผลว่าทนแรงกดดันไม่ไหว แล้วก็เป็น เอ็งรม ซูเนสส์ ที่ขึ้นมาคุมกลุ่มแทน พร้อมด้วยได้แชมป์เอฟเอ คัพ ปี 1992 ซึ่งก็เป็นโทรฟี้เดียวที่ ซูเนสส์ คว้ามาประดับประดาตู้โชว์ ก่อนจะตกลงใจลาออกจากตำแหน่งในปี 1994 พร้อมทั้งตั้ง รอย อีแวนส์ มาเป็นแม่งาน และก็หยิบแชมปืลีก คัพ มาครอบครองในปี 1995 แต่ภาพรวมในยุค อีแวนส์ ไม่สู้ดี ทำให้ผู้บริหารตกลงใจดึงเชราร์ อูลิเย่ร์ เข้ามาเป็นกุนซือร่วม ในฤดูกาล 1998-99 ก่อนที่จะ อีแวนส์ จะติดสินหัวใจก้าวลงจากตำแหน่ง ทำให้ "เฮียโปน" แปลงเป็นผู้จัดการทีมอย่างเต็มกำลัง

เรื่องราวสมาพันธ์ลิเวอร์พูล
อูลิเย่ร์ พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์บอลถ้วยทั้งในระดับประเทศแล้วก็ระดับทวีปถึง 3 แชมป์ เป็นต้นว่าลีกคัพ, เอฟเอคัพ และก็ยูฟ่าคัพ ได้ในฤดูกาล2000/01 ส่วนในฤดูกาลถัดมา หงส์แดงยังคว้าถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพ ด้วยการเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในปีนั้น รวมทั้งเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ศัตรูตัวฉกาจในถ้วยแชร์ลิตี้ ชิลด์ แต่ว่าเทรนเนอร์ชาวประเทศฝรั่งเศส ประสบเจอกับปัญหาด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทำร้าย ก็เลยต้องถูกส่งตัวเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ ระหว่างฤดูกาล 2001-02 แต่ซีซั่นดังกล่าวข้างต้น "หงส์แดง" จบด้วยการด้อยกว่าแชมป์ ส่วนตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของอาร์เซน่อล

ประวัติสมาพันธ์หงส์แดง
ในช่วงฤดูกาล 2003-04 อูลิเย่ร์ ตกลงใจลงจากเก้าอี้ผู้จัดการทีมฟุตบอล พร้อมด้วยส่งไม้แม้กระทั่งกับราฟาเอล เบนิเตซ เฮดผู้ฝึกสอนจากแดนกระทิงดุ แม้ว่าปีแรกกับ "เอลบอส" จะออกจะน่าผิดหวังถ้าหากดูจากอันดับตารางในพรีเมียร์ลีกซึ่งจบด้วยการรั้งอันดับ 5 อย่างไรก็ดีแฟนบอลทั่วโลกได้ลืมความเจ็บปวดไปหมดเกลี้ยง เมื่อผู้จัดการทีฟุตบอล[/url]หน้าเลอะเทอะหนวด นำ "หงส์แดง" ผงาดเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกไปอย่างมากใหญ่ โดยอบชิงแชมป์ เป็นการชิงชัยที่ตื่นตาตื่นใจครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์บอลยุโรป เมื่อลิเวอร์พูลไล่ตีเสมอทีม เอซี มิลาน เป็น 3-3 ในขณะที่โดนยิงนำไปก่อนถึง 3-0 และก็ในที่สุด ก็ครอบครองแชมป์มาได้จากการยิงจุดโทษชนะ 3-2 เป็นทีมจากอังกฤษที่ครอบครองถ้วยยูโรเปียนคัพ (ปัจจุบันคือ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) มากครั้งที่สุดถึง 5 สมัย

ความเป็นมาสโมสรหงส์แดง
ผู้เล่นที่สำคัญในสมัยนั้น ก็มี สตีเวน พบร์ราร์ด, ชาบี อาทดลองโซ, ดีทมาร์ ฮามันน์, วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์, เจอร์ซี ดูเด็ค และ เจมี คาร์ราเกอร์ ในช่วงฤดูกาลต่อมา(2005/06) หงส์แดงของเบนิเตซทำให้แฟนบอลจะต้องลุ้นอีกครั้งในนัดหมายชิงเอฟเอคัพ เมื่อจำต้องอาศัยลูกยิงน่าพิศวงของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บตามตีเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 ในช่วงทดเวลาเจ็บ ซึ่งจำเป็นต้องลากยาวมาจนกระทั่งฏีกาอีกครั้ง รวมทั้ง "ลิเวอร์พูล" ก็สามารถชนะไปได้ 3-1 เป็นแชมป์สำคัญรายการล่าสุดที่หงส์แดงทำได้ แต่รายการที่แฟนบอลอยากมากที่สุดเป็นแชมป์ลีกของประเทศ หรือพรีเมียร์ลีกในตอนนี้ ซึ่งปีปัจจุบันที่ลิเวอร์พูลคว้ามาได้เป็น ฤดูกาล 1989/90

ประวัติชมรมลิเวอร์พูล
แล้วในช่วงฤดูกาล 2006-07 กลุ่มจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ เข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ข้างหลังจานายทุนคนประเทศอเมริกาอย่าง จอร์จ ยิลเล็ตต์ กับ ทอม ฮิคส์ เข้ามาเทคโอเวอร์ชมรม ด้วยค่ามากถึง 218.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9850 ล้านบาท) โดยปีดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ลิเวอร์พูล ทะยานเข้าชิงยูซีแอล อีกรอบ ซึ่งโคจรมาเจอกับคู่อริเก่าอย่างเอซี มิลาน แต่โอกาสนี้เป็นฝั่ง "ผีแดงดำ" ล้างแค้นเอาชนะไป 2-1 ส่วนในซีซั่นถัดมา (2008-09) ลิเวอร์พูล เก็บไปได้ถึง 86 คะแนน กลายเป็นสถิติสูงที่สุดของชมรม นับจากเปลี่ยนแปลงมาเป็นพรีเมียร์ลีก แต่ทว่าจำนวนดังกล่าส กลับไม่ดีพอที่จะส่งพวกเขาเป็นแชมป์ เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายแทรกเข้าป้ายครอบครองแชมป์ลีกไปครองอย่างปวด

ความเป็นมาสมาพันธ์ลิเวอร์พูล
ในช่วงฤดูกาล 2009-10 หงส์แดง ฟอร์มตกอย่างน่าตกใจ ภายหลังที่จบที่อันดับที่7 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งหมดสิทธิ์ไปแข่งในรายการ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทำให้เบนิเตซจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งถูกแทนที่แทนที่โดย รอย ฮอดจ์สัน อดีตกาลกุนซือฟูแลม ในตอนเริ่มต้นฤดูกาล 2010–11 ชมรมลิเวอร์พูลนั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการหมดตัว เหตุเพราะรับภาระหนี้สินจำนวนมากจากแนวทางการทำงานของ จอร์จ ยิลเลตต์ รวมทั้ง ทอม ฮิกส์ ทำให้ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี เจ้าของกลุ่มบอสตัน เรด ซ็อกซ์และนิว อิงแลนด์ สปอร์ตส์ เวนเจอร์ส อาศัยช่องฏว่ดังที่กล่าวถึงมาแล้ว เข้ามาฮุบกิจการค้าต่อจากสองเจ้าของเดิม แบบสายฟ้าปาดบ ซึ่งเรื่องไม่จบง่ายๆเมื่อ ยิลเล็ตต์ รวมทั้ง ฮิคส์ ไม่ยินยอม จนกระทั่งเกิดเรื่องราวฟ้องร้องคดีในเวลาต่อมา จาก www.hero88.co

ประวัติความเป็นมาสมาคมหงส์แดง
ตอนเดือนตุลาคม 2010 ผลของการแข่งขันที่ย่ำแย่ในตอนต้นฤดูกาล ทำให้ฮอดจ์สัน ลาออกจากตำแหน่ง โดยมี เคนนี ดัลกลิช กลับมาคุมกลุ่มอีกที โดยในฤดูกาล 2011-12 "คิงเคนนี่" สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีก คัพ สมัยที่แปดได้เสร็จ จากการยิงจุดลูกโทษชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซีตี้ ทว่าเมื่อจบฤดูกาล 2011-12 ลิเวอร์พูลจบที่อันดับที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นการจบชั้นที่ห่วยแตกที่สุดในรอบ 18 ปี ทางสโมสรตัดสินใจปลดดัลกลิชออกจากตำแหน่ง ช่วงวันที่ 1 มิถุนายน พุทธศักราช 2012 จากนั้นทางสมาคมได้ประกาศแต่งตั้ง เบรนแดน ร็อดพบส์ สมัยก่อนกุนซือสมาคม สวอนซี สิตี้ เป็นแม่ทัพคนใหม่นได้เช่นไร

ที่มา : [url]https://medium.com/@ballteng88/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3-89d1a2d380d9[/url]

Tags : ข่าวฟุตบอล,ฟุตบอล
17  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลที่ดัง เกิดขึ้นได้เช่นไร คนใดกันเป็นผู้จัดตั้ง By Ballteng8 เมื่อ: มกราคม 21, 2019, 01:53:20 am
จอห์น ฮูลดิ้ง เป็นผู้จัดตั้งสมาพันธ์หงส์แดง ก่อนที่จะเช่าพื้นที่บริเวณ แอนฟิลด์ เพื่อใช้สร้างสนามฟุตบอล พร้อมกับให้เอฟเวอร์ตัน เช่าเป็นสนามแข่งขัน ก่อนที่จะหงส์แดง จะก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในชื่อหงส์แดง เอฟซี ในเดือนมีนาคม 1892 และก็เมื่อกลุ่มเอฟเวอร์ตันได้เข้าสู่สมาชิกฟุตบอลลีก ด้าน จอห์น องค์การอนามัยโลกลดิ้ง อุตสาหะจะเข้าไปดูแลงานในกลุ่มเอฟเวอร์ตันและได้เพิ่มค่าเช่าสนามที่กลุ่มได้เช่าอยู่ ข้างกลุ่มบริหารของเอฟเวอร์ตันจึงยกเลิกสัญญาเช่าสนาม รวมทั้งทีมเอฟเวอร์ตันได้ย้ายสนามไปอีกฝากของสวนสาธารณะ สแตนลีย์พาร์ค เพื่อไปสร้างสนามเป็นของตนเองโดยใช้ชื่อสนามว่า ฉันดิสันพาร์ค

ประวัติชมรมหงส์แดง
ภายหลังจากริเริ่มตั้งขึ้นได้ไม่นาน หงส์แดงกลายเป็นสมาคมแนวหน้าของอังกฤษอย่างรวดเร็ว จนไปถึงเป้าหมายเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศคราวแรกในช่วงฤดูกาล 1900/01 และก็ครั้งลำดับที่สองใน ฤดู 1905/06 ก่อนจะกระเป๋านแชมป์สองฤดูกาลติดต่อในฤดูกาล1921/22 กับ 1922/23 แล้วหลังจากนั้นเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 5 ในช่วงฤดูกาล 1946/47 อย่างไรก็ดีฤดูกาล 1953/54 หงส์แดงพบกับตอนล่มจมจำต้องไปเล่นในในดิวิชัน 2 จึงได้มีการเปลี่ยนในด้วยการตั้ง บิลล์ แชงก์คลี่ย์ เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลในปี 1959

ประวัติความเป็นมาชมรมหงส์แดง
เขาได้เข้ามาซ่อมแซมทีมใหม่หมด ด้วยการโละนักฟุตบอลออกถึง 24 ราย พร้อมทั้งปรับโครงสร้างภายใสห้องแต่งตัว ให้มีความทันสมัยเยอะขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยก่อตั้ง "บูท รูม สตาฟฟ์" ชุดแรกขึ้นมา นำโดย โจ เฟแกน, รูเบ็น เบนเน็ตตื และ บ็อบ เพรียสลี่ย์ หลังจากนั้นจนบรรลุความสำเร็จได้เลื่อนชั้นในฤดูกาล 1961/62 และก็ฤดู 1963/64 พวกเขาก็ได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอีกครั้งใน ภายหลังรอคอยมานานถึง 17 ปี ด้วยทีเด็ดบอล ballteng88

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ปี 1965 แชงก์ลี่ย์ พาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพ ทว่าไปแพ้ให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในศึกคัพ วิเนอร์ส คัพ รอบชิงชนะเลิศ อย่างไรก็ดี "หงส์แดง" ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 อีกครั้งในช่วงฤดูกาลต่อมา ความสำเร็จของแชงก์ลียังเดินหน้าถัดไป เมื่อลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะยูฟ่าคัพ พร้อมแชมป์ดิวิชั่น 1 ใน ฤดู 1972/73 และก็เอฟเอคัพ อีกทีใน ฤดู 1973/74 ต่อไป แชงก์คลี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังที่อิ่มตัวกับความสำเร็จ ให้ผู้ช่วยของเขาตกทอดตำแหน่ง ผู้จัดการทีมฟุตบอลแทน โน่นเป็น บ็อบ เพสลี่ย์

เรื่องราวสโมสรลิเวอร์พูล
ในปี 1976 พาทีมเป็นแชมป์ลีกสูงสุด แล้วก็แชมป์ยูฟ่า คัพ ในปีเดียวกัน นอกจากนั้น เพสลี่ย์ ยังพาทีมเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พ่วงด้วยแชมป์ดิวิชั่น 1 แต่ว่าน่าเสียดายที่มาพลาดท่าพ่ายแพ้ในรอบชิงเอฟเอ คัพ 1977 จึงอดเป็นทริเปิ้ลแชมป์ ไปอย่างโชคร้าย หลังจากนั้น "เร้ด แมชชีนส์" ยังคงสานต่อความยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการป้องแชมป์ยุโรปได้อีกสมัย ในปี 1978 จากนั้นลิเวอร์พูล กลับมาคว้าแชมป์ลีกในปี 1979 เท่ากับว่าตลอดเวลาที่ บ็อบ เพสลี่ย์ จับบังเหียน ด้านลิเวอร์พูล รวบแชมป์เข้าตู้โชว์ถึง 21 รายการ แบ่งเป็นยูโรปเปี้ยน คัพ 3 ครั้ง, ยูฟ่า คัพ 1 ครั้ง, ดิวิชั่นหนึ่ง 6 ครั้ง แล้วก็ลีก คัพ 3 ครั้ง ซึ่งมีเพียงแต่ถ้วยเดียวที่ เพสลี่ย์ เอื้อมไม่ถึงก็คือถ้วยเอฟเอ คัพ

ความเป็นมาชมรมลิเวอร์พูล
ยอดผู้จัดการทีมระดับตำนาน ตกลงใจวางมือในปี 1983 แล้วก็เป็น โจ เฟแกน อดีตกาลมือขวาขึ้นมาเป็นแม่ทัพ ซึ่งเพียงแค่ซีซั่นแรก เฟแกน ก็พาลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ลีก, ลีก คัพ แล้วก็ ยูโรเปี้ยน คัพ ส่งผลให้เฟแกน เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลคนแรกที่พาทีมได้ 3 แชมป์ ในหนึ่งฤดูกาล ทั้งยังในช่วงฤดูกาล 1984-85 "ลิเวอร์พูล" ก็ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศศึกยูโรเปี้ยน คัพ แต่ทว่าเกิดเหตุการณ์ไม่ได้นึกฝันขึ้น โดยหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มเกม ความรุนแรงในสนามก็เริ่มก่อปัญหาขึ้น แฟนบอลทั้งสองฝ่ายแผดเสียงกวนโทสะกันไปมาผ่านรั้วลวดที่กั้นอยู่อย่างไม่แข็งแรงนัก ภายหลังที่แฟนบอลฝั่งลิเวอร์พูลโดนขว้างสิ่งของซ้ำๆใส่ "เดอะ ค็อป" นิดหน่อยก็เข้าโจมตีแฟนบอลชาวอิตาเลียน เมื่อความโกลาหลในสนามควบคุมไม่อยู่แล้ว แฟนยูเวนตุสก็รีบหนีไปทางกำแพงซึ่งได้พังทลายลงมาทับร่างของพวกเขา แฟนบอล 39 รายเสียชีวิตอยู่นั่นเอง เป็นชาวอิตาลีแฟนบอลยูเวนตุๆส 32 คน, เบลเยียม 4 คน, ฝรั่งเศส 2 คน และไอร์แลนด์ 1 คน

ความเป็นมาสมาคมหงส์แดง
แต่ เกมยังคงดำเนินตามที่กำหนดการ ซึ่งลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายแพ้ไป 0-1 จากเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นตอนนั้น ส่งผลให้สโมสรจากเกาะอังกฤษ ถูกแบนไม่ให้ร่วมลงเตะในรายการยุโรป 5 ปี ส่วน โจ เฟแกน ตกลงใจลาออกจากตำแหน่ง แล้วก็เป็น เคนนี่ ดัลกลิช ที่มารับไม้ต่อในบทบาทผู้เล่น-กุนซือ โดยขณะดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น สโมสรคว้าชัยชนะดิวิชั่น 1 ได้ 3 ครั้ง และเอฟเอ คัพ อีก 2 ครั้ง แต่สโมสรเสมือนต้องคำแช่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์เภทภัยฮิลส์โบโร เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ม.ย. คริสต์ศักราช 1989

ประวัติความเป็นมาสมาคมลิเวอร์พูล
ระหว่างเกม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศระหว่าง หงส์แดง กับ นอตติ้งหมูแฮม ฟอเรสต์ ที่สนามฮิลส์โบโรของรังเหย้าของ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ เนื่องจากมีคนคับแคบเข้ามาดูเกมมากเกินความจุก็เลยทำให้ อรรธจันทร์ ยืนได้พังทลายลงมาและก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 96 คนซึ่งทั้งผองเป็นแฟบอล[/url]ของลิเวอร์พูลแล้วก็มีคนที่บาดเจ็บมากถึง 766 คนหลังจากนั้นทาง ชมรมบอลอังกฤษ ก็เลยได้ออกกฎให้ทุกสโมสรรื้อถอนอรรธจันทร์ยืนออกให้หมด แล้วก็สร้างอรรธจันทร์แบบนั่งแทนทำให้ยุคอรรธจันทร์แบบยืนสิ้นสุดลง

ประวัติความเป็นมาสโมสรหงส์แดง
เคนนี่ ดัลกลิช ตกลงใจทิ้งทีมไปแบบช็อกแฟนบอล ในปี 1991 โดยให้เหตุผลว่าทนแรงกดดันไม่ไหว และก็เป็น แกรม ซูเนสส์ ที่ขึ้นมาคุมทีมแทน พร้อมทั้งได้แชมป์เอฟเอ คัพ ปี 1992 ซึ่งก็เป็นโทรฟี้เดียวที่ ซูเนสส์ คว้ามาแต่งแต้มตู้โชว์ ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในปี 1994 พร้อมด้วยตั้ง รอย อีแวนส์ มาเป็นแม่งาน แล้วก็ถือแชมปืลีก คัพ มาครองในปี 1995 แต่ว่าภาพรวมในยุค อีแวนส์ ไม่สู้ดี ทำให้ผู้บริหารตัดสินใจดึงเชราร์ อูลิเย่ร์ เข้ามาเป็นกุนซือร่วม ในฤดูกาล 1998-99 ก่อนที่จะ อีแวนส์ จะติดสินจิตใจก้าวลงจากตำแหน่ง นำมาซึ่งการทำให้ "เฮียโปน" แปลงเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลอย่างเต็มตัว

ความเป็นมาสโมสรลิเวอร์พูล
อูลิเย่ร์ พาลิเวอร์พูลครอบครองแชมป์บอลถ้วยอีกทั้งในระดับประเทศและระดับทวีปถึง 3 แชมป์ ได้แก่ลีกคัพ, เอฟเอคัพ และยูฟ่าคัพ ได้ในช่วงฤดูกาล2000/01 ส่วนในฤดูกาลต่อมา หงส์แดงยังคว้าถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพ ด้วยการเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในปีนั้น แล้วก็เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่แข่งตัวฉกาจในถ้วยแชร์ลิตี้ ชิลด์ ทว่าเทรนเนอร์ชาวประเทศฝรั่งเศส เจอปัญหาด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทำร้าย ก็เลยจะต้องถูกส่งตัวเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ ระหว่างฤดูกาล 2001-02 แม้กระนั้นฤดูกาลดังที่กล่าวถึงมาแล้ว "หงส์แดง" จบด้วยการด้อยกว่าแชมป์ ส่วนตำแหน่งแชมป์เป็นของอาร์เซน่อล

ความเป็นมาสมาคมหงส์แดง
ในฤดูกาล 2003-04 อูลิเย่ร์ ตกลงใจลงจากเก้าอี้ที่ปรึกษา พร้อมทั้งส่งไม้แม้กระทั่งกับราฟาเอล เบนิเตซ เฮดโค้ชจากแดนกระทิงดุ ถึงแม้ปีแรกกับ "เอลบอส" จะออกจะน่าผิดหวังถ้าดูจากชั้นตารางในพรีเมียร์ลีกซึ่งจบด้วยการรั้งอันดับ 5 แม้กระนั้นแฟนบอลทั้งโลกได้ลืมความเจ็บปวดไปหมดไป เมื่อผู้จัดการทีมฟุตบอลหน้าเลอะเทอะหนวด นำ "หงส์แดง" ผงาดเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกไปอย่างยิ่งใหญ่ โดยอบชิงแชมป์ เป็นการชิงชัยที่ตื่นตาตื่นใจครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์บอลยุโรป เมื่อหงส์แดงไล่ตีเสมอทีม เอซี มิลาน เป็น 3-3 ทั้งที่โดนยิงนำไปก่อนถึง 3-0 รวมทั้งในที่สุด ก็ครอบครองแชมป์มาได้จากการยิงจุดโทษชนะ 3-2 เป็นทีมจากอังกฤษที่ครองถ้วยยูโรเปียนคัพ (เดี๋ยวนี้คือ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) มากครั้งที่สุดถึง 5 สมัย

ประวัติความเป็นมาชมรมหงส์แดง
ผู้เล่นที่สำคัญในสมัยนั้น ก็มี สตีเวน เจอร์ราร์ด, ชาบี อาลองโซ, ดีทมาร์ ฮามันน์, วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์, เจอร์ซี มองเด็ค แล้วก็ เจมี คาร์ราเกอร์ ในฤดูกาลถัดมา(2005/06) หงส์แดงของเบนิเตซทำให้แฟนบอลจำเป็นต้องลุ้นอีกทีในนัดหมายชิงเอฟเอคัพ เมื่อต้องอาศัยลูกยิงน่าพิศวงของ สตีเวน พบร์ราร์ด ในช่วงทดเวลาเจ็บตามตีเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บ ซึ่งจะต้องลากยาวมาจนถึงฏีกาอีกที และก็ "หงส์แดง" ก็สามารถชนะไปได้ 3-1 เป็นแชมป์สำคัญรายการปัจจุบันที่หงส์แดงทำเป็น แม้กระนั้นรายการที่แฟนบอลปรารถนาเยอะที่สุดเป็นแชมป์ลีกของประเทศ หรือพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน ซึ่งปีล่าสุดที่ลิเวอร์พูลคว้ามาได้คือ ฤดูกาล 1989/90

ประวัติสมาพันธ์หงส์แดง
ต่อจากนั้นในฤดูกาล 2006-07 ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ เข้าสู่ยุคแห่งความเคลื่อนไหว ข้างหลังจานายทุนคนประเทศอเมริกาอย่าง จอร์จ ยิลเล็ตต์ กับ ทอม ฮิคส์ เข้ามาเทคโอเวอร์ชมรม ด้วยราคาสูงถึง 218.9 ล้านปอนด์ (ราว 9850 ล้านบาท) โดยปีดังกล่าวข้างต้น หงส์แดง ทะยานเข้าชิงยูซีแอล อีกที ซึ่งโคจรมาพบกับคู่แข่งขันเก่าอย่างเอซี มิลาน แต่ว่าคราวนี้เป็นฝั่ง "ปิศาจแดงดำ" ล้างแค้นเอาชนะไป 2-1 ส่วนในซีซั่นถัดมา (2008-09) หงส์แดง เก็บไปได้ถึง 86 คะแนน กลายเป็นสถิติเยอะที่สุดของสโมสร นับตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีก ทว่าจำนวนดังกล่าส กลับไม่ดีพอที่จะส่งพวกเขาเป็นแชมป์ เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นข้างเบียดเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกไปครองอย่างเจ็บปวด

เรื่องราวสมาพันธ์หงส์แดง
ในฤดูกาล 2009-10 หงส์แดง ฟอร์มตกอย่างน่าตกใจ ภายหลังที่จบที่ชั้นที่7 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งหมดสิทธิ์ไปแข่งขันในรายการ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทำให้เบนิเตซจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย แล้วก็ถูกแทนที่แทนที่โดย รอย ฮอดจ์สัน สมัยก่อนผู้จัดการทีมฟุตบอลฟูแลม ในช่วงเริ่มต้นฤดู 2010–11 สโมสรลิเวอร์พูลนั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการล้มละลาย เพราะว่าโกดังเก็บสินค้าจำนวนมากจากการทำงานของ จอร์จ ยิลเลตต์ แล้วก็ ทอม ฮิกส์ ทำให้ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี เจ้าของทีมบอสตัน เรด ซ็อกซ์แล้วก็นิว อิงแลนด์ สปอร์ตส์ เวนพบร์ส อาศัยช่องฏว่ดังที่กล่าวมาแล้ว เข้ามาฮุบธุรกิจต่อจากสองเจ้าของเดิม แบบสายฟ้าแล่บ ซึ่งเรื่องไม่จบง่ายๆเมื่อ ยิลเล็ตต์ และก็ ฮิคส์ ไม่ยินยอม จนเป็นเรื่องราวฟ้องในเวลาต่อมา จาก www.hero88.co

ประวัติสมาพันธ์หงส์แดง
ตอนตุลาคม 2010 ผลที่ได้รับจากการแข่งขันที่ทรุดโทรมในตอนต้นฤดูกาล ทำให้ฮอดจ์สัน ลาออกจากตำแหน่ง โดยมี เคนนี ดัลกลิช กลับมาคุมกลุ่มอีกครั้ง โดยในฤดูกาล 2011-12 "คิงเคนนี่" สามารถพาทีมครองแชมป์ลีก คัพ ยุคที่แปดได้เสร็จ จากการยิงจุดโทษชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซีตี้ ทว่าเมื่อหมดฤดูกาล 2011-12 หงส์แดงจบที่อันดับที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นการจบอันดับที่แย่ที่สุดในรอบ 18 ปี ทางสมาคมตกลงใจปลดดัลกลิชออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2012 จากนั้นทางสโมสรได้ประกาศแต่งตั้ง เบรนแดน ร็อดเจอส์ อดีตกาลกุนซือชมรม สวอนซี ซิตี้ เป็นแม่ทัพคนใหม่นได้เช่นไร

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]https://medium.com/@ballteng88/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3-89d1a2d380d9[/url]

Tags : ข่าวฟุตบอล,บอล,ฟุตบอล
18  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ชมรมฟุตบอลหงส์แดงที่ดัง เกิดขึ้นได้ยังไง ผู้ใดเป็นผู้จัดตั้ง By Ballteng88 เมื่อ: มกราคม 18, 2019, 07:31:18 pm
จอห์น ฮูลดิ้ง เป็นผู้ก่อตั้งสโมสรหงส์แดง ก่อนจะเช่าพื้นที่รอบๆ แอนฟิลด์ เพื่อใช้สร้างสนามฟุตบอล กับให้เอฟเวอร์ตัน เช่าเป็นสนามสำหรับเพื่อการแข่งขัน ก่อนที่ลิเวอร์พูล จะก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในชื่อลิเวอร์พูล เอฟซี ในมีนาคม 1892 และเมื่อทีมเอฟเวอร์ตันได้ไปสู่สมาชิกฟุตบอลลีก ด้าน จอห์น ฮูลดิ้ง บากบั่นจะเข้าไปดำเนินงานในกลุ่มเอฟเวอร์ตันรวมทั้งได้เพิ่มค่าเช่าสนามที่ทีมได้เช่าอยู่ ฝ่ายกรุ๊ปบริหารของเอฟเวอร์ตันก็เลยยกเลิกสัญญาเช่าสนาม และทีมเอฟเวอร์ตันได้ย้ายสนามไปอีกฝากของสวนสาธารณะ สแตนลีย์พาร์ค เพื่อไปสร้างสนามเป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อสนามว่า กูดิสันพาร์ค

ประวัติความเป็นมาสโมสรหงส์แดง
หลังจากก่อตั้งได้ไม่นาน หงส์แดงกลายเป็นสโมสรแนวหน้าของอังกฤษอย่างเร็ว จนกระทั่งประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศหนแรกในช่วงฤดูกาล 1900/01 และครั้งลำดับที่สองใน ฤดูกาล 1905/06 ก่อนที่จะเป้นแชมป์สองฤดูติดต่อในฤดูกาล1921/22 กับ 1922/23 ต่อจากนั้นเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 5 ในช่วงฤดูกาล 1946/47 อย่างไรก็ตามซีซั่น 1953/54 ลิเวอร์พูลพบกับตอนเสื่อมถอยจำเป็นต้องไปเล่นในในดิวิชัน 2 ก็เลยได้มีการเปลี่ยนแปลงในด้วยการแต่ง บิลล์ แชงก์แผ่ย์ เป็นกุนซือในปี 1959

ความเป็นมาสมาพันธ์ลิเวอร์พูล
เขาได้เข้ามาบูรณะกลุ่มใหม่หมด ด้วยการโละนักฟุตบอลออกถึง 24 ราย พร้อมกับปรับโครงสร้างภายใสห้องแต่งตัว ให้มีความล้ำยุคเยอะขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับจัดตั้ง "บูท รูม สตาฟฟ์" ชุดแรกขึ้นมา นำโดย โจ เฟแกน, รูเบ็น เบนเน็ตตื และ บ็อบ เพรียสลี่ย์ แล้วหลังจากนั้นจนถึงบรรลุเป้าหมายได้เลื่อนชั้นในฤดูกาล 1961/62 และก็ฤดูกาล 1963/64 พวกเขาก็ได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอีกรอบใน ภายหลังรอมานานถึง 17 ปี ด้วยทีเด็ดบอล ballteng88

เรื่องราวสมาคมหงส์แดง
ปี 1965 แชงก์ลี่ย์ พาทีมคว้าชัยชนะเอฟเอคัพ ทว่าไปพ่ายให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในศึกคัพ วิเนอร์ส คัพ รอบชิงแชมป์ แม้กระนั้น "หงส์แดง" คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 อีกทีในฤดูกาลต่อมา ความสำเร็จของแชงก์ลียังเดินหน้าต่อไป เมื่อหงส์แดงครองแชมป์ยูฟ่าคัพ พร้อมแชมป์ดิวิชั่น 1 ใน ฤดู 1972/73 แล้วก็เอฟเอคัพ อีกครั้งใน ฤดู 1973/74 จากนั้น แชงก์คลี ตกลงใจลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังที่อิ่มตัวกับการบรรลุผล ให้ผู้ช่วยของเขาสืบทอดตำแหน่ง ผู้จัดการทีมแทน นั่นเป็น บ็อบ เพสลี่ย์

เรื่องราวสมาพันธ์หงส์แดง
ในปี 1976 พาทีมเป็นแชมป์ลีกสูงสุด แล้วก็แชมป์ยูฟ่า คัพ ในปีเดียวกัน ยิ่งไปกว่านี้ เพสลี่ย์ ยังพาทีมเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พ่วงด้วยแชมป์ดิวิชั่น 1 แต่ว่าน่าเสียดายที่มาพลาดท่าพ่ายแพ้ในรอบชิงเอฟเอ คัพ 1977 ก็เลยอดเป็นทริเปิ้ลแชมป์ ไปอย่างโชคร้าย แล้วต่อจากนั้น "เร้ด แมชชีนส์" ยังคงสืบต่อความยิ่งใหญ่อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการป้องแชมป์ยุโรปได้อีกสมัย ในปี 1978 จากนั้นหงส์แดง กลับมาครอบครองแชมป์ลีกในปี 1979 พอๆกับว่าตลอดเวลาที่ บ็อบ เพสลี่ย์ จับบังเหียน ด้านลิเวอร์พูล รวบแชมป์เข้าตู้โชว์ถึง 21 รายการ แบ่งเป็นยูโรปเปี้ยน คัพ 3 ครั้ง, ยูฟ่า คัพ 1 ครั้ง, ดิวิชั่นหนึ่ง 6 ครั้ง รวมทั้งลีก คัพ 3 ครั้ง ซึ่งมีเพียงแต่ถ้วยเดียวที่ เพสลี่ย์ เอื้อมไม่ถึงก็คือถ้วยเอฟเอ คัพ

ประวัติความเป็นมาสมาพันธ์ลิเวอร์พูล
ยอดกุนซือระดับตำนาน ตกลงใจวางมือในปี 1983 รวมทั้งเป็น โจ เฟแกน อดีตมือขวาขึ้นมาเป็นแม่ทัพ ซึ่งเพียงแค่ซีซั่นแรก เฟแกน ก็พาลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ลีก, ลีก คัพ และ ยูโรเปี้ยน คัพ ส่งผลให้เฟแกน เป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่พาทีมได้ 3 แชมป์ ในหนึ่งฤดูกาล ทั้งในช่วงฤดูกาล 1984-85 "ลิเวอร์พูล" ก็ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศศึกยูโรเปี้ยน คัพ แต่ทว่าเกิดเหตุการณ์นึกไม่ถึงขึ้น โดยหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มเกม ความดุเดือดเลือดพล่านในสนามก็เริ่มก่อเรื่องขึ้น แฟนบอลทั้งสองฝ่ายตะเบ็งกวนโมโหกันไปๆมาๆผ่านรั้วลวดที่กั้นอยู่อย่างไม่แข็งแรงนัก หลังจากที่แฟนบอลฝั่งลิเวอร์พูลโดนขว้างข้าวของรัวใส่ "เดอะ ค็อป" บางส่วนก็เข้าจู่โจมแฟนบอลชาวอิตาเลียน เมื่อความวุ่นวายในสนามควบคุมไม่อยู่แล้ว แฟนยูเวนเหม็นตุสก็รีบหนีไปทางกำแพงซึ่งได้พังทลายลงมาทับร่างของพวกเขา แฟนบอล 39 รายเสียชีวิตอยู่นั่นเอง เป็นชาวอิตาลีแฟนบอลยูเวนเหม็นตุส 32 คน, เบลเยียม 4 คน, ฝรั่งเศส 2 คน แล้วก็ไอร์แลนด์ 1 คน

เรื่องราวชมรมหงส์แดง
อย่างไรก็ดี เกมยังคงดำเนินตามที่มีการกำหนดการ ซึ่งลิเวอร์พูล เป็นข้างแพ้ไป 0-1 จากเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นตอนนั้น นำมาซึ่งการทำให้ชมรมจากเกาะอังกฤษ ถูกแบนไม่ให้ร่วมลงเตะในรายการยุโรป 5 ปี ส่วน โจ เฟแกน ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง รวมทั้งเป็น เคนนี่ ดัลกลิช ที่มารับไม้ต่อในหน้าที่ผู้เล่น-กุนซือ โดยช่วงดังกล่าว สมาพันธ์คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ 3 ครั้ง รวมทั้งเอฟเอ คัพ อีก 2 ครั้ง แต่ชมรมเหมือนจำเป็นต้องคำแช่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์หายนะฮิลส์โบโร เมื่อวันเสาร์ที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1989

ประวัติความเป็นมาชมรมหงส์แดง
ระหว่างเกม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ นอตติ้งหมูแฮม ฟอเรสต์ ที่สนามฮิลส์โบโรของรังเหย้าของ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ เหตุเพราะมีคนแออัดคับแคบเข้ามาดูเกมมากเกินความจุก็เลยทำให้ อัฒจันทร์ ยืนได้พังลงมาแล้วก็ทำให้มีผู้ตายถึง 96 คนซึ่งทั้งหมดเป็นแฟนบอลของลิเวอร์พูลและก็มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมากถึง 766 คนจากนั้นทาง สโมสรฟุตบอลอังกฤษ จึงได้ออกกฎให้ทุกสมาคมรื้ออรรธจันทร์ยืนออกให้หมด และก็สร้างอรรธจันทร์แบบนั่งแทนทำให้ยุคอัฒจันทร์แบบยืนสิ้นสุดลง

ประวัติสมาพันธ์ลิเวอร์พูล
เคนนี่ ดัลกลิช ตกลงใจทิ้งทีมไปแบบช็อกแฟนบอล ในปี 1991 โดยบอกเหตุผลว่าทนแรงกดดันไม่ไหว และก็เป็น แกรม ซูเนสส์ ที่ขึ้นมาคุมกลุ่มแทน กับได้แชมป์เอฟเอ คัพ ปี 1992 ซึ่งก็เป็นโทรฟี่เดียวที่ ซูเนสส์ คว้ามาประดับตู้โชว์ ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในปี 1994 พร้อมกับแต่งตั้ง รอย อีแวนส์ มาเป็นหัวเรือใหญ่ แล้วก็ถือแชมปืลีก คัพ มาครอบครองในปี 1995 แต่ทว่าภาพรวมในสมัย อีแวนส์ ไม่สู้ดี ทำให้ผู้บริหารตกลงใจดึงเชราร์ อูลิเย่ร์ เข้ามาเป็นกุนซือร่วม ในช่วงฤดูกาล 1998-99 ก่อนที่ อีแวนส์ จะติดสินหัวใจก้าวลงจากตำแหน่ง ส่งผลให้ "เฮียโปน" แปลงเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลอย่างเต็มกำลัง

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
อูลิเย่ร์ พาลิเวอร์พูลครองแชมป์บอลถ้วยอีกทั้งในระดับประเทศแล้วก็ระดับทวีปถึง 3 แชมป์ ดังเช่นว่าลีกคัพ, เอฟเอคัพ และก็ยูฟ่าคัพ ได้ในฤดูกาล2000/01 ส่วนในฤดูกาลต่อมา หงส์แดงยังคว้าถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพ ด้วยการเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในปีนั้น รวมทั้งเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ต่อสู้ตัวฉกาจในถ้วยแชร์ลิตี้ ชิลด์ แต่เทรนเนอร์ชาวประเทศฝรั่งเศส เผชิญกับปัญหาด้านของสุขภาพเล่นงาน ก็เลยจำต้องถูกส่งตัวเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ ระหว่างฤดู 2001-02 แต่ซีซั่นดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว "หงส์แดง" จบด้วยการด้อยกว่าแชมป์ ส่วนตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของอาร์เซน่อล

ประวัติสมาคมหงส์แดง
ในช่วงฤดูกาล 2003-04 อูลิเย่ร์ ตกลงใจลงจากเก้าอี้ผู้จัดการทีม พร้อมกับส่งไม้ต่อให้กับราฟาเอล เบนิเตซ เฮดผู้ฝึกสอนจากแดนกระทิงดุ แม้ปีแรกกับ "เอลบอส" จะออกจะน่าผิดหวังถ้ามองจากอันดับตารางในพรีเมียร์ลีกซึ่งจบด้วยการรั้งชั้น 5 อย่างไรก็ดีแฟนบอลทั้งโลกได้ลืมความเจ็บปวดไปหมดเกลี้ยง เมื่อผู้จัดการทีมฟุตบอลหน้าเปรอะหนวด นำ "หงส์แดง" ผงาดเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกไปอย่างมากใหญ่ โดยอบชิงชนะเลิศ เป็นการชิงชัยที่ตื่นตาตื่นใจครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์บอลยุโรป เมื่อหงส์แดงไล่ตีเสมอทีม เอซี มิลาน เป็น 3-3 ในขณะที่โดนยิงนำไปก่อนถึง 3-0 รวมทั้งในที่สุด ก็คว้าแชมป์มาได้จากการยิงจุดลูกโทษชนะ 3-2 เป็นทีมจากอังกฤษที่ครอบครองถ้วยยูโรเปียนคัพ (ตอนนี้เป็น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) มากมายครั้งที่สุดถึง 5 ยุค

ประวัติชมรมหงส์แดง
ผู้เล่นที่สำคัญในสมัยนั้น ก็มี สตีเวน พบร์ราร์ด, ชาบี อาลองโซ, ดีทมาร์ ฮามันน์, วลาดิภรรยาร์ ซมิเซอร์, เจอร์ซี ดูเด็ค รวมทั้ง เจมี คาร์ราเกอร์ ในฤดูกาลต่อมา(2005/06) ลิเวอร์พูลของเบนิเตซทำให้แฟนบอลจำต้องลุ้นอีกทีในนัดหมายชิงเอฟเอคัพ เมื่อต้องอาศัยลูกยิงน่าพิศวงของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บตามตีเสมอ เวสต์หมูแฮม ยูไนเต็ด 3-3 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งจะต้องลากยาวมาจนถึงฏีกาอีกที รวมทั้ง "ลิเวอร์พูล" ก็สามารถชนะไปได้ 3-1 เป็นแชมป์สำคัญรายการล่าสุดที่หงส์แดงทำเป็น แต่รายการที่แฟนบอลต้องการสูงที่สุดเป็นแชมป์ลีกของประเทศ หรือพรีเมียร์ลีกในตอนนี้ ซึ่งปีล่าสุดที่ลิเวอร์พูลคว้ามาได้เป็น ฤดูกาล 1989/90

ความเป็นมาสมาพันธ์หงส์แดง
แล้วในฤดูกาล 2006-07 ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ไปสู่ยุคแห่งความเคลื่อนไหว ข้างหลังจานายทุนคนอเมริกันอย่าง จอร์จ ยิลเล็ตต์ กับ ทอม ฮิคส์ เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร ด้วยมูลค่ามากถึง 218.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9850 ล้านบาท) โดยปีดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น หงส์แดง ทะยานเข้าชิงยูซีแอล อีกที ซึ่งโคจรมาเจอกับคู่อริเก่าอย่างเอซี มิลาน แต่ว่าครั้งนี้เป็นฝั่ง "อสุรกายแดงดำ" เอาคืนเอาชนะไป 2-1 ส่วนในซีซั่นต่อมา (2008-09) ลิเวอร์พูล เก็บไปได้ถึง 86 คะแนน เปลี่ยนเป็นสถิติมากที่สุดของสโมสร นับจากเปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีก แต่ทว่าจำนวนดังกล่าส กลับไม่ดีพอที่จะส่งพวกเขาเป็นแชมป์ เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายแทรกเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกไปครอบครองอย่างเจ็บ

ประวัติชมรมลิเวอร์พูล
ในฤดูกาล 2009-10 หงส์แดง ฟอร์มตกอย่างน่าตกใจ ภายหลังที่จบที่อันดับที่7 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งหมดสิทธิ์ไปแข่งในรายการ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทำให้เบนิเตซจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งด้วยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย และถูกแทนที่แทนที่โดย รอย ฮอดจ์สัน อดีตกาลผู้จัดการทีมฟูแลม ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2010–11 สมาพันธ์ลิเวอร์พูลนั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการล้มละลาย เพราะโกดังเก็บสินค้าเป็นจำนวนมากจากรูปแบบการทำงานของ จอร์จ ยิลเลตต์ และ ทอม ฮิกส์ ทำให้ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี ผู้ครอบครองทีมบอสตัน เรด ซ็อกซ์แล้วก็นิว อิงแลนด์ สปอร์ตส์ เวนเจอร์ส อาศัยช่องฏว่ดังกล่าวข้างต้น เข้ามาฮุบกิจการต่อจากสองเจ้าของเดิม แบบสายฟ้าแล่บ ซึ่งเรื่องไม่จบกล้วยๆเมื่อ ยิลเล็ตต์ และ ฮิคส์ ไม่ยินยอม กระทั่งเกิดเรื่องราวฟ้องร้องคดีในเวลาถัดมา จาก www.hero88.co

ประวัติความเป็นมาสมาคมลิเวอร์พูล
ตอนต.ค. 2010 ผลที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันที่ตกอับในช่วงต้นฤดู ทำให้ฮอดจ์สัน ลาออกจากตำแหน่ง โดยมี เคนนี ดัลกลิช กลับมาคุมทีมอีกครั้ง โดยในช่วงฤดูกาล 2011-12 "คิงเคนนี่" สามารถพาทีมได้แชมป์ลีก คัพ ยุคที่แปดได้เสร็จ จากการยิงจุดโทษชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซีตี้ ทว่าเมื่อสิ้นสุดฤดู 2011-12 ลิเวอร์พูลจบที่อันดับที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นการจบชั้นที่ห่วยแตกที่สุดในรอบ 18 ปี ทางสมาคมตกลงใจปลดดัลกลิชออกจากตำแหน่ง ช่วงวันที่ 1 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2012 แล้วหลังจากนั้นทางชมรมได้ประกาศแต่งตั้ง เบรนแดน ร็อดเจอส์ อดีตกาลผู้จัดการทีมฟุตบอลสมาคม สวอนซี ซิตี้ เป็นแม่ทัพคนใหม่นได้อย่างไร
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวฟุตบอล

เครดิต : [url]https://medium.com/@ballteng88/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3-89d1a2d380d9[/url]

Tags : ฟุตบอล
19  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ความเป็นมาฟุตบอล ที่ไปที่มาของบอล เมื่อ: มกราคม 09, 2019, 09:35:47 pm
ประวัติความเป็นมาฟุตบอล – บอล (Football) หรือซอคเก้อร์ (Soccer) เป็นกีฬาที่มีผู้พอใจที่จะชมการแข่งขันชิงชัยรวมทั้งร่วมเล่นเยอะที่สุดในโลก เชื้อชาติใดเป็นผู้เกิดกีฬาจำพวกนี้อย่างแท้จริงนั้นไม่อาจจะการันตีได้แน่ๆเนื่องจากว่าแต่ละชาติต่างยืนยันว่ามีสาเหตุจากประเทศของตน แม้กระนั้นในประเทศฝรั่งเศสแล้วก็ประเทศอิตาลีได้มีการละเล่นชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ซูเลอ” (Soule) หรือจิโอวัว เดล ติดอยู่ซิโอ (Gioco Del Calcio) มีลักษณะการเล่นที่ละม้ายกับกีฬาฟุตบอลในขณะนี้ ทั้งคู่ประเทศบางครั้งอาจจะแย้งกันว่ากีฬาฟุตบอลเกิดจากประเทศของตน อันเป็นการหาข้อยุติมิได้ เพราะว่าขาดหลักฐานรับรองอย่างแท้จริง ดังนั้น ประวัติของกีฬาบอลที่มีหลักฐานที่จริงจริงสามารถจะอ้างอิงได้ เพราะการเล่นที่มีข้อตกลงการแข่งขันที่แน่ๆ คือประเทศอังกฤษเนื่องจากประเทศอังกฤษตั้งสมาคมฟุตบอลในปี พ.ศ. 2406 แล้วก็ฟุตบอลอาชีพของอังกฤษเกิดขึ้นในปี พุทธศักราช 2431 ขอบคุณที่มา ballteng88

ความเป็นมาฟุตบอล
วิวัฒนาการด้านฟุตบอลจะเป็นไปพร้อมทั้งความรุ่งโรจน์ของคนเราตลอดมา ต้นกำเนิดกีฬาตะวันออกไกลจะได้รับอิทธิพลมาจากการสู้รบครั้งหลักๆอาทิเช่นการทำศึกพระผู้เป็นเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ได้นำเอา “เอ็งลโล-โรมัน” (Gello-Roman) พร้อมกีฬาต่างๆเข้ามาสู่เมืองกอล (Gaul) อันเป็นรากฐานส่วนใดส่วนหนึ่งของกีฬาฟุตบอลในอนาคต และก็การเล่นฮาร์ขว้างสตัม (Harpastum) ได้ถูกดัดแปลงแก้ไขมาเป็นกีฬาซูเลอ

วิวัฒนาการของบอล
ภาคตะวันออกไกล
ขงจื้อได้กล่าวเอาไว้ในหนังสือ “กังฟู” เกี่ยวกับกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่ใช้เท้าและหัวในยุคจักรพรรดิ์ เซิงติ (Emperor Cneng Ti) (ปี 32 ก่อนคริสตกาล) มีการเล่นกีฬาที่คล้ายกับฟุตบอลซึ่งเรียกว่า”ซือ-ซู” (Tsu-Chu) ซึ่งหมายถึงการเตะลูกหนังด้วยเท้า กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากมายซึ่งผู้ประพันธ์และก็นักประวัติศาสตร์ในยุคนั้นได้ชมเชยผู้เล่นที่เป็นที่รู้จักให้เป็นวีรบุรุษของชาติ และก็ในยุคเดียวกันได้มีการเล่นคล้ายบอลในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ภาคตะวันออกกลาง
ในกรุงโรม ความรุ่งเรืองของตะวันออกไกลได้แผ่กว้างถึงตะวันออกกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอิทธิพลของสงคราม โดยพระผู้เป็นเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช การเล่นกีฬาชนิดหนึ่งเรียกว่า ฮาร์ปาสตัม เป็นกีฬาที่นิยมของชาวโรมันรวมทั้งชาวกรีกโบราณขั้นตอนการเล่นเป็น มีประตูคนละข้าง แล้วเตะลูกบอลไปยังจุดหมายที่ต้องการ เป็นต้นว่า จากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง การเล่นจะเป็นการเตะ หรือการปาไปด้านหน้าฮาร์ขว้างสตัม หมายความว่าการเหวี่ยงไปด้านหน้า การเล่นกีฬาฮาร์ปาสตัมในกรุงโรมดูเหมือนจะเป็นต้นกำเนิดของกีฬาซึ่งมีการเล่นในยุคกลาง

ในการเล่นฮาร์ขว้างสตัม ขนาดของสนามจะเล็กกว่าสนามกีฬาซูเลอ แต่จุดมุ่งหมายของกีฬาทั้งสองคือ การนำบอล ไปยังดินแดนของตนแต่ว่าเพราะว่ามีเสียงอึกทึกปึงปังจากการวิ่งแย่งบอล ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้มากมาย อันเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตของพระเจ้า ก็เลยมีพระบรมราชโองการในนามของพระมหากษัตริย์ห้ามเล่นกีฬาดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วในเมือง ผู้ฝืนมีโทษถึงติดคุก นอกเหนือจากนั้นยังมีข้อกำหนดซึ่งออกในวันที่ 12 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช1892 ขอให้เล่นยิงธนูในวันฉลองต่างๆแทนการเล่นเกมบอล

ในช่องทางถัดมากีฬาบอลได้จัดให้มีการแข่งขันกันอีกครั้ง ซึ่งเป็นการประจันหน้ากันระหว่างทีมต่างๆที่อยู่ห่างกันประมาณ 3-4 ไมล์ ( 5-6.5 กม.) ในปี พ.ศ. 2344 กีฬาประเภทนี้ได้อบรมให้ดียิ่งขึ้น มีการกำหนดปริมาณผู้เล่นให้เสมอกันในแต่ละข้าง ขนาดของสนามอยู่ในระหว่าง 80 – 100 หลา (73-91 เมตร) และก็มีประตูทั้งสองข้างที่ริมสุดของสนามซึ่งทำด้วยไม้ 2 อัน ห่างกัน 2-3 ฟุต

ในปี พุทธศักราช 2366 ได้จัดให้มีการเล่นบอลในรูปแบบของการเล่นใน ปัจจุบัน William Alice เป็นผู้เริ่มวางกฎบังคับต่างๆสำหรับกีฬาบอลแล้วก็รักบี้ ในปี พุทธศักราช 2393 ได้มีการออกระเบียบและก็กฎของการเล่นไปสู่ ดินแดนต่างๆให้ทำตาม โดยจำกัดจำนวนผู้เล่นให้มีข้างละ 15-20 คน

ในปี พุทธศักราช 2413 มีการกำหนดผู้เล่นให้เหลือข้างละ 11 คน โดยมีผู้เล่นกองหน้า 9 คน รวมทั้งผู้เล่นรักษาประตู 2 คน โดยผู้เฝ้าประตูใช้เท้าเล่นเสมือน 9 คนแรกจวบจนกระทั่งให้เหลือผู้เฝ้าประตู 1 คน แต่ว่าอนุญาตให้ใช้มือจับลูกฟุตบอลได้ในปี พุทธศักราช 2423

ในปี พุทธศักราช 2400 ชมรมฟุตบอลได้ริเริ่มตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมืองเซนพัสด์อังกฤษ และถัดมาในวันที่ 26 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2406 สมาพันธ์บอล 11 ที่ได้มารวมกันที่กรุงลอนดอนเพื่อจัดตั้งชมรมบอลขึ้น ซึ่งถือเป็นพื้นฐานในการเกิดสโมสรแห่งชาติ จนกระทั่ง 140 สัมพันธ์ แล้วก็ทำให้ผู้เล่นบอลจำต้องเล่นตามกฎและก็กติกาของสโมสรฟุตบอล จนถึงเวลาผ่านไปจากคำว่า Association ก็ย่อเป็น Assoc และเปลี่ยนเป็น Soccer ขึ้นสุดท้าย ซึ่งนิยมเรียกกันในประเทศอังกฤษ แม้กระนั้นคนประเทศอเมริกาเรียกว่า Football ซึ่งก็คือ American football

ข้างนอกเกาะอังกฤษ พวกลูกเรือเรือ ทหาร พ่อค้า วิศวกร หรือแม้กระทั้งบรรพชิตได้นำกีฬาชนิดนี้ไปเผยแพร่ ประเทศเดนมาร์กเป็นประเทศที่ 2 ในยุโรป

ในอเมริกาใต้ สมาพันธ์แรกได้ถูกตั้งขึ้นในประเทศอาร์เจนตินา เมื่อญาติพี่น้องชาวอังกฤษ 2 คน ได้ลงข้อความโฆษณาในหนังสือพิมพ์ของเมืองบูเอโนสไอเรส (Buenos Aires) เพื่อ หาผู้อาสาสมัคร ในปี พ.ศ. 2427 กีฬาฟุตบอลก็กลายมาเป็นวิชาหนึ่งในโรงเรียนของเมืองบูเอโนสไอเรส การแข่งขันชิงชัยระดับชาติหนแรกในทวีปอเมริกาใต้ เป็น การประลองระหว่างประเทศอาร์เจนตินากับอุรุกวัย ในปี พ.ศ.2448 แต่ว่าอเมริกาเหนือเริ่มแข่งเมื่อปีพ.ศ. 2435

ในอิตาลี ฮาร์ขว้างสตัมเป็นต้นกำเนิดจิโอโค เดล ค้างลสิโอ ผู้เล่นกีฬาจะเป็นผู้นำทางสังคม หรือแม้กระทั้งหัวหน้าชั้นสูงของศาสนา อาทิเช่นสันตปาปา เกลาเมนต์ที่ 7 ลีออนที่ 10 และก็เอ้อร์เบนที่ 7 เป็นถึงแชมเปี้ยนในกีฬาฟลอเรนไทน์บอล ถัดมาชาวโรมันได้ปรับเปลี่ยนเกมการเล่นฮาร์ปาสตัมเสียใหม่ โดยกำหนดให้ใช้เท้าแตะลูกบอลเท่านั้น ส่วนมือให้ใช้เฉพาะการทุ่มลูกบอล ซึ่งนักสู้ชาวโรมัน นิยมเล่นกันมากมาย

กีฬาฮาร์ปาสตัมซึ่งมีต้นกำเนิดจากสมัยโรมันได้ถูกแปลงมาเป็นกีฬาซูลอหรือซูเลอ กีฬาชนิดนี้ราวฮาร์ขว้างสตัม คือ นำลูกฟุตบอลกลับไปยังดินแดนของตัวเอง แม้กระนั้นสนามมีขนาดกว้างกว่ามากมาย

การเล่นซูเลอมักจะมีขึ้นในบ่ายวันอาทิตย์หลังการภาวนาเย็น จะมีการชิงชัยสำคัญในระยะเวลาดีคาร์นิวาล กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมมากมายในเขตปริตานีแล้วก็มอร์ลังดี กีฬานี้ได้ถูกเผยแพร่ไปยังอังกฤษโดยผู้ติดตามของวิลเลี่ยมผู้พิชิตภายหลัง การรบที่เฮสติ้ง (Hasting)

เมื่อ 900 ปีกว่ามาแล้ว อังกฤษได้ตกอยู่ในการปกครองของพวกเคนส์ เชื้อสายโรมัน ซึ่งยกกองทัพมาตีหมู่เกาะอังกฤษตอนใต้ และได้ปกครองบ่อยมาจนถึงปี พุทธศักราช 1589 อังกฤษเริ่มอดทนขึ้น และสามารถไล่ส่งพวกเคนส์ออกมาจากประเทศได้ จากนั้น 2-3 ปี อังกฤษจึงเริ่มปรับแต่งประเทศเป็นการใหญ่ มีการขุดอุโมงค์ตามพื้นที่หลายที่ ซึ่งสำหรับเพื่อการขุดอุโมงค์คนงานคนหนึ่งได้ขุดไปพบกะโหลกศีรษะในรอบๆที่เคยเป็นสนามรบ และเป็นสุสานของพวกเคนส์มาก่อนทุกคนในที่นั้นแน่ใจว่าเป็นกะโหลกศีรษะของพวกเคนส์ อารมณ์โกรธแค้นจึงเกิดขึ้นในทันทีเมื่อต่างคนต่างนึกถึงเหตุการณ์ที่ถูกพวกเคนส์บังคับทำร้ายจิตใจชาวอังกฤษในสมัยนั้นด้วยเหตุผลนี้ คนงานคนหนึ่งก็เลยเตะกะโหลกศีรษะนั้นในทันที ส่วนคนอื่นที่อยู่ในรอบๆนั้นก็พากันหยุดงานชั่วครั้งคราว แล้วหันมาเตะกะโหลกศีรษะเป็นการใหญ่ เพื่อระบายอารมณ์โกรธแค้นที่เก็บไว้อย่างสนุกสนาน ผลที่สุดเมื่อพวกนี้หากะโหลกหัวเตะกันมิได้ก็เอาถุงลมของวัวมาทำเป็นลูกกลมขึ้นเตะแทนกะโหลกศีรษะ ปรากฏว่าเป็นที่ครึกครื้นสนุกสนานสนามกันมาก ต่อมาชาวโรมันได้นำเกมนี้ไปเล่นในอังกฤษ แล้วผู้ดีอังกฤษก็ได้ปรับแต่งกระบวนการเล่นวิธีการเล่น ตลอดจนข้อตกลงให้เสมือนในสมัยนี้ คือเกมฟุตบอลที่ใช้เท้าเล่น แม้กระนั้นในระยะต้นของการเล่นฟุตบอลจะเล่นกันเป็นกลุ่มๆเฉพาะพวกคนเดินดินเท่านั้นไม่มีการจำกัดจำนวนผู้เล่น ประตูจะห่างกันเป็นไมล์ และก็ใช้เวลาสำหรับเพื่อการเล่นหลายชั่วโมง จะเป็นการเล่นระหว่างทหารใหม่ที่ถูกมาตรฐาน บรรพชิต ผู้ที่แต่งงานแล้ว คนโสด และก็พวกพ่อค้า เกมชนิดได้เปลี่ยนเป็นสิ่งสังสรรค์ในงานพิธีต่างๆดังเช่นว่า ในวันโชรพ ทิวส์เดย์ (Shrove Tuesday) จะมีบอลนัดสำคัญให้คนได้ชม เกมในยุคนั้นจะเล่นกันอย่างหนักและมีการเจ็บกันมากมาย

ในวันที่ 13 เดือนเมษายน พ.ศ. 1857 พระผู้เป็นเจ้าเอ๊ดเวิร์ดที่ 2 ได้ทรงออกพระราชกฤษฎีกา เพราะว่ามีเสียงอึกทึกครึกโครมจาการวิ่งแย่งลูกฟุตบอล ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุจำนวนมาก อันเป็นสิ่งที่ห้ามของพระเจ้า โดยห้ามเล่นกีฬาดังที่กล่าวมาแล้ว คนใดกันละเมิดมีโทษติดตะราง

บอลได้เริ่มชิงชัยภายใต้กฎของสัมพันธ์แห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2412 ระหว่างกลุ่มรัตเกอร์กับทีมบรินท์ตัน จากนั้นกิจการค้าบอลได้ก้าวหน้าขึ้นช้าๆในบ้านนอกจนถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้มีการตั้งสัมพันธ์บอลบ้านนอกขึ้นในปี พุทธศักราช 2450 และก็มีการฝึกการสอนในปี พ.ศ. 2484

ในทวีปเอเชีย
อินเดียเป็นประเทศแรกที่เริ่มเล่นบอล ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยกัลกัตตา เป็นหัวหน้าสำเนาข้อบังคับการเล่นมาเผยแพร่ในปี พ.ศ. 2426 และก็ในปีพ.ศ. 2435 ได้มีการชิงชัยชิงถ้วยรางวัลเป็นครั้งแรก ในทวีปซึ่งยังไม่มีเกียรติศักดิ์ในด้านการเล่นฟุตบอล กีฬาประเภทนี้ก็ได้เริ่มมีการเล่นมาก่อนร่วมร้อยปีแล้ว ได้แก่ สโมสรบอลแห่งนิวเซาท์เวลส์ ได้ถูกตั้งขึ้นในออสเตรเลีย ปี พุทธศักราช 2425 รวมทั้งสโมสรฟุตบอลของนิวซีแลนด์ได้ถูกตั้งต่อจากนั้น 9 ปี

ในแอฟริกา
สมาคมระดับชาติที่แรกได้ถูกตั้งในประเทศแอฟริกาใต้ แม้กระนั้นอียิปต์เป็นประเทศแรกที่มีการชิงชัยระดับชาติในปี พุทธศักราช 2467 คือ 3 ปี หลังจากที่ได้จัดตั้งสโมสรขึ้นและก็อียิปต์สามารถเอาชนะฮังการีได้ 3-0 ในกีฬาโอลิมปิกที่ปารีส

การแข่งขันระดับประเทศเป็นการแข่งขันระหว่างอังกฤษกับสกอตแลนด์ ตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2415 รวมทั้งในปีแรกของศตวรรษที่ 20 โดยประเทศยุโรปอื่นๆอย่างไรก็ดีในปี พุทธศักราช 2447 กลุ่มประเทศต่างๆในแถบนี้ได้สัมมนากันที่ปารีสเพื่อตั้งสมาคมฟุตบอลนานาประเทศขึ้น ในคราวแรกก่อนการก่อตั้งสมาพันธ์ 20 วัน สเปนและเดนมาร์กไม่เคยร่วมการแข่งขันชิงชัยระดับประเทศมาก่อน และ 3 ประเทศใน 7 ประเทศที่เข้าร่วมสัมมนายังไม่มีสัมพันธ์บอลในชาติของตัวเอง แม้กระนั้นฟีฟ่าก็อดทนขึ้นบ่อยมา โดยมีสมาชิก 5 ชาติ ในปี พุทธศักราช2481 แล้วก็ 73 ชาติ ในปี พุทธศักราช 2493 รวมทั้งในขณะนี้มีสมาชิกถึง 146 ประเทศ ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมของสมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติทำให้สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติเป็นหน่วยงานกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สหพันธรัฐประจำทวีปของสโมสรบอลที่แรกที่ตั้งขึ้นเป็นConmebol ซึ่งเป็นสมาพันธ์ของอเมริกาใต้ สมาพันธ์นี้ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อตั้งขึ้นเพื่อจัดแจงแข่งขันชิงชนะเลิศด้านในทวีปอเมริกาใต้ ในปี พุทธศักราช 2460 แทบครึ่งศตวรรษ ต่อมาเมื่การแข่งขันชิงชัยภายในทวีปได้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ก็เลยได้มีการจัดตั้งสมาพันธ์ในทวีปอื่นๆขึ้นอีกเป็นสหภาพสโมสรฟุตบอลยุโรป ในปี พุทธศักราช 2497 ซึ่งเป็นปีเดียวกับการจัดตั้งในทวีปเอเชีย และก็ 2 ปี ก่อนจะมีการตั้งขึ้นสโมสรฟุตบอลยุโรป ในปี พ.ศ. 2497 ซึ่งเป็นปีเดียวกับการก่อตั้งสมาพันธ์ฟุตบอลที่แอฟริกา (Concacaf)หรือสหพันธ์ฟุตบอลแห่งอเมริกากึ่งกลาง อเมริกาเหนือ และแคริบเบี้ยน ได้ถูกตั้งในปี พ.ศ. 2504 และน้องใหม่ในวงการฟุตบอลโลกคือ สมาพันธ์ฟุตบอลที่โอเชียนเนีย (Oceannir)

สหพันธ์ฟุตบอลนานาประเทศ
สหพันธ์บอลนานาชาติ (Federation International Football Association FIFA) จัดตั้งขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ พุทธศักราช 2447 โดยสมาคมบอลแห่งประเทศฝรั่งเศส และก็ประเทศที่ร่วมจัดตั้งขึ้น 7 ประเทศเป็น ประเทศฝรั่งเศส เบลเยียม เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ประเทศสเปนประเทศสวีเดน และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เชลซี

เครดิต : [url]https://ballteng456.livejournal.com[/url]

Tags : เชลซี,ข่าวฟุตบอล,บอล
20  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ผีแดง ตกเป็นข่าวกับ 3 แข้งดัง เล็งเสริมทัพเติมโหดเหี้ยม เมื่อ: มกราคม 09, 2019, 08:56:53 pm
ผีแดง ตกเป็นข่าวสารกับ 3 ลำแข้งดัง เล็งเสริมทัพเพิ่มโหด
“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวสารเกี่ยวกับการคว้าตัวนักเตะใหม่ โดยมีชื่อของผู้เล่น 3 รายนี้รวมอยู่ด้วย....
สำนักข่าวต่างถิ่นรายงานวันที่ 9 มกราคม ว่า การเคลื่อนที่ข่าวตลาดซื้อ-ขาย นักฟุตบอลของทีม “ซาตานแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบันมีข่าวสารกับนักเตะถึง 3 ราย
โดย CaughtOffside กล่าวว่า กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมยื่นข้อเสนอก้อนโตเพื่อคว้าตัว ฟิลิปเป คูตินโญ เพลย์เมกเกอร์กลุ่มชาติบราซิลของบาร์เซโลนา และได้เริ่มเปิดการสนทนากับบาร์เซโลนาแล้ว ข้างหลังตัวนักฟุตบอลไม่ค่อยได้รับช่องทางลงไปในสนามมากเท่าที่ควรในฤดูกาลนี้
ขณะที่ โอ โจโก สื่อโปรตุเกสแถลงการณ์ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งแมวมองไปเช็กฟอร์ม เอแดร์ มิลิเตากองหลังทีมชาติบราซิลของ เอฟซี ปอร์โต ในเกมที่ปอร์โตชนะ ทุ่งนาสิอองที่นาล 3-1 เมื่อวันจันทร์ก่อนหน้าที่ผ่านมา โดย มิลิเตา มีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 45 ล้านปอนด์
ส่วนรายงานจาก อีเอสพีเอ็น กล่าวว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขมักเขม้นกับการคว้าตัว คาลิดู คูลิบาลี กองหลังกลุ่มชาติเซเนกัลของ ท้องนาโปลี โดยหวังจะเผด็จศึกคว้าตัวให้ได้ข้างในเดือนนี้ แต่ว่าหากไม่เป็นผลสำเร็จก็พร้อมที่จะรอคอยไปจนถึงช่วงซัมเมอร์ ขอบคุณบทความจาก ballteng88

รายแรกสมัยโซลชาร์? "แมนฯยู" ส่งแมวมองซุ่มดูฟอร์มแนวรับปอร์โต
Share:
อาจจะเป็นแข้งรายแรกในสมัย"โอเล กุนนาร์ โซลชาร์" เมื่อ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ส่งกลุ่มสเก๊าส์ซุ่มดูฟอร์มของ"เอแดร์ ไม่ลิเตา" แนวรับ เอฟซี ปอร์โต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 9 มกราคม ว่า "อสุรกายแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลุ่มดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวสาร ส่งทีมสเก๊าส์ซุ่มมองฟอร์มของ เอแดร์ ไม่ลิเตา กองหลังชาวบราซิลของเอฟซี ปอร์โต

เป็นที่เข้าใจกันว่า ยอดกลุ่มสีแดงที่เมืองแมนเชสเตอร์ กลายเป็นข่าวสารพัวพันกับกำแพงหลังชั้นนำหลายรายเป็นต้นว่า โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, คาลิดู คูลิบาลี รวมทั้ง เอแดร์ มิลิเตาที่เคยมีข่าวสารตั้งแต่ยุคของผู้จัดการทีมฟุตบอลคนก่อนอย่าง โชเซ มูรินโญ

ซึ่งทีมสเก๊าส์ได้เข้าไปดูฟอร์มนักฟุตบอลในเกมวันจันทร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาและผลงานนักเตะก็เป็นที่ถูกใจ โดยคาดว่าตัวของแข้งรายนี้คงจะถูกกว่า 2 รายแรกที่กลายเป็นข่าว ทั้งนี้ยังมีรายงานอีกว่าทีมคู่ปรับตลอดไปอย่าง ลิเวอร์พูล ก็จับตาดูอดีตกาลเพลงแข้ง เซา เปาโล รายนี้อยู่เช่นกันหลังแนวรับพาเหรดเดี้ยงกันมากมาย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวฟุตบอล

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]https://ballteng456.weebly.com/[/url]

Tags : ข่าวฟุตบอล,ฟุตบอล,แมนยู
21  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / เรื่องราวบอลไทย ประวัติความเป็นมาฟุตบอลในประเทศไทย เมื่อ: มกราคม 09, 2019, 07:40:30 pm
กีฬาบอลในประเทศไทย ได้มีการเล่นตั้งแต่สมัย “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ 5 ที่กรุงรัตนโกสิทร์ เนื่องมาจากสมัยรัชกาลที่ 5 ท่านได้ส่งพระเจ้าลูกยาคุณ พระผู้เป็นเจ้าหลานยาคุณ แล้วก็ข้าหลวงไปศึกษาวิชาการด้านต่างๆที่ประเทศอังกฤษ และผู้ที่นำกีฬาบอลกลับมายังเมืองไทยเป็นคนแรกเป็น “เจ้าพระยาธรรมศักดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (สนั่น เทพหัตถี ณ อยุธยา)” หรือ ที่ประชนชาวไทยมักเรียกชื่อสั้นๆว่า “ครูเทวดา” ซึ่งท่านได้แต่งเพลงกราวเกรียวกีฬาที่พร้อมไปด้วยเรื่องน้ำใจนักกีฬาอย่างแท้จริง เชื่อกันว่าเพลงเกรียวกราวกีฬาที่ครูเทพแต่งไว้นี้ควรจะเป็น “เพลงอมตะ” แล้วก็จำเป็นจะต้องดำรงอยู่คู่ฟ้าไทย

ความเป็นมาบอลไทย
เมื่อปี พ.ศ. 2454-2458 ท่านได้ครองตำแหน่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กระทรวงธรรมการคราวแรก เมื่อท่านได้นำบอลเข้ามาเล่นในประเทศไทยได้มีเสียงติชมต่างๆเยอะแยะ โดยหลายคนกล่าวว่า บอลเป็นกีฬาที่ไม่เหมาะสมกับประเทศที่มีอากาศร้อน เหมาะสมกับประเทศที่มีอากาศหนาวมากกว่า และก็เป็นเกมที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอันตรายต่อผู้เล่นและก็ผู้ชมได้ง่าย ซึ่งข้อวิพากษ์วิจารณ์ดังที่กล่าวถึงแล้วถ้ามองดูอย่างผิวเผินอาจเชื่อตามได้ แต่ว่าภายหลังข้อกล่าวหาดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็ได้ค่อยหมดไปตราบจนกระทั่งกลายเป็น กีฬายอดนิยมที่สุดของประชาชนคนไทยและชาวโลกทั่วทุกมุมโลก ซึ่งมีวิวัฒนาการดังกำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูลต่อแต่นี้ไป ที่มา ballteng88

พ.ศ. 2440 รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จนิวัตำหนิพระนครกีฬาบอลได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆจากบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบรรดาครูคุณครู ตลอดจนผู้ดีอังกฤษในประเทศไทยรวมทั้งผู้พึงพอใจชาวไทยไม่น้อยเลยทีเดียวขึ้นเป็นลำดับ กอร์ปกับคุณครูเทพท่านได้พยายามปลูกฝังการเล่นบอลในโรงเรียนอย่างจริงจังและแพร่หลายมากมายในจังหวะต่อมา
พ.ศ. 2443 (รองศาสตราจารย์ 119) การแข่งขันชิงชัยฟุตบอลเป็นทางการหนแรกของไทยได้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์
พุทธศักราช 2443 (รองศาสตราจารย์ 119) ณ สนามหลวง ซึ่งเป็นสถานที่ออกกำลังกายแล้วก็ประกอบงานพิธีต่างๆการแข่งขันชิงชัยฟุตบอลคู่ประวัติศาสตร์ของไทย ระหว่าง “ชุดกรุงเทพมหานคร” กับ “ชุดกรมกระทรวงศึกษาธิการ” จากกระทรวงธรรมการหรือเรียกชื่อการแข่งขันชิงชัยครั้งนี้ว่า “การประลองฟุตบอลตามข้อปฏิบัติของแอสโซสิเอชั่น” เพราะว่าสมัยก่อนเรียกว่า “แอสโซสิเอชั่นบอล” (ASSOCIATIONS FOOTBALL) สมัยปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า “การแข่งขันชิงชัยฟุตบอลของสัมพันธ์” หรือ “บอลสโมสร” ผลของการแข่งขันบอลนัดหมายพิเศษดังที่กล่าวถึงมาแล้วปรากฏว่า “ชุดกรมศึกษาธิการ” เสมอกับ “ชุดบางกอก” 2-2 (ครึ่งแรก 1-0) ถัดมาคุณครูเทพท่านได้วางแผนจัดแจงชิงชัยบอลผู้เรียนอย่างเป็นทางการพร้อมแปลกตำหนิกาบอลแบบสากลมาใช้เพื่อการชิงชัยฟุตบอลผู้เรียนคราวนี้ด้วย
พ.ศ. 2444 (รองศาสตราจารย์ 120) หนังสือวิทยาจารย์ เล่มที่ 1 ในระหว่างที่ 7 พ.ค. พุทธศักราช 2444 ได้ตีพิมพ์เผยแพร่เรื่องกติกาการประลองบอลสากลและการประลองอย่างเป็นแบบแผนสากล
การประลองบอลผู้เรียนหนแรกของประเทศไทยได้เกิดขึ้นในปี พุทธศักราช 2444 นี้ ผู้ท้าชิงควรเป็นเด็กนักเรียนชายอายุไม่เกิน 20 ปี ใช้แนวทางจัดการชิงชัยแบบน็อกเอาต์ หรือแบบแพ้ให้ออก (KNOCKOUT OR ELIMINATIONS) ภายใต้การดำเนินการจัดแจงแข่งของ “กรมศึกษาธิการ” สำหรับทีมชนะเลิศติดต่อกัน 3 ปี จะได้รับโล่รางวัลเป็นกรรมสิทธิ์
พุทธศักราช 2448 (รองศาสตราจารย์ 124) พ.ย. สามัคยาจารย์ สโมสร ได้เกิดขึ้นครั้งแรกเป็นการชิงชัยบอลของบรรดาคุณครูแล้วก็สมาชิกอาจารย์ โดยใช้ชื่อว่า “บอลสามัคยาจารย์”
พุทธศักราช 2450-2452 (รศ. 126-128) ผู้ตัดสินฟุตบอลชาวอังชื่อ “มร.อี.เอส.สมิธ” สมัยก่อนนักฟุตบอลอาชีพได้มากระทำการตัดสินในประเทศไทย ตรงเวลา 2 ปี ทำให้คนประเทศไทยโดยเฉพาะครู-คุณครู และก็ผู้สนใจได้ทำความเข้าใจข้อตกลงและของใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาก
พุทธศักราช 2451 (รศ. 127) มีการจัดการชิงชัย “เตะฟุตบอลไกล” คราวแรก
พ.ศ. 2452 (รศ. 128) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสิ้นพระชนม์ ช่วงวันที่ 22 ต.ค. พ.ศ. 2452 นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของผู้ช่วยเหลือฟุตบอลไทยในสมัยนั้น ซึ่งต่อมาในปีนี้ กรมกระทรวงศึกษาธิการก็ได้ประกาศใช้กระบวนการชิงชัย“แบบพบกันหมด” (ROUND ROBIN) แทนแนวทางจัดการชิงชัยแบบแพ้คัดแยกออกสำหรับคะแนนที่ใช้นับเป็นแบบของแคนาดา (CANADIAN SYSTEM) คือ ชนะ 2 คะแนน เสมอ 1คะแนน แพ้ 0 คะแนน และยังคงใช้อยู่จนถึงตอนนี้
ถัดมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ท่านทรงมีความสนพระทัยกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างยิ่งถึงกับทรงกีฬาบอลเอง แล้วก็ทรงตั้งทีมบอลส่วนพระองค์เองชื่อกลุ่ม “เสือป่า” แล้วก็ได้เสด็จพระราช ดำเนินประทับทอดพระเนตรการแข่งขันชิงชัยฟุตบอลเป็นพระราชกิจวัตรเสมอมาโดยยิ่งไปกว่านั้นมวยไทยท่านทรงเคย ปลอมพระองค์เป็นคนธรรมดาขึ้นต่อยมวยไทยจนได้สมญานามว่า “พระเจ้าเสือป่า” พระองค์ท่านทรงพระปัญญาสามารถสามารถมาก จนถึงเป็นที่ชื่นชมของประชาราษฎร์ทั่วๆไปจนตราบเท่าปัจจุบันนี้
จากพระราชกิจวัตรของพระองค์รัชกาลที่ 6 ทางด้านฟุตบอลถือว่าเป็นยุคทองของไทยอย่างแท้จริงอีกทั้งยังมีการเผยแพร่ข่าว หนังสือพิมพ์ รวมทั้งบทความต่างๆทางด้านบอลดังกำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขข้อมูลต่อไปนี้
พุทธศักราช 2457 (รองศาสตราจารย์ 133) พระยาโอวาทวรกิจ” (แหมผลพันคุ้นชิน) หรือนามสมมุติ “คุณครูทองคำ” ได้เขียนบทความกีฬา “เรื่องจรรยาของผู้เล่นแล้วก็ผู้ดูฟุตบอล” รวมทั้ง “คุณพระวรเวทย์ วิเศษ” (วรเวทย์ ศิวะศริยานนท์) ได้เขียนเนื้อหาบทความกีฬา “หัวข้อการเล่นบอล” และก็ “พระยาพาณิชศาสตร์กฎ” (อู๋ พรรธนะแพทย์) ได้เขียนบทความกีฬาที่ประทับใจชาวไทยอย่างมาก “เรื่องอย่าสำหรับอันธพาลฟุตบอล”
พุทธศักราช 2458 (รองศาสตราจารย์ 134) ราษฎรชาวไทยสนใจกีฬาบอลอย่างมากมายเพราะเหตุว่า กรมศึกษาธิการได้ปรับปรุงกรรมวิธีการเล่น แนวทางจัดแจงแข่งขัน การวินิจฉัย ข้อตกลงฟุตบอลที่สากลสารภาพ ตลอดจนระเบียบการชิงชัยที่รัดกุมยิ่งขึ้น และผู้ใหญ่ในแวดวงให้ความสนใจอย่างแท้จริงตั้งแต่แมื่อท่านรัชกาลที่ 6 เองลงมาถึงพระบรมวงศานุวงศ์จนกระทั่งคนธรรมดา และก็ชาวต่างประเทศ แล้วก็ในปีพุทธศักราช 2458 จึงได้มีการแข่งขันฟุตบอลประเภทสมาพันธ์ครั้งแรกเป็นการชิงถ้วยพระราชทานและเรียกชื่อการประลองบอลประเภทนี้ว่า “การแข่งขันชิงชัยบอลถ้วยทองของหลวง” การแข่งขันชิงชัยฟุตบอลชมรมนี้เป็นการชิงชัยระหว่าง ทหาร-ตำรวจ-เสือป่า ซึ่งผู้เล่นต้องมีอายุเกินกว่าระดับทีมผู้เรียน ถือว่าเป็นการเพิ่มประเภทการแข่งขันฟุตบอล
ราชกรีฑาสโมสร หรือสปอร์ตคลับ นับได้ว่าเป็นสโมสรแรกของไทยและก็เป็นศูนย์รวมของชาวต่างประเทศในจังหวัดกรุงเทพ ซึ่งยังอยู่ในปัจจุบัน แล้วก็สโมสรสปอร์ตคลับเป็นศูนย์กลางของกีฬาหลายจำพวกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาฟุตบอลได้มีผู้เล่นระดับประเทศจากประเทศอังกฤษมาร่วมกลุ่มอยู่คนไม่ใช่น้อย ได้แก่ นายเอ.พี.โคลปี. อาจารย์โรงเรียนราชวิทยาลัย ถือได้ว่าเป็นทีมบอลที่ดี มีความพร้อมมากอีกทั้งทางด้านผู้เล่น งบประมาณและก็สนามแข่งขันมาตรฐาน จึงควรเป็นเจ้าภาพให้ทีมต่างๆของไทยเรามาเยี่ยมอยู่ตลอด ทำให้วงการบอลไทยในยุคนั้นได้ปรับปรุงยิ่งขึ้น รวมทั้งรัชกาลที่ 6 ทรงสนพระทัยโดยเสด็จมาเป็นองค์ประธานพระราชทานรางวัลเป็นพระราชกิจวัตร ทำให้ราษฎรเรียกการแข่งขันยุคนั้นว่า “บอลหน้าพระที่นั่ง” รวมทั้งระหว่างพักครึ่งเวลามีการแสดง “พวกบอลขำขันหลวง” นับเป็นพิธีการชอบพอของปวงชนชาวไทยยุคนั้นเป็นอย่างยิ่งรวมทั้งการประลองบอลสโมสรหนแรกนี้ มีทีมสมัครร่วมชิงชัยจำนวน 12 กลุ่ม ใช้เวลาในการแข่งขัน 46 วัน (11 เดือนกันยายน-27 ตุลาคม 2458) ปริมาณ 29 แมตช์ ณ สนามเสือป่า ถนนหน้าพระลาน สวนดุสิต กรุงเทพฯ หรือสนามหน้ากองอำนวนการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติปัจจุบันนี้พระองค์รัชกาลที่ 6 ได้ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อแต่งคณะกรรมการปฏิบัติงานแข่งนับว่าฟุตบอลไทย[/b]มีระบบสำหรับในการบริหารมานานนับถึง 72 ปีแล้ว
ความเจริญรุ่งเรืองของบอลภายในประเทศได้แผ่ขยายกว้างขวางทั้งประเทศไปสู่สมาคมกีฬา-ต่างจังหวัดหรือต่างจังหวัดอย่างเร็ว ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบกันทั่วๆไปภายใต้การช่วยสนับสนุนของรัชกาลที่ 6 และท่านท่านทรงเล็งเห็นกาลไกลว่าควรจะที่ตะตั้งศูนย์กลางหรือสัมพันธ์อย่างมีระบบแบบแผนที่ดี โดยมีคณะกรรมการบริหารสมาคมและทรงมีพระบรมราชโองการจัดตั้งขึ้น“สมาคมคณะฟุตบอลประเทศไทย” ขึ้นมาโดยพระองค์รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ทรงเล่นบอลเอง
รัชกาลที่ 6 ได้ทรงมีจุดประสงค์ของการจัดตั้งสัมพันธ์บอลแห่งประเทศไทยดังต่อไปนี้คือ

เพื่อให้ผู้เล่นบอลมีพลานามัยที่สมบูรณ์
เพื่อนำไปสู่ความกลมเกลียว
เพื่อนำไปสู่ความฉลาด และเป็นกีฬาที่ประหยัดดี
เพื่อเป็นการศึกษากลอุบายสำหรับเพื่อการรุกและก็การรับเหมือนกับกองทัพทหาร
จากจุดหมายดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น นับเป็นสิ่งที่สนับสนุนให้สมาคมฟุตบอลที่ไทยดำเนินกิจการรุ่งเรืองมาจนถึงตราบถึงตอนนี้ ซึ่งมีกำลังอยู่ระหว่างแก้ไขข้อมูลดังต่อไปนี้

พุทธศักราช 2458 (รัตนโกสินทร์ศก 134) การแข่งขันระหว่างชาติหนแรกของเมืองไทย เมื่อวันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ณ สนามราชกรีฑาสมาคม (สนามม้าบัวหลวงวันเดี๋ยวนี้) ระหว่าง“กลุ่มชาติสยาม” กับ “กลุ่มราชกรีฑาสมาคม” ต่อหน้าต่อตาพระที่นั่ง แล้วก็มี “มร.ดักลาส โรเบิร์ตสัน” เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งผลที่เกิดจากการแข่งขันปรากฏว่าทีมชาติสยามชนะทีมราชกรีฑาสมาพันธ์ 2-1 ประตู (ครึ่งแรก 0-0) รวมทั้งครั้งที่ 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคมพ.ศ. 2458 เป็นการชิงชัยระหว่างประเทศนัดหมายที่ 2 แบบเหย้าเยือนต่า หน้าพระที่นั่ง ณ สนามเสือป่าสวนดุสิตรวมทั้งผลที่ตามมา กลุ่มชาติสยามเสมอกับทีมราชกรีฑา สมาคม หรือกลุ่มรวมฝรั่ง 1-1 ประตู (ครึ่งแรก 0-0)

สัมพันธ์บอลแห่งเมืองไทย(THE FOOTBALL ASSOCIATION OF THAILAND)

มีวิวัฒนาการตามลำดับตั้งแต่นี้ต่อไป

พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระขอความกรุณาปรานีโปรดเกล้าฯ ตั้งชมรมบอลที่ประเทศไทยขึ้นช่วงวันที่ 25 ม.ย. พ.ศ.2459 รวมทั้งยี่ห้อกฎข้อบังคับขึ้นใช้ในสนามฟุตบอลแห่งประเทศไทยด้วยซึ่งมีชื่อย่อว่า ส.ฟาเรนไฮต์ท. และเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “THE FOOTBALL ASSOCIATION OF THAILAND UNDER THE PATRONAGE OF HIS MAJESTY THE KING” ใช้ตัวย่อว่า F.A.T. และชมรมฯ จัดการแข่งถ้วยใหญ่แล้วก็ถ้วยน้อยเป็นครั้งแรกในปีนี้ด้วย
พุทธศักราช 2468 เป็นกลุ่มสมาชิกสมาพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ ตอนวันที่ 23 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2468

ชุดบอลเสือป่านายพรานหลวง ได้รับถ้วยของพระยาประสิทธิ์ศุภการ (เจ้าพระยารามราฆพ) ซึ่งเล่นกับชุดฟุตบอลกรมทหารรักษาวัง เมื่อ พุทธศักราช 2459-2460 ได้รับไว้เป็นเจ้าของ โดยชนะ 2 ปีต่อเนื่องกัน

ชุดฟุตบอลสโมสรกรมหรสพ ได้รับพระราชทาน “ถ้วยใหญ่” ของสัมพันธ์ฟุตบอลที่ไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตอนวันที่30 เดือนกันยายน 2459

พุทธศักราช 2499 การปรับแต่งเพิ่มอีกข้อกำหนด ครั้งที่ 3 แล้วก็เรียกว่าข้อกำหนด ลักษณะดูแล
สโมสรบอลฯ ได้สิทธิ์ส่งทีมบอลชาติไทยร่วมการแข่งขัน “กีฬาโอลิมปิก” ครั้งที่ 16 นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีสิทธิ์ร่วมการแข่งขันชิงชัย เมื่อวันที่ 26 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ณ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
พ.ศ. 2500 เป็นภาคีสมาชิกสหพันธรัฐฟุตบอลที่ทวีปเอเชีย ซึ่งมีชื่อย่อว่า เอเอฟซี แล้วก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “ASIAN FOOTBALL CONFEDERATION” ใช้อักษรย่อว่า A.F.C.
พุทธศักราช 2501 การปรับแต่งเพิ่มอีกข้อบัญญัติลักษณะปกครอง ครั้งที่ 4
พ.ศ. 2503 การปรับปรุงแก้ไขเสริมเติมกฎข้อบังคับลักษณะดูแล ครั้งที่ 5
พุทธศักราช 2504-ปัจจุบันนี้ สมาคมฟุตบอลฯได้จัดแจงแข่งขันบอลถ้วยน้อย และก็ถ้วยใหญ่ ซึ่งวันหลังได้จัดแจงแข่งแบบเดียวกันของสมาคมบอลอังกฤษคือจัดเป็นจำพวกถ้วยพระราชทาน ก, ข, ค, รวมทั้ง ง รวมทั้งยังจัดแจงแข่งขันประเภทอื่นๆอีกดังเช่นว่า ฟุตบอลผู้เรียน ฟุตบอลจัดเตรียมอุดม ฟุตบอลอาชีวะบอลเยาวชนและคนรุ่นหลัง บอลอุดมศึกษา บอลเอฟเอ คัพ บอลควีส์ คัพ บอลคิงส์คัพ ฯลฯ อื่นๆอีกมากมาย นอกจากนั้นยังได้จัดแจงแข่งขันและก็ส่งกลุ่มเข้าร่วมกับกลุ่มนานาชาติเยอะมากจนถึงเดี๋ยวนี้
พ.ศ. 2511 สัมพันธ์ฟุตบอลได้สิทธิ์ส่งกลุ่มบอลชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 2 ช่วงวันที่13 ตุลาคม พ.ศ. 2511 ณ ประเทศเม็กซิโก
พุทธศักราช 2514 การปรับปรุงเสริมเติมข้อปฏิบัติลักษณะปกครอง ครั้งที่ 6 ชุดฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดแรกที่เดินทางไปแข่งขัน “กีฬาโอลิมปิก” ครั้งที่ 16 ณ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ช่วงวันที่ 26 พ.ย. 2499
พ.ศ. 2531 สโมสรฟุตบอลฯ ได้มีแผนการจัดแจงแข่งบอลภายในประเทศ และเชิญชวนกลุ่มต่างชาติร่วมชิงชัยและก็ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันในต่างประเทศตลอดปี

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]https://sites.google.com/site/ballthaibunbun/[/url]

Tags : ฟุตบอลไทย,ฟุตบอล,ข่าวฟุตบอล
22  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: กีฬาฟุคบอลเป็นอย่างไร ทำไมคนทั่วโลก และคนไทยถึงถูกใจบอล เมื่อ: มกราคม 08, 2019, 08:50:58 pm
ฟุตบอล เดอะ ซัน สื่อของเกาะอังกฤษ ตีข่าวสาร เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตยอดกุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด บอกให้กำลังใจเหล่าหน้าแข้งของทีมในช่วงเวลาที่ไปยังสนามฝึกของ "ภูติผีแดง" ซึ่งบรรดานักเตะก็ฮึกเหิมกันสุดๆรวมทั้งต้องการคว้าแชมป์มาครองสักรายการเพื่อทดแทน เฟอร์กูสัน กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมขัดตาทัพด้วย
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ที่ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวโน้มน้าวบรรดานักฟุตบอลของทีมอย่างเต็มเปี่ยม ในช่วงเวลาที่ได้ไปยัง ห่วงใยริงตัน สนามฝึกซ้อมของกลุ่มเมื่อเร็วๆนี้ ตามรายงานของ เดอะ ซัน สื่อมีชื่อเสียงของเมืองผู้ดี

ก่อนหน้านี้ โอเล่ กุนที่นาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมฟุตบอลชั่วคราวของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เชิญชวน เฟอร์กูสัน ไปยังสนามซ้อมของกลุ่ม ภายหลังที่ทั้งสองสนิทกันสุดๆในตอนที่ โซลชา เป็นผู้ร่วมทีมของอดีตกาลบรมกุนซือชาวสกอตต์ โดยนี่เป็นครั้งแรกที่ เฟอร์กูสัน ได้กลับไปยัง ห่วงใยริงตัน นับจากที่จำเป็นต้องรับการผ่าตัดจากภาวะเลือดไหลในสมอง เมื่อตอนพฤษภาคมก่อนหน้าที่ผ่านมาด้วย


ทั้งนี้ โซลชา หวังว่า เฟอร์กูสัน จะช่วยบอกปลุกใจให้บรรดาแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดเดี๋ยวนี้ได้ ซึ่งตำนานผู้จัดการทีมฟุตบอลเลือดวิสกี้ก็ปฏิบัติตามนั้น โดยเขากล่าวกับนักฟุตบอลว่าทั้งผองจะช่วยทำให้ทีมกลับมาครองความโหฬารได้อีกรอบ หลังจากที่ยอดกลุ่มที่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีผลงานโดยรวมน่าผิดหวัง นับจากที่สิ้นสมัยของ เฟอร์กูสัน

แหล่งข่าวที่อ้างถึงว่าสนิทสนมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า "เขาบอกกับนักฟุตบอลว่าทีมชุดนี้จะทำให้ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่และบรรลุผลสำเร็จอีกรอบ เขาบอกว่าเขาเชื่อถือในตัวพวกเขา และก็เขาต้องการให้พวกเขาบันเทิงใจกับการเล่น รวมถึงสู้เพื่อกันและกันอย่างเต็มเปี่ยม และก็ทุ่มเททุกอย่างกับการเล่นในสนาม" ทีมงานขอขอบคุณ www.ballteng88.com


"เขายังบอกกับนักฟุตบอลเหตุว่าสมาคมอยู่ในมือของผู้ที่ดีแล้ว และก็เขาข้อตกลงกับพวกเขาว่าสโมสรจะทำผลงานได้ดิบได้ดีขึ้นในอีกหลายปีหลังจากนี้ รวมทั้งเรื่องที่ว่าพวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุผลคราวนี้"ว็บฟุตบอลน่าเชื่อถือ ดีที่สุด
23  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ประวัติความเป็นมาสมาพันธ์บอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่มีมาอย่างยาวนาน และก็โด่งดั่ง เมื่อ: มกราคม 07, 2019, 04:31:57 am
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฟุตบอล คลับ เกิดขึ้นคราวแรกในช่วงต้นทศวรรษ 1870 เมื่อบุคลากรการรถไฟกรุ๊ปหนึ่งได้ริเริ่มตั้งขึ้นทีมบอลขึ้นมา ซึ่งพวกเขาใช้ชื่อว่า เดอะ แลงค้างเชียร์ แอนด์ ยอร์คเชียร์ เรียลเวย์ บอล คลับ รวมทั้งถัดมาได้กลายเป็น นิวตัน ฮีธ ในปี 1878 โดยพวกเขาพยายามร่วมบอลลีกถึงสองครั้งแต่ว่าก็ล้มเหลว เนื่องจากไม่มีชมรมใดให้การเกื้อหนุน แต่ว่าท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้รับการยอมรับเมื่อบอลลีกมีการแบ่งออกเป็นสองดิวิชั่นในเวลาถัดมาไม่นาน
Newton Heath in 1892

เกมลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ นิวตัน ฮีธ คือ ดารมพ่ายต่อ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-4 แม้กระนั้นชัยชนะนัดแรกก็มาถึงเร็วนี้ๆ เมื่อพวกเขาจัดแจงกระหน่ำเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ไปได้ถึง 10-1 แม้กระนั้นต่อจากนั้นกลุ่มกลับทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง เมื่อคว้าชัยชนะได้เพียงแต่ 6 จาก 30 นัดเพียงแค่นั้น จนกระทั่งทำให้พวกเขาตกไปอยู่ในอับดับบ๊วยของตาราง แต่พวกเขาก็รอดการตกชั้นได้ หลังจากที่เอาชนะสมอลล์ ฮีธ ไปได้ 5-2 ที่สนาม บรามอลล์เลน
แต่ในปีถัดมาทีมยังคงเล่นแย่ดังเดิมและจำต้องตกชั้นไปสุดท้าย โดยแม้จะมีการยุบลีก และตั้งมาใหม่ แม้กระนั้นกลุ่มก็มีปัญหาสำหรับเพื่อการร่วมลีกอีกรอบ เนื่องด้วยสถานะทางด้านการเงินที่ไม่ดีนัก ก่อนที่จะพวกเขาจะล้มละลายเมื่อเข้าปี 1902 โชคดีที่มีผู้อำนวยการโรงกลั่นเบียร์สดที่ชื่อจอห์น เดวี่ส์ มาลงทุนกับสโมสร ทำให้เขากลายเป็นผู้อำนวยการและก็ประธานสมาพันธ์ในตอนท้าย แล้วต่อจากนั้นกลุ่มก็แปลงชื่อมาเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้
แล้วก็อีกไม่นาน เออร์เนสต์ แมกนัลล์ ก็ถูกแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของทีมในปี 1903 โดย แมกนัลล์ ได้นำพาไต่ขึ้นมาจากดิวิชั่น 2 ได้ และก็จากสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว แล้วก็ สวยสดงดงาม ในฤดูกาล 1907-08 "ปีศาจแดง" ก็สามารถคว้าแชมป์ลีกมายังถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชมรม แถมในปีต่อมาพวกเขายังครอบครองแชมป์เอฟเอ คัพ ไปครองได้อีกต่างหาก
The 1908 championship-winning side

แต่หลังจากที่จบสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เผชิญกับปัญหาจนได้ เมื่อสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กำเนิดใช้การไม่ได้ รวมทั้งนักฟุตบอลบางคนก็อายุมากขึ้น ทำให้ควรจะมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่โดยการเซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลุ่มร่วมเมือง เพื่อขอใช้สนาม เมน โร้ด เป็นสนามเหย้าพร้อมทั้งแต่ง แม็ตต์ บัสบี้ เป็นผู้จัดการทีมชุดนั้นแต่คนไหนกันแน่จะไปทราบได้ว่าชายผู้นี้แหละที่ได้สร้าง "เร้ด เดวิลส์" ให้กลับขึ้นมาผงาดอีกรอบ เมื่อเขาพาทีมที่มีเด็กแคว้นเป็นองค์ประกอบหลักได้แชมป์ลีกในช่วงฤดูกาล 1951-52 และบับต่อจากนั้นมันก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มของสมัย บัสบี้ เบ๊บส์ อันยิ่งใหญ่
แชมป์ลีกในฤดูกาล 1955-56 เป็นของพวกเขา และก็ในบอลยุโรป บัสบี้ ก็สามารถพาทีมลุยเข้ารอบ ยูโรเปี้ยน คัพ และไปถึงรอบรองชนะเลิศ ได้สำเร็จก่อนที่จะไม่เข้ารอบไป แต่ว่ายังดีที่พวกเขาคว้าแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งได้อีกสมัย และก็จะได้กลับมายุโรปใหม่ในปีต่อไป แต่ว่าเหตุกลับไม่เป็นเหมือนอย่างที่คิดเมื่อสมาพันธ์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ เมื่อเครื่องบินโดยสารทีมที่ลงหยุดในกรุงมิวนิค เกิดอุบัติเหตุขณะกำลังบินขึ้นฟ้า ทำให้ผู้เล่นของทีม 8 รายเสียชีวิตทันที แล้วก็โน่นก็เป็นโศกนาฏกรรมที่สะเทือนขวัญที่สุดในวงการกีฬาทั่วโลกในเวลานั้น
the Munich air disaster

ภายหลังสถานะการณ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น แม็ตต์ บัสบี้ ได้ทำตัดสินใจสร้างกลุ่มขึ้นมาใหม่เพื่อสานฝันที่จะคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ให้ได้ โดยแกนนำยังเป็นนักฟุตบอลที่รอดชีวิตมาจากสถานะการณ์เรือบินตก รวมกับผู้เล่นจากกลุ่มสำรอง, ทีมเยาวชน และก็นัฟุตบอล[/url]ที่ซื้อเข้ามาใหม่ จนกระทั่งทีมเริ่มกลับมาเข้มแข็งขึ้นเป็นลำดับ และก็เมื่อฝันร้านร้ายได้ผ่านไปพวกเขาก็กลับมาครองแชมป์ได้อีกทีในถ้วย เอฟเอ คัพ ปี 1963 ซึ่งในฤดูกาลนั้นเองนักฟุตบอลอย่าง จอร์จ เบสต์ ,เดนนิส ลอว์ และก็ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน แจ้งเกิดมาได้สำเร็จ และดูอย่างกับว่าเดี๋ยวนี้จะเป็นเวลาที่ดีที่สุดตั้งแต่แมื่อริเริ่มตั้งขึ้นสโมสร เมื่อพวกเขาครอบครองแชมป์ลีกมาครองได้ 2 สมัยในรอบ 3 ปีหลัง และก็แน่ๆเป้นหมายต่อไปของพวกเขาย่อมอยู่ที่ ยูโรเปี้ยน
จนกระทั่งสุดท้ายความฝันของ แม็ตต์ บัสบี้ ก็เป็นจริง เมื่อ ลูกทีมของเขา ไล่ถล่มเอาชนะ เบนฟิก้า กลุ่มโด่งดังของเมืองฝอยทองคำซึ่งนำกองทัพมาโดย ยูเซบิโอ นักฟุตบอลชื่อก้องโลก ไปได้ที่สนามเวมบลีย์ ด้วยสกอร์ 4-1 และคว้าชัยชนะถ้วยสโมสรใบใหญ่สุดของยุโรปไปได้อย่างงดงาม ก่อนที่จะ บัสบี้ จะวางมือในเวลาต่อมาซึ่งนั่นดูเหมือนกับว่าจะเป็นจุดแปลงของทีมอีกครั้ง เมื่อตอนทศวรรษที่ 1970 วิลฟ์ แม็คกินเนสส์, แฟร้งค์ โอ ฟาร์เรลล์ แล้วก็ ทอมมี่ ด็อคเคอร์ตี้ ที่เข้ามารับงานต่อจากเซอร์บัสบี้ ต่างก็ทำผลงานได้ตกต่ำกระทั่งทีมจำต้องตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่น 2 ในเวลาไม่นาน
ช่วงทศวรรษ 80 ภายหลังที่ ยูไนเต็ด กลับมาขึ้นมาในลีกสูงสุดอีกที พวกเขาก็ยังสร้างผลงานได้ไม่เป็นที่น่าประทับใจนัก ทำให้ทางเบื้องบนได้ตัดสินใจที่จะดึงตัว รอน แอ๊ตกินสัน เข้ามาคุมทีมแทนที่ของ เดฟ เซ็กซ์ตัน ในปี 1981 โดยบิ๊กรอน ได้นำนักฟุตบอลใหม่หลายคนเข้ามาสู่กลุ่ม โดยเฉพาะในรายของ ไบรอัน ร็อบสัน กองกลางผู้ดีอังกฤษที่เขาจ่ายเงินกว่า 1.5 ล้านปอนด์ หรือโดยประมาณ 105 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตัวนั้นถือว่าเป็นการซื้อที่เป็นสถิติการย้ายทีมของเกาะอังกฤษในขณะนั้นเลย แม้กระนั้นจากนั้น ร็อบสัน ก็ชี้ให้เห็นว่าเขาเล่นได้คุ้มตัวทุกเพนนี แต่ว่าความเคลื่อนไหวในรั่ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ยังไม่หยุดลงเพียงนี้ เมื่อทางบอร์ดบริหารได้เห็นเหมือนกันว่า การครองแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย นั้นไม่พอต่อสโมสรระดับนี้ ส่งผลให้ตำแหน่งผู้จัดการทีม ยูไนเต็ดเปลี่ยนมือมาจาก แอ๊ตกินสัน ไปสู่ผู้จัดการทีมฟุตบอลคนใหม่ที่ชื่อว่า อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
Alex Ferguson in 1986

งานชิ้นใหม่ของ "เฟอร์กี้" ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่มากมาย แล้วก็ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้กุนซือคนก่อนอย่าง แอ๊ตกินสัน จะต้องกระเด็นตกเก้าอี้ไป แน่ๆว่าเพียงแค่แชมป์เอฟเอ คัพ สิ่งเดียวไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความทะเยอทะยานแล้วก็สิ่งที่มีความต้องการของสมาคมยักษ์ใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ แล้วก็งานนี้ของ "เฟอร์กี้"ก็ดูท่าจะจะต้องเจอกับความยากลำบาก เมื่อยุคนั้น หงส์แดง อริตัวฉจากของกลุ่มกำลังครอบครองความยิ่งใหญ่ในประเทศอยู่ โดยมี อาร์เซน่อล แล้วก็ เอฟเวอร์ตัน เป็นอีกสองทีมที่สูสี
18 เดือนแรกของ เฟอร์กี้ นั้นก็ดูเหมือนผ่านไปได้อย่างราบรื่นเมื่อ ยูไนเต็ด จบซีซั่นอันดับสองของลีกในปี 1988 ด้อยกว่าแค่ ลิเวอร์พูล ทีมเดียวเพียงแค่นั้น แต่ว่าหลังจากจุดสูงสุดครั้งนั้น ภูติผีแดง ต้องกลับมาประสบพบปัญหาอีกรอบ ความแพ้พ่ายเสียหาย 1-5 รวมถึงการพ่ายต่อเพื่อนพ้องร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในพฤศจิกายน 1989 ซึ่งโน่นเป็นเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดกระแสเรียกร้องให้ปลดเขาออกมาจากตำแหน่ง โดยปีนั้นจบปีด้วยชั้น 11 ของตาราง
แต่ว่าภายหลังจากสถานะการณ์นั้นทั้งหมดทุกอย่างก็ดูเปลี่ยนไป และหากว่าพวกเรามาดูกันความสำเร็จในปัจจุบันต้องนับว่าการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดของกระดานอสุรกายแดงที่ปลดปล่อยให้ เฟอร์กูสันดำเนินการพิสูจน์ฝีมือต่อนั้นเป็นเรื่องที่ถูกที่สุด ซึ่งประตูชัยของมาร์ค โรบินส์ ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในม.ค. 1990 เปรียบได้เสมือนดั่งเป็นการปลุก "เร้ด เดวิลส์"ให้กลับสู่ยุคทองของสมาพันธ์อีกรอบ
ซึ่งแชมป์แรกของพวกเขาภายใต้การนำทีมของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็มีต้นเหตุจากการคว่ำ คริสตัล พาเลซ ในรอบชิงชนะเลิศ นัดรีเพลย์ ศึกเอฟเอ คัพ จากนั้นในปี 1991 ถ้วยใบลำดับที่สองก็ตามมาติดๆเมื่อ ยูไนเต็ด ปราบยักษ์ใหญ่จาก ประเทศสเปน อย่าง บาร์เซโลน่า ไปได้ในนัดหมายชิงชนะเลิศศึก คัพ วินเนอร์ส คัพ ที่ร็อตเตอร์ดัม ได้สำเร็จ
อย่างไรก็แล้วแต่ เฟอร์กี้ นั้นก็ทราบดีว่าตำแหน่งแชมป์ลีกที่เขายังทำไม่ได้นั้นเป็นวัตถุประสงค์สูงสุดของกลุ่มในช่วงเวลานั้น แต่พวกเขาก็ต้องพบกับความผิดหวังอีกทีเมื่อในปี1992 เมื่อพวกเขาถูก ลีดส์ ยูไนเต็ด แซงแย่งแชมป์ไปแบบพลิกความมุ่งมาด โดยที่ปีเดียวกันทีมก็มีถ้วยรางวัลปลอบใจติดมือมา 1ใบคือ ลีก คัพ

เดือนพฤศจิกายน 1992 การเข้ามาของ เอริก คันโตน่า ก็เปรียบเหมือนเป็นตัวต่อตัวสุดท้ายของ เฟอร์กี้ สำหรับเพื่อการไล่ล่าแชมป์ ที่อสุรกายแดง รอมานานถึง 26 ปี โดยทีมสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพในปี 1993 มาครองได้สำเร็จ และก็หลังจากวันนั้นทีมก็เปล่งประกายของการเป็นกลุ่มฟุตบอลที่ดีสุดในประเทศอีกรอบ เมื่อพวกเขาคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ในปี 1994 ได้อบบต่อเนื่องแถมยังเกือบเป็นทริปเบิ้ลแชมป์ด้วย ถ้าไม่เพราะความปราชัยในนัดชิงชนะเลิศถ้วย ลีก คัพ
แต่จากการขาด เอริก คันโตน่า ในช่วงฤดูกาลถัดมา เหตุเพราะติดโทษแบนจากการไปมีเรื่องมีราวกับแฟนบอลพาเลซ ซึ่งนั้นก็ดูเหมือนจะมีผลกระทบครั้งใหญ่ต่อการพลาดดับเบิ้ลแชมป์อีกยุคของกลุ่ม เมื่อ ยูไนเต็ดพลาดท่าในลีกต่อ กางล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในเกมในที่สุด รวมทั้งต่อด้วยการพ่ายให้กับ เอฟเวอร์ตัน ในเกมนัดหมายชิงแชมป์ เอฟเอ คัพ ในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา พอถึงตอนซัมเมอร์ปี 1995 บรรดาผอง เร้ด อาร์มี่ ก็จะต้องช็อกกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ เฟอร์กี้ จัดแจงเปลี่ยนกลุ่มครั้งใหญ่ ด้วยการขายผู้เล่นชั้นยอดอย่างพอล อินซ์, มาร์ค ฮิวจ์ส และก็ อังเดร แคนเชลสกี้ส์ ออกมาจากกลุ่มเวลาไล่เลี่ยกันแล้วหันมาใช้งานบรรดาดาวรุ่งรุ่นใหม่ของกลุ่มอย่าง เดวิด เบ็คแฮม, สองญาติเนวิลล์, พอล สโคลส์ และก็ นิคกี้ บัตท์
เรื่องนี้ที่อังกฤษมีการกล่าวถึงกันเป็นอย่างมากถึงพฤติกรรมของ เฟอร์กี้ ครั้งนี้ แต่ว่าบรรดาดาวรุ่งทั้งหลายแหล่ก็ช่วยลบคำดูถูกและเสียงก่นด่าทอให้กับนายจ้าง ด้วยการนำภูติผีแดง ครองดับเบิ้ลแชมป์ยุคที่ 2 ได้เป็นกลุ่มแรกของประเทศ ในปี 1997 ยูไนเต็ด ยังคงรักษาตำแหน่งทีมลำดับต้นๆของประเทศไว้ได้ถัดไป แต่ว่าเมื่อจบฤดูกาลพวกเขาก็จำเป็นต้องพบกับการสูญเสียนักฟุตบอลประสิทธิภาพไปอีกหนึ่งรายภายหลังที่ เอริก คันโตน่าประกาศล่ำลาสังเวียนอย่างช็อกคนอีกทั้ง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ในช่วงฤดูกาลถัดมา ถึงแม้พวกเขาจะนำลิ่วเป็นหัวหน้าฝูงกระทั่งไปสู่ตอนโค้งสุดท้าย แม้กระนั้นจากอาการบาดเจ็บของนักฟุตบอลตัวหลักหลายราย ทำให้ อาร์เซน่อล ที่เดินหน้าคว้าแชมป์ 10 เกมติด แซงหน้าเข้าป้ายครองแชมป์ไปอย่างเจ็บแสบรวมทั้งนอกนั้นไอ้ปืนใหญ่ ยังตีเสมอสถิติดับเบิ้ลแชมป์ 2ยุคได้ด้วย ภายหลังเอาชนะ นิวค้างสเซิ่ล ยูไนเต็ด คู่ชิงในเอฟเอ คัพไปได้เสร็จ
United players parade the UEFA Champions League trophy
United players parade the UEFA Champions League trophy.
1998-99 ฤดูที่ได้ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ลูกหนังอังกฤษ แล้วก็คาดว่าจะอยู่ในความทรงจำของชาวแฟน อสุรกายแดง ไปอีกนานเท่านาน เมื่อ เฟอร์กี้ ทุ่มเงินจำนวน 27 ล้านปอนด์ หรือโดยประมาณ 2,025 ล้านบาท ในคว้า 3 ดาวเตะตัวใหม่อย่างดไวท์ ยอร์ค, ยาป สตัม รวมทั้ง เยสเปอร์ บลอมควิสต์ มาเสริมกองทัพ และเงินทุกเพนนีที่นายสิบไปเมื่อต้นฤดูกาลนั้นก็ถูกตอบแทนด้วยผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหวัง เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประกาศความยิ่งใหญ่ให้ทุกคนรู้ดีว่าพวกเขาไม่ใช่แค่สุดยอดสโมสรในระดับประเทศเพียงแค่นั้น เมื่อพวกเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิคยักษ์ใหญ่จากเยอรมัน ได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษบาดเจ็บในศึก ยูโรเปี้ยน คัพ พร้อมกับคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ได้อย่างน่าพิศวง
สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นความทรงจำที่ดีของทีมไปอีกนานเท่านาน แม้กระนั้นแม้กระนั้นที่จริงแล้วโลกลูกหนังนั้นก็ไม่อาจจะมาหยุดกับการบรรลุเป้าหมายในสมัยก่อนได้เลย ซึ่งเฟอร์กูสัน เองก็รู้เรื่องนี้ดี ทำให้เขาเริ่มที่จะถ่ายเลือดใหม่อีกรอบ ซึ่งแม้กระทั้ง เดวิดเบ็คแฮม ที่เคยเป็นกำลังสำคัญของทีมก็ยอดเยี่ยมในคนที่จำเป็นต้องออกมาจากถิ่น โอลด์แทร็ฟฟอร์ดไป สู่ รีล มาดริด
ขณะเดียวกันนี้การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ มัลคอล์ม เกลเซอร์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐอเมริกา เจ้าของทีม แทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส ในศึกอเมริกันบอลเอ็นเอฟแอล ได้เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการของสโมสรต่อจาก มาร์ติน เอ็ดเวิร์ด ผู้ครอบครองกลุ่มคนเก่า และรวบรวมหุ้นมาสู่กำมือของเครือญาติแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งการเข้ามาคุมชมรมของตระกูล จากเว็บ www.HERO88.co

ที่มา : [url]https://sportkk99.blogspot.com/[/url]
24  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สโมสรบอลหงส์แดงที่ดัง เกิดขึ้นได้ยังไง คนใดเป็นผู้ก่อตั้ง เมื่อ: มกราคม 07, 2019, 02:57:40 am
จอห์น ฮูลดิ้ง เป็นผู้จัดตั้งชมรมหงส์แดง ก่อนจะเช่าพื้นที่บริเวณ แอนฟิลด์ เพื่อใช้สร้างสนามฟุตบอล พร้อมกับให้เอฟเวอร์ตัน เช่าเป็นสนามสำหรับแข่ง ก่อนที่ลิเวอร์พูล จะจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในชื่อลิเวอร์พูล เอฟซี ในมีนาคม 1892 รวมทั้งเมื่อกลุ่มเอฟเวอร์ตันได้ไปสู่สมาชิกบอลลีก ด้าน จอห์น องค์การอนามัยโลกลดิ้ง อุตสาหะจะเข้าไปดำเนินงานในทีมเอฟเวอร์ตันรวมทั้งได้เพิ่มค่าเช่าสนามที่กลุ่มได้เช่าอยู่ ฝ่ายกลุ่มบริหารของเอฟเวอร์ตันก็เลยยกเลิกสัญญาเช่าสนาม และทีมเอฟเวอร์ตันได้ย้ายสนามไปอีกฝากของสวนสาธารณะ สแตนลีย์พาร์ค เพื่อไปสร้างสนามเป็นของตนเองโดยใช้ชื่อสนามว่า กูดิสันพาร์ค

เรื่องราวสมาพันธ์ลิเวอร์พูล
ภายหลังตั้งได้ไม่นาน ลิเวอร์พูลกลายเป็นสโมสรแนวหน้าของอังกฤษอย่างรวดเร็ว กระทั่งไปถึงเป้าหมายเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศทีแรกในช่วงฤดูกาล 1900/01 รวมทั้งครั้งลำดับที่สองใน ฤดูกาล 1905/06 ก่อนที่จะเป้นแชมป์สองฤดูติดต่อในซีซั่น1921/22 กับ 1922/23 แล้วหลังจากนั้นเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 5 ในช่วงฤดูกาล 1946/47 แต่ฤดูกาล 1953/54 หงส์แดงเจอกับช่วงถดถอยต้องไปเล่นในในดิวิชัน 2 ก็เลยได้เกิดการเปลี่ยนในด้วยการตั้ง บิลล์ แชงก์คลี่ย์ เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลในปี 1959

ประวัติชมรมหงส์แดง
เขาได้เข้ามาซ่อมกลุ่มใหม่หมด ด้วยการโละนักฟุตบอลออกถึง 24 ราย พร้อมกับปรับโครงสร้างภายใสห้องแต่งตัว ให้มีความนำสมัยเยอะขึ้น พร้อมทั้งจัดตั้ง "บูท รูม สตาฟฟ์" ชุดแรกขึ้นมา นำโดย โจ เฟแกน, รูเบ็น เบนเน็ตตื และก็ บ็อบ เพรียสลี่ย์ หลังจากนั้นจนกระทั่งไปถึงเป้าหมายได้เลื่อนชั้นในฤดูกาล 1961/62 และก็ฤดู 1963/64 พวกเขาก็ได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอีกรอบใน ภายหลังจากรอคอยมานานถึง 17 ปี

เรื่องราวสโมสรลิเวอร์พูล
ปี 1965 แชงก์ลี่ย์ พาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพ ทว่าไปปราชัยให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในศึกคัพ วิเนอร์ส คัพ รอบชิงชนะเลิศ แม้กระนั้น "ลิเวอร์พูล" ครองแชมป์ดิวิชั่น 1 อีกรอบในฤดูกาลต่อมา การบรรลุผลของแชงก์ลียังเดินหน้าถัดไป เมื่อลิเวอร์พูลได้แชมป์ยูฟ่าคัพ พร้อมแชมป์ดิวิชั่น 1 ใน ฤดู 1972/73 แล้วก็เอฟเอคัพ อีกรอบใน ฤดู 1973/74 หลังจากนั้น แชงก์คลี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังที่อิ่มตัวกับการบรรลุผล ให้ผู้ช่วยของเขาตกทอดตำแหน่ง ผู้จัดการทีมฟุตบอลแทน โน่นเป็น บ็อบ เพสลี่ย์

ประวัติความเป็นมาสโมสรหงส์แดง
ในปี 1976 พาทีมเป็นแชมป์ลีกสูงสุด และแชมป์ยูฟ่า คัพ ในปีเดียวกัน ยิ่งไปกว่านี้ เพสลี่ย์ ยังพาทีมเป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พ่วงด้วยแชมป์ดิวิชั่น 1 แต่ว่าน่าเสียดายที่มาพลาดท่าแพ้ในรอบชิงเอฟเอ คัพ 1977 ก็เลยอดเป็นทริเปิ้ลแชมป์ ไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้น "เร้ด แมชชีนส์" ยังคงสานต่อความโหฬารอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการป้องแชมป์ยุโรปได้อีกสมัย ในปี 1978 หลังจากนั้นลิเวอร์พูล กลับมาคว้าแชมป์ลีกในปี 1979 พอๆกับว่าตลอดเวลาที่ บ็อบ เพสลี่ย์ จับบังเหียน ด้านลิเวอร์พูล รวบแชมป์เข้าตู้โชว์ถึง 21 รายการ แบ่งเป็นยูโรปเปี้ยน คัพ 3 ครั้ง, ยูฟ่า คัพ 1 ครั้ง, ดิวิชั่นหนึ่ง 6 ครั้ง รวมทั้งลีก คัพ 3 ครั้ง ซึ่งมีเพียงถ้วยเดียวที่ เพสลี่ย์ เอื้อมไม่ถึงก็คือถ้วยเอฟเอ คัพ

ประวัติสมาพันธ์หงส์แดง
ยอดผู้จัดการทีมระดับตำนาน ตัดสินใจวางมือในปี 1983 รวมทั้งเป็น โจ เฟแกน อดีตมือขวาขึ้นมาเป็นแม่ทัพ ซึ่งเพียงซีซั่นแรก เฟแกน ก็พาลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ลีก, ลีก คัพ และก็ ยูโรเปี้ยน คัพ ส่งผลให้เฟแกน เป็นกุนซือคนแรกที่พาทีมได้ 3 แชมป์ ในหนึ่งฤดู ทั้งในช่วงฤดูกาล 1984-85 "ลิเวอร์พูล" ก็ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงแชมป์ศึกยูโรเปี้ยน คัพ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่ได้นึกฝันขึ้น โดยหนึ่งชั่วโมงก่อนจะเริ่มเกม ความดุเดือดในสนามก็เริ่มทำให้เกิดปัญหาขึ้น แฟนบอลทั้งสองฝ่ายแผดเสียงกวนโมโหกันไปๆมาๆผ่านรั้วลวดที่กันอยู่อย่างไม่แข็งแรงนัก ภายหลังที่แฟนบอลฝั่งหงส์แดงโดนปาสิ่งของซ้ำๆใส่ "เดอะ ค็อป" บางส่วนก็เข้าโจมตีแฟนบอลชาวอิตาเลียน เมื่อความระส่ำระสายในสนามควบคุมไม่อยู่แล้ว แฟนยูเวนตุๆสก็รีบหนีไปทางกำแพงซึ่งได้พังทลายลงมาทับร่างของพวกเขา แฟนบอล 39 รายเสียชีวิตอยู่ตรงนั้นเอง เป็นชาวอิตาลีแฟนบอลยูเวนเหม็นตุส 32 คน, เบลเยียม 4 คน, ประเทศฝรั่งเศส 2 คน และไอร์แลนด์ 1 คน

เรื่องราวสโมสรหงส์แดง
อย่างไรก็ตาม เกมยังคงดำเนินตามที่มีการกำหนดการ ซึ่งลิเวอร์พูล เป็นข้างแพ้ไป 0-1 จากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นคราวนั้น นำมาซึ่งการทำให้สมาคมจากเกาะอังกฤษ ถูกแบนไม่ให้ร่วมลงเตะในรายการยุโรป 5 ปี ส่วน โจ เฟแกน ตกลงใจลาออกจากตำแหน่ง รวมทั้งเป็น เคนนี่ ดัลกลิช ที่มารับไม้ต่อในหน้าที่ผู้เล่น-กุนซือ โดยขณะดังกล่าวมาแล้วข้างต้น สมาพันธ์คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ 3 ครั้ง รวมทั้งเอฟเอ คัพ อีก 2 ครั้ง แม้กระนั้นสมาคมราวกับจะต้องคำแช่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพินาศฮิลส์โบโร เมื่อวันเสาร์ที่ 15 เดือนเมษายน ค.ศ. 1989

ประวัติความเป็นมาสมาพันธ์หงส์แดง
ระหว่างเกม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศระหว่าง หงส์แดง กับ นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่สนามฮิลส์โบโรของรังเหย้าของ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ด้วยเหตุว่ามีคนแออัดเข้ามาชมเกมมากเกินปริมาตรจึงทำให้ อรรธจันทร์ ยืนได้พังลงมาและก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 96 คนซึ่งทั้งสิ้นเป็นแฟนบอลของลิเวอร์พูลและก็มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมากถึง 766 คนต่อไปทาง สโมสรบอลอังกฤษ จึงได้ออกกฎให้ทุกสโมสรรื้ออัฒจันทร์ยืนออกให้หมด และก็สร้างอรรธจันทร์แบบนั่งแทนทำให้ยุคอัฒจันทร์แบบยืนสิ้นสุดลง

ประวัติความเป็นมาสโมสรหงส์แดง
เคนนี่ ดัลกลิช ตกลงใจทิ้งทีมไปแบบช็อกแฟนบอล ในปี 1991 โดยให้เหตุผลว่าทนแรงกดดันไม่ไหว และก็เป็น เอ็งรม ซูเนสส์ ที่ขึ้นมาคุมทีมแทน พร้อมกับได้แชมป์เอฟเอ คัพ ปี 1992 ซึ่งก็เป็นโทรฟี้เดียวที่ ซูเนสส์ คว้ามาแต่งแต้มตู้โชว์ ก่อนที่จะตกลงใจลาออกจากตำแหน่งในปี 1994 กับแต่งตั้ง รอย อีแวนส์ มาเป็นแม่งาน และก็ถือแชมปืลีก คัพ มาครองในปี 1995 แต่ภาพรวมในสมัย อีแวนส์ ไม่สู้ดี ทำให้ผู้บริหารตกลงใจดึงเชราร์ อูลิเย่ร์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลร่วม ในฤดูกาล 1998-99 ก่อนที่จะ อีแวนส์ จะติดสินใจก้าวลงจากตำแหน่ง ส่งผลให้ "เฮียโปน" กลายเป็นผู้จัดการทีมอย่างสุดกำลัง

เรื่องราวสมาคมหงส์แดง
อูลิเย่ร์ พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์บอลถ้วยอีกทั้งในระดับประเทศรวมทั้งระดับทวีปถึง 3 แชมป์ ดังเช่นลีกคัพ, เอฟเอคัพ และก็ยูฟ่าคัพ ได้ในช่วงฤดูกาล2000/01 ส่วนในซีซั่นต่อมา หงส์แดงยังคว้าถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพ ด้วยการเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในปีนั้น และก็เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่แข่งขันตัวฉกาจในถ้วยแชร์ลิตี้ ชิลด์ แต่เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส เผชิญปัญหาด้านสุขภาพโจมตี ก็เลยจะต้องถูกส่งตัวเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ ระหว่างฤดู 2001-02 แม้กระนั้นซีซั่นดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว "หงส์แดง" จบด้วยการเป็นรองแชมป์ ส่วนตำแหน่งแชมป์เป็นของอาร์เซน่อล

ประวัติสโมสรลิเวอร์พูล
ในช่วงฤดูกาล 2003-04 อูลิเย่ร์ ตกลงใจลงจากเก้าอี้ผู้จัดการทีม พร้อมกับส่งไม้แม้กระทั่งกับราฟาเอล เบนิเตซ เฮดผู้ฝึกสอนจากแดนกระทิงดุ ถึงแม้ปีแรกกับ "เอลบอส" จะค่อนข้างจะน่าผิดหวังหากดูจากชั้นตารางในพรีเมียร์ลีกซึ่งจบด้วยการรั้งชั้น 5 อย่างไรก็แล้วแต่แฟนบอลทั้งโลกได้ลืมความเจ็บปวดไปหมดสิ้น เมื่อผู้จัดการทีฟุตบอล[/url]หน้าเลอะหนวด นำ "หงส์แดง" ผงาดเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกไปอย่างยิ่งใหญ่ โดยอบชิงชนะเลิศ เป็นการแข่งขันที่ตื่นตาตื่นใจกาลครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์บอลยุโรป เมื่อหงส์แดงไล่ตีเสมอกลุ่ม เอซี มิลาน เป็น 3-3 ในขณะที่โดนยิงนำไปก่อนถึง 3-0 รวมทั้งสุดท้าย ก็ครอบครองแชมป์มาได้จากการยิงจุดลูกโทษชนะ 3-2 เป็นกลุ่มจากอังกฤษที่ครอบครองถ้วยยูโรเปียนคัพ (เดี๋ยวนี้คือ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) มากครั้งที่สุดถึง 5 สมัย

ความเป็นมาสโมสรลิเวอร์พูล
ผู้เล่นที่สำคัญในสมัยนั้น ก็มี สตีเวน เจอร์ราร์ด, ชาบี อาทดลองโซ, ดีทมาร์ ฮามันน์, วลาดิภรรยาร์ ซมิเซอร์, เจอร์ซี มองเด็ค และ เจมี คาร์ราเกอร์ ในฤดูกาลถัดมา(2005/06) หงส์แดงของเบนิเตซทำให้แฟนบอลจำเป็นต้องลุ้นอีกครั้งในนัดหมายชิงเอฟเอคัพ เมื่อจำต้องอาศัยลูกยิงน่าพิศวงของ สตีเวน พบร์ราร์ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บตามตีเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บ ซึ่งจำเป็นต้องลากยาวมาจนถึงฏีกาอีกที แล้วก็ "หงส์แดง" ก็สามารถชนะไปได้ 3-1 เป็นแชมป์สำคัญรายการปัจจุบันที่ลิเวอร์พูลทำได้ แม้กระนั้นรายการที่แฟนบอลปรารถนาเยอะที่สุดเป็นแชมป์ลีกของประเทศ หรือพรีเมียร์ลีกในขณะนี้ ซึ่งปีล่าสุดที่ลิเวอร์พูลคว้ามาได้คือ ซีซั่น 1989/90

เรื่องราวสมาพันธ์หงส์แดง
หลังจากนั้นในช่วงฤดูกาล 2006-07 ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ไปสู่ยุคที่ความเคลื่อนไหว ข้างหลังจานายทุนคนประเทศอเมริกาอย่าง จอร์จ ยิลเล็ตต์ กับ ทอม ฮิคส์ เข้ามาเทคโอเวอร์สมาพันธ์ ด้วยราคาสูงถึง 218.9 ล้านปอนด์ (โดยประมาณ 9850 ล้านบาท) โดยปีดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น หงส์แดง ทะยานเข้าชิงยูซีแอล อีกที ซึ่งโคจรมาพบกับคู่อริเก่าอย่างเอซี มิลาน แม้กระนั้นตอนนี้เป็นฝั่ง "ภูตผีปิศาจแดงดำ" แก้เผ็ดเอาชนะไป 2-1 ส่วนในฤดูกาลถัดมา (2008-09) หงส์แดง เก็บไปได้ถึง 86 คะแนน แปลงเป็นสถิติมากที่สุดของชมรม นับตั้งแต่แปลงมาเป็นพรีเมียร์ลีก ทว่าจำนวนดังกล่าส กลับไม่ดีพอที่จะส่งพวกเขาเป็นแชมป์ เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นข้างเบียดเข้าป้ายคว้าชัยชนะลีกไปครองอย่างปวด

ประวัติสมาพันธ์หงส์แดง
ในช่วงฤดูกาล 2009-10 ลิเวอร์พูล ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย ภายหลังที่จบที่อันดับที่7 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งหมดสิทธิ์ไปชิงชัยในรายการ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทำให้เบนิเตซจะต้องลาออกจากตำแหน่งด้วยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย และถูกแทนที่แทนที่โดย รอย ฮอดจ์สัน สมัยก่อนผู้จัดการทีมฟูแลม ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2010–11 ชมรมลิเวอร์พูลนั้นมีความเสี่ยงต่อการล้มละลาย เนื่องด้วยรับภาระหนี้สินเยอะๆจากรูปแบบการทำงานของ จอร์จ ยิลเลตต์ และก็ ทอม ฮิกส์ ส่งผลให้ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี ผู้ครอบครองทีมบอสตัน เรด ซ็อกซ์รวมทั้งนิว อิงแลนด์ สปอร์ตส์ เวนพบร์ส อาศัยช่องฏว่ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เข้ามาฮุบกิจการค้าต่อจากสองเจ้าของเดิม แบบสายฟ้าปาดบ ซึ่งเรื่องไม่จบง่ายๆเมื่อ ยิลเล็ตต์ และก็ ฮิคส์ ไม่ยินยอม กระทั่งเป็นเรื่องราวฟ้องศาลในเวลาถัดมา จาก www.hero88.co

ความเป็นมาสโมสรลิเวอร์พูล
ตอนตุลาคม 2010 ผลที่เกิดจากการแข่งขันที่ทรุดโทรมในตอนต้นฤดู ทำให้ฮอดจ์สัน ลาออกจากตำแหน่ง โดยมี เคนนี ดัลกลิช กลับมาคุมกลุ่มอีกรอบ โดยในฤดูกาล 2011-12 "คิงเคนนี่" สามารถพาทีมครองแชมป์ลีก คัพ ยุคที่แปดได้สำเร็จ จากการยิงจุดโทษชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซีตี้ แต่ว่าเมื่อจบฤดูกาล 2011-12 ลิเวอร์พูลจบที่อันดับที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นการจบชั้นที่ห่วยที่สุดในรอบ 18 ปี ทางสมาคมตัดสินใจปลดดัลกลิชออกจากตำแหน่ง ช่วงวันที่ 1 มิถุนายน พุทธศักราช 2012 หลังจากนั้นทางชมรมได้ประกาศแต่ง เบรนแดน ร็อดเจอส์ สมัยก่อนกุนซือสมาคม สวอนซี ซิตี้ เป็นแม่ทัพคนใหม่นได้เช่นไร

ขอบคุณบทความจาก : [url]https://sbobetsss.wordpress.com/[/url]

Tags : hero88,บอล,ฟุตบอล
25  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ประวัติบอล ภูมิหลังของบอล เมื่อ: มกราคม 07, 2019, 01:42:58 am

ประวัติความเป็นมาฟุตบอล – บอล (Football) หรือซอคเก้อร์ (Soccer) เป็นกีฬาที่มีผู้สนใจที่จะชมการแข่งขันและก็เข้าร่วมเล่นสูงที่สุดในโลก ชาติใดเป็นผู้เกิดกีฬาชนิดนี้อย่างแท้จริงนั้นไม่สามารถการันตีได้แน่นอนเพราะเหตุว่าแต่ละเชื้อชาติต่างรับรองว่าเกิดจากประเทศของตน แต่ว่าในประเทศฝรั่งเศสและประเทศอิตาลีได้มีการละเล่นชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ซูเลอ” (Soule) หรือจิโอวัว เดล คาซิโอ (Gioco Del Calcio) มีลักษณะการเล่นที่คล้ายกับกีฬาฟุตบอลในตอนนี้ ทั้งสองประเทศบางครั้งอาจจะโต้แย้งกันว่ากีฬาบอลถือกำเนิดจากประเทศของตน อันเป็นการหาข้อยุติไม่ได้ เพราะว่าขาดหลักฐานการันตีอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนั้น ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลที่มีหลักฐานที่จริงจริงสามารถจะอ้างอิงได้ เนื่องจากการเล่นที่มีกติกาการประลองที่แน่นอน เป็นอังกฤษเพราะว่าอังกฤษตั้งชมรมบอลในปี พุทธศักราช 2406 แล้วก็บอลอาชีพของอังกฤษเกิดขึ้นในปี พุทธศักราช 2431

ประวัติความเป็นมาฟุตบอล
พัฒนาการด้านฟุตบอลจะเป็นไปพร้อมทั้งความเจริญก้าวหน้าของคนเราตลอดมา ต้นกำเนิดกีฬาตะวันออกไกลจะได้รับอิทธิพลมาจากการศึกครั้งสำคัญๆอย่างเช่นการรบพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ได้นำเอา “แกลโล-โรมัน” (Gello-Roman) พร้อมกีฬาต่างๆเข้ามาสู่เมืองกอล (Gaul) อันเป็นรากฐานส่วนหนึ่งส่วนใดของกีฬาฟุตบอลในอนาคต แล้วก็การเล่นฮาร์ปาสตัม (Harpastum) ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นกีฬาซูเลอ

พัฒนาการของบอล
ภาคตะวันออกไกล
ขงจื้อได้กล่าวไว้ภายในหนังสือ “กังฟู” เกี่ยวกับกีฬา โดยเฉพาะกีฬาที่ใช้เท้าและศีรษะในสมัยจักรพรรดิ์ เซิงติเตียน (Emperor Cneng Ti) (ปี 32 ก่อนคริสตกาล) มีการเล่นกีฬาที่คล้ายกับฟุตบอลซึ่งเรียกว่า”ซือ-ซู” (Tsu-Chu) ซึ่งก็คือการเตะลูกหนังด้วยเท้า กีฬาจำพวกนี้ได้รับความนิยมอย่างมากมายซึ่งนักเขียนแล้วก็นักประวัติศาสตร์ในยุคนั้นได้ชื่นชมผู้เล่นที่โด่งดังให้เป็นวีรบุรุษของชาติ แล้วก็ในยุคเดียวกันได้มีการเล่นคล้ายฟุตบอลในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ภาคตะวันออกกลาง
ในกรุงโรม ความก้าวหน้าของตะวันออกไกลได้แผ่กว้างถึงตะวันออกกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอิทธิพลของการศึก โดยพระผู้เป็นเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช การเล่นกีฬาชนิดหนึ่งเรียกว่า ฮาร์ปาสตัม เป็นกีฬาที่นิยมของชาวโรมันรวมทั้งชาวกรีกโบราณวิธีการเล่นเป็น มีประตูคนละข้าง แล้วเตะลูกฟุตบอลไปยังเป้าหมายที่ต้องการ เป็นต้นว่า จากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง การเล่นจะเป็นการเตะ หรือการขว้างไปด้านหน้าฮาร์ปาสตัม หมายคือการเหวี่ยงไปด้านหน้า การเล่นกีฬาฮาร์ปาสตัมในกรุงโรมดูเหมือนจะเป็นต้นเกิดของกีฬาซึ่งมีการเล่นในยุคกลาง

สำหรับการเล่นฮาร์ปาสตัม ขนาดของสนามจะเล็กมากยิ่งกว่าสนามกีฬาซูเลอ แต่วัตถุประสงค์ของกีฬาทั้งคู่เป็น การนำบอล ไปยังดินแดนของตนแม้กระนั้นเนื่องด้วยมีเสียงครึกโครมปึงปังจากการวิ่งแย่งบอล ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้มากมาย อันเป็นข้อห้ามของพระผู้เป็นเจ้า จึงมีพระบรมราชโองการในนามของพระราชาห้ามเล่นกีฬาดังที่กล่าวถึงแล้วในเมือง ผู้ละเมิดมีโทษถึงจำคุก นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่ห้ามซึ่งออกในวันที่ 12 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช1892 ขอให้เล่นยิงธนูในวันฉลองต่างๆแทนการเล่นเกมบอล

ในจังหวะต่อมากีฬาฟุตบอลได้จัดให้มีการแข่งขันกันอีกครั้ง ซึ่งเป็นการเจอหน้ากันระหว่างทีมต่างๆที่อยู่ห่างกันราวๆ 3-4 ไมล์ ( 5-6.5 กม.) ในปี พุทธศักราช 2344 กีฬาจำพวกนี้ได้กล่อมเกลาให้ดียิ่งขึ้น มีการระบุจำนวนผู้เล่นให้เท่ากันในแต่ละข้าง ขนาดของสนามอยู่ในระหว่าง 80 – 100 หลา (73-91 เมตร) และมีประตูทั้งสองข้างที่ขอบสุดของสนามซึ่งทำด้วยไม้ 2 อัน ห่างกัน 2-3 ฟุต

ในปี พ.ศ. 2366 ได้จัดให้มีการเล่นบอลในลักษณะของการเล่นใน ตอนนี้ William Alice เป็นผู้เริ่มวางกฎบังคับต่างๆสำหรับกีฬาฟุตบอลและก็รักบี้ ในปี พุทธศักราช 2393 ได้มีการออกระเบียบรวมทั้งกฎของการเล่นไปสู่ ดินแดนต่างๆให้กระทำตาม โดยจำกัดจำนวนผู้เล่นให้มีข้างละ 15-20 คน

ในปี พ.ศ. 2413 มีการกำหนดผู้เล่นให้เหลือข้างละ 11 คน โดยมีผู้เล่นกองหน้า 9 คน รวมทั้งผู้เล่นรักษาประตู 2 คน โดยผู้รักษาประตูใช้เท้าเล่นราวกับ 9 คนแรกจนถึงให้เหลือผู้รักษาประตู 1 คน แต่อนุญาตให้ใช้มือจับลูกบอลได้ในปี พุทธศักราช 2423

ในปี พ.ศ. 2400 ชมรมบอลได้จัดตั้งเป็นครั้งแรกที่เมืองเซนพัสด์ประเทศอังกฤษ แล้วก็ต่อมาในวันที่ 26 ต.ค. พุทธศักราช 2406 สมาพันธ์บอล 11 แห่งได้มารวมกันที่กรุงลอนดอนเพื่อจัดตั้งสโมสรฟุตบอลขึ้น ซึ่งถือเป็นรากฐานในการกำเนิดสัมพันธ์แห่งชาติ จนถึง 140 ชมรม และทำให้ผู้เล่นบอลจำต้องเล่นตามกฎและกติกาของสัมพันธ์ฟุตบอล กระทั่งเวลาผ่านไปจากคำว่า Association ก็ย่อเป็น Assoc และเปลี่ยนเป็น Soccer ขึ้นสุดท้าย ซึ่งนิยมเรียกกันในประเทศอังกฤษ แต่ชาวอเมริกันเรียกว่า Football หมายคือ American football

ข้างนอกเกาะอังกฤษ พวกกะลาสีเรือ ทหาร พ่อค้า วิศวกร หรือแม้กระทั้งบรรพชิตได้นำกีฬาจำพวกนี้ไปเผยแพร่ ประเทศเดนมาร์กเป็นประเทศที่ 2 ในยุโรป

ในอเมริกาใต้ ชมรมแรกได้ถูกตั้งขึ้นในประเทศอาร์เจนตินา เมื่อญาติคนประเทศอังกฤษ 2 คน ได้ลงใจความประชาสัมพันธ์ในหนังสือพิมพ์ของเมืองบูเอโนสไอเรส (Buenos Aires) เพื่อ หาผู้อาสาสมัคร ในปี พ.ศ. 2427 กีฬาบอลก็เปลี่ยนมาเป็นวิชาหนึ่งในโรงเรียนของเมืองบูเอโนสไอเรส การแข่งขันชิงชัยระดับชาติทีแรกในทวีปอเมริกาใต้ คือ การแข่งขันระหว่างอาร์เจนตินากับอุรุกวัย ในปี พุทธศักราช2448 แต่ว่าอเมริกาเหนือเริ่มแข่งขันเมื่อปีพุทธศักราช 2435

ในอิตาลี ฮาร์ขว้างสตัมเป็นต้นเกิดจิโอวัว เดล ค้างลสิโอ ผู้เล่นกีฬาจะเป็นผู้นำทางสังคม หรือแม้กระทั้งผู้นำชั้นสูงของศาสนา ยกตัวอย่างเช่นสันตขว้างปา เกลาเมนต์ที่ 7 ลีออนที่ 10 และก็เออร์เบนที่ 7 เป็นถึงแชมเปี้ยนในกีฬาฟลอเรนไทน์ฟุตบอล ต่อมาชาวโรมันได้ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเกมการเล่นฮาร์ปาสตัมเสียใหม่ โดยกำหนดให้ใช้เท้าแตะบอลเท่านั้น ส่วนมือให้ใช้เฉพาะการทุ่มลูกฟุตบอล ซึ่งทหารชาวโรมัน นิยมเล่นกันมากมาย

กีฬาฮาร์ปาสตัมซึ่งมีต้นกำเนิดจากสมัยโรมันได้ถูกแปลงมาเป็นกีฬาซูลอหรือซูเลอ กีฬาจำพวกนี้ดังฮาร์ปาสตัม คือ นำลูกบอลกลับไปยังดินแดนของตนเอง แม้กระนั้นสนามมีขนาดกว้างกว่ามาก

การเล่นซูเลอมักจะมีขึ้นในบ่ายวันอาทิตย์หลังการท่องมนต์เย็น จะมีการแข่งขันสำคัญในขณะดีคาร์นิวาล กีฬาประเภทนี้เป็นที่นิยมมากมายในเขตปริตานีแล้วก็มอร์ลังดี กีฬานี้ได้ถูกเผยแพร่ไปยังอังกฤษโดยผู้ติดตามของวิลเลี่ยมผู้พิชิตตอนหลัง การรบที่เฮสติ้ง (Hasting)

เมื่อ 900 ปีกว่ามาแล้ว ประเทศอังกฤษได้ตกอยู่ในความปกครองของพวกเคนส์ เชื้อสายโรมัน ซึ่งยกกองทัพมาตีหมู่เกาะอังกฤษตอนใต้ และได้ปกครองเรื่อยๆมาจนกระทั่งปี พ.ศ. 1589 อังกฤษเริ่มเข้มแข็งขึ้น รวมทั้งสามารถขับไสพวกเคนส์ออกมาจากประเทศได้ หลังจากนั้น 2-3 ปี อังกฤษก็เลยเริ่มปรับปรุงแก้ไขประเทศเป็นการใหญ่ มีการขุดอุโมงค์ตามพื้นที่หลายแห่ง ซึ่งในการขุดอุโมงค์คนงานคนหนึ่งได้ขุดไปพบกะโหลกศีรษะในรอบๆที่เคยเป็นสนามรบ และเป็นสุสานของพวกเคนส์มาก่อนทุกคนในที่นั้นมั่นใจว่าเป็นกะโหลกศีรษะของพวกเคนส์ อารมณ์โกรธแค้นก็เลยเกิดขึ้นโดยทันทีเมื่อต่างคนต่างคิดถึงเรื่องที่ถูกพวกเคนส์บังคับทารุณจิตใจชาวอังกฤษในยุคนั้นด้วยเหตุผลนี้ คนงานคนหนึ่งจึงเตะกะโหลกศีรษะนั้นโดยทันที ส่วนผู้อื่นที่อยู่ในรอบๆนั้นก็พากันหยุดงานชั่วคราว แล้วหันมาเตะกะโหลกศีรษะเป็นการใหญ่ เพื่อระบายอารมณ์แค้นที่เก็บไว้อย่างสนุก ในที่สุดเมื่อเหล่านี้หากะโหลกหัวเตะกันไม่ได้ก็เอาถุงลมของวัวมาทำเป็นลูกกลมขึ้นเตะแทนกะโหลกศีรษะ ปรากฏว่าเป็นที่ครึกครื้นสนุกสนามกันมากมาย ต่อมาชาวโรมันได้นำเกมนี้ไปเล่นในอังกฤษ ต่อจากนั้นผู้ดีอังกฤษก็ได้ปรับแก้แนวทางการเล่นแนวทางการเล่น ตลอดจนข้อตกลงให้เหมือนในสมัยปัจจุบัน คือเกมบอลที่ใช้เท้าเล่น แต่ในระยะเริ่มต้นของการเล่นฟุตบอลจะเล่นกันเป็นกลุ่มๆเฉพาะพวกคนเดินดินแค่นั้นไม่มีการจำกัดจำนวนผู้เล่น ประตูจะห่างกันเป็นไมล์ รวมทั้งใช้เวลาสำหรับในการเล่นหลายชั่วโมง จะเป็นการเล่นระหว่างทหารใหม่ที่ถูกมาตรฐาน นักบวช คนที่สมรสแล้ว คนไม่มีแฟน และพวกพ่อค้า เกมชนิดได้แปลงเป็นสิ่งฉลองในงานพิธีต่างๆดังเช่น ในวันโชรพ ทิวส์เดย์ (Shrove Tuesday) จะมีบอลนัดสำคัญให้คนได้ชม เกมในยุคนั้นจะเล่นกันอย่างหนักแล้วก็มีการบาดเจ็บกันมาก

ในวันที่ 13 เดือนเมษายน พุทธศักราช 1857 พระเจ้าเอ๊ดเวิร์ดที่ 2 ได้ทรงออกพระราชกฤษฎีกา เพราะเหตุว่ามีเสียงอื้ออึงจาการวิ่งแย่งลูกฟุตบอล ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุมากไม่น้อยเลยทีเดียว อันเป็นข้อกำหนดของพระเจ้า โดยห้ามเล่นกีฬาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว คนใดกันแน่ละเมิดมีโทษติดคุก

ฟุตบอลได้เริ่มแข่งขันภายใต้กฎของสัมพันธ์แห่งชาติ เมื่อปี พุทธศักราช 2412 ระหว่างทีมรัตเกอร์กับกลุ่มบรินท์ตัน ต่อจากนั้นธุรกิจบอลได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นช้าๆในต่างจังหวัดจนกว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้มีการตั้งสโมสรบอลต่างจังหวัดขึ้นในปี พ.ศ. 2450 แล้วก็มีการฝึกสอนในปี พุทธศักราช 2484

ในทวีปเอเชีย
ประเทศอินเดียเป็นประเทศแรกที่เริ่มเล่นฟุตบอล ศ.จ.จากวิทยาลัยกัลกัตตา เป็นผู้นำสำเนาข้อบังคับการเล่นมาเผยแพร่ในปี พุทธศักราช 2426 และในปีพุทธศักราช 2435 ได้มีการแข่งชิงถ้วยรางวัลเป็นครั้งแรก ในทวีปซึ่งยังไม่มีเกียรติศักดิ์ในด้านการเล่นฟุตบอล กีฬาจำพวกนี้ก็ได้เริ่มมีการเล่นมาก่อนร่วมร้อยปีแล้ว เป็นต้นว่า ชมรมบอลแห่งนิวเซาท์เวลส์ ได้ถูกตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย ปี พ.ศ. 2425 รวมทั้งสมาคมบอลของนิวซีแลนด์ได้ถูกตั้งต่อไป 9 ปี

ในแอฟริกา
ชมรมระดับประเทศที่แรกได้ถูกตั้งขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้ แต่อียิปต์เป็นประเทศแรกที่มีการแข่งระดับชาติในปี พ.ศ. 2467 คือ 3 ปี ภายหลังที่ได้จัดตั้งสมาคมขึ้นรวมทั้งอียิปต์สามารถเอาชนะฮังการีได้ 3-0 ในกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปารีส

การประลองระดับชาติเป็นการชิงชัยระหว่างอังกฤษกับสกอตแลนด์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2415 รวมทั้งในปีแรกของศตวรรษที่ 20 โดยประเทศยุโรปอื่นๆแต่ในปี พ.ศ. 2447 กรุ๊ปประเทศต่างๆในแถบนี้ได้สัมมนากันที่ปารีสเพื่อตั้งสัมพันธ์ฟุตบอลนานาชาติขึ้น ในทีแรกก่อนจะมีการจัดตั้งสมาพันธ์ 20 วัน ประเทศสเปนและเดนมาร์กไม่เคยร่วมการประลองระดับชาติมาก่อน รวมทั้ง 3 ประเทศใน 7 ประเทศที่เข้าร่วมสัมมนายังไม่มีสัมพันธ์ฟุตบอลในชาติของตนเอง แม้กระนั้นฟีฟ่าก็แกร่งขึ้นเรื่อยๆมา โดยมีสมาชิก 5 ชาติ ในปี พ.ศ.2481 แล้วก็ 73 ชาติ ในปี พ.ศ. 2493 และในขณะนี้มีสมาชิกถึง 146 ประเทศ ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมของสมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติทำให้ฟีฟ่าเป็นหน่วยงานกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สมาพันธ์ประจำทวีปของสโมสรบอลที่แรกที่ตั้งขึ้นคือConmebol ซึ่งเป็นสมาพันธ์ของอเมริกาใต้ สหพันธรัฐนี้ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อจัดตั้งเพื่อจัดการแข่งขันชิงแชมป์ภายในทวีปอเมริกาใต้ ในปี พุทธศักราช 2460 เกือบจะครึ่งศตวรรษ ต่อมาเมื่การประลองภายในทวีปได้แพร่หลายมากขึ้น ก็เลยได้มีการตั้งขึ้นสมาพันธ์ในทวีปอื่นๆขึ้นอีกเป็นสหภาพสัมพันธ์บอลยุโรป ในปี พุทธศักราช 2497 ซึ่งเป็นปีเดียวกับการจัดตั้งในทวีปเอเชีย และ 2 ปี ก่อนจะมีการจัดตั้งสโมสรฟุตบอลยุโรป ในปี พุทธศักราช 2497 ซึ่งเป็นปีเดียวกับการจัดตั้งสหพันธ์ฟุตบอลแห่งแอฟริกา (Concacaf)หรือสหพันธ์บอลแห่งอเมริกากึ่งกลาง อเมริกาเหนือ และก็แคยึดเบี้ยน ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พุทธศักราช 2504 รวมทั้งน้องใหม่ในวงการฟุตบอลโลกเป็น สมาพันธ์ฟุตบอลที่โอเชียนเนีย (Oceannir)

สหพันธ์ฟุตบอลนานาประเทศ
สหพันธ์บอลนานาประเทศ (Federation International Football Association FIFA) จัดตั้งขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2447 โดยชมรมบอลแห่งประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งประเทศที่ร่วมตั้ง 7 ประเทศเป็น ฝรั่งเศส เบลเยียม เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ประเทศสเปนสวีเดน รวมทั้งสวิตเซอร์แลนด์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : hero88

เครดิต : [url]https://www.hero88.co/[/url]

Tags : hero88
26  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตำนานกีฬาแห่งอังกฤษ แล้วก็ฯลฯตำรับฟุตบอลโลก เมื่อ: มกราคม 06, 2019, 01:05:27 pm
เดิมบอลลีกที่นี้ ใช้ชื่อว่า ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง ซึ่งมีจัดแจงแข่งขันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2431 (คริสต์ศักราช 1888) รวมทั้งถือว่าเคยเป็นลีกบอลที่ช้านานที่สุดในโลก โดยในปี พ.ศ. 2535 ในฤดูกาล 1992-93 การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากรูเพิร์ธ เมอร์ด็อก(Rupert Murdoch) นักธุรกิจสื่อสารรายใหญ่ผู้ครอบครองเครือข่าย สถานีโทรทัศน์สกาย (BSkyB) พยายามส่งเสริมให้สมาพันธ์ฟุตบอลที่จะลงแข่งขันในดิวิชันหนึ่งประจำฤดูกาล 1992-93 ถอนตัวออกมาจัดตั้งเป็นพรีเมียร์ลีกทำให้ฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษที่แก่ 104 ปี จำเป็นต้องจบลง ช่วงเวลาเดียวกันทางฟุตบอลลีกเดิมได้แปลงชื่อจาก ดิวิชันสอง มาเป็น ดิวิชันหนึ่ง และดิวิชันอื่นได้แปลงตามกันไป ในตอนนั้นเป็นตอนในเวลาที่วงการบอลอาชีพของอังกฤษตกต่ำเป็นอย่างมากเกิดเหตุการณ์หลายแบบ ไม่ว่าเรื่องของสนามกีฬาที่มีปัญหาเรื่องอันธพาลลูกหนัง หรือที่เรียกว่าฮูลิแกน ทำลายภาพลักษณ์ของฟุตบอลอังกฤษ ไฟเผาอรรธจันทร์ วันที่ 11 พ.ค. 2528 ที่สนามฟุตบอลของชมรมฟุตบอลกางรดฟอร์ดซิตี ในระหว่างการประลอง มีผู้เสียชีวิต 56 คน เหตุการณ์วันที่ 15 เดือนเมษายน 2532 ที่สนามฟุตบอลฮิลส์เบอโรของชมรมบอลเชฟฟิลด์เวนส์เดย์ มีผู้คนเหยียบกันเสียชีวิตกว่า 96 คน นอกนั้นโศกนาฏกรรมเฮย์เซลที่มีผู้ตาย 39 คน ทำให้ยูฟ่าสั่งห้ามไม่ให้สมาคมจากอังกฤษร่วมการแข่งขันชิงชัยชิง ถ้วยสมาคมในยุโรปเป็นเวลา 5 ปี อันธพาลลูกหนังที่ตามไปเชียร์กลุ่มที่ประทับใจ ภายหลังการแข่งขันจะเกะกะระราน เข้าผับดื่มกินจนกระทั่งเมาแอ๋ บ้างก็ทะเลาะวิวาทกับแฟนบอลเจ้าถิ่นเกิดเหตุการณ์วุ่นวายบางครั้งร้ายแรงถึงขั้นความปั่นป่วนหรือไม่ก็มีคนตาย โดยเรื่องเศร้าเฮย์เซล์ส่วนใดส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มคนเหล่านี้เช่นเดียวกัน

หลายเรื่องทำให้แฟนฟุตบอลไม่อาจจะดูการแข่งขันได้อย่างเงียบๆสุข เนื่องจากกลัวจะโดนลูกหลง ประกอบกับสภาพสนามที่เสื่อมโทรมไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก หรือการปกป้องเหตุฉุกเฉินอย่างดีเพียงพอ ทำให้ชาวอัโลภฤษหลายคนตกลงใจรับชมการถ่ายทอดสดทางสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่บ้าน แทนที่จะเดินทางมาเชียร์ในสนามเช่นอดีตกาล ช่วงทศวรรษ1980 รายได้ของสโมสรจากค่าผ่านประตูซึ่งเป็นรายได้หลักได้ลดลงอย่างมาก มีเพียงแค่ชมรมชั้นนำไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ยังคงมีกำไร ในช่วงฤดูกาล 1986-87 ทุกชมรมฟุตบอลมีกำไรทั้งสิ้นรวมเพียงแต่ 2.5 ล้านปอนด์พอเพียงถึงฤดู 1989-90 รวมทุกชมรมขาดทุน 11 ล้านปอนด์ทำให้นักลงทุนไม่กล้าจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจกีฬาอาชีพนี้อย่างเต็มที่หลายสมาคมในตอนนั้นมีข่าวสารว่าใกล้จะล้มละลาย

คราวหลังเหตุการณ์ที่สนามฮิลส์โบโร่ รัฐบาลอังกฤษได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีลอร์ดปีเตอร์เทย์เลอร์ ตุลาการระดับรองประธานศาลฎีกา เป็นประธานคณะกรรมการ โดยผลของการสืบสวนซึ่งเรียกว่า รายงานฉบับเทย์เลอร์ (Taylor Report) ได้กลายมาเป็นเอกสารสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแวดวงฟุตบอลอังกฤษ ด้วยเหตุว่ากำหนดให้ทุกสมาพันธ์จำต้องปรับปรุงสนามแข่งขัน ที่สำคัญเป็นอรรธจันทร์ชมการแข่งขันจะต้องเป็นแบบนั่งทั้งหมด ห้ามไม่ให้มีอัฒจันทร์ยืนเพื่อให้มีความปลอดภัยของผู้ชมการแข่งขัน โดยทีมในระดับดิวิชัน 1 รวมทั้ง 2 ต้องปรับปรุงแก้ไขให้เสร็จในปี 2537 แล้วก็ ดิวิชัน 3 รวมทั้ง 4 ให้เสร็จในปี 2542 นำมาซึ่งการทำให้การยืนดูฟุตบอลซึ่งเป็นวัฒนธรรมการดูฟุตบอลของคนประเทศอังกฤษมานาน บางแห่งก็มีชื่อเสียงเช่นอัฒจันทร์เดอะค็อปของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลจำต้องจบไป แม้ว่าในประเทศอังกฤษจะมีสมาคมฟุตบอลทั้งอาชีพแล้วก็สมัครเล่นมากที่สุดในโลก แต่ว่าสนาฟุตบอล[/url]ส่วนมากมีสภาพดั้งเดิมย่ำแย่ บางสโมสรในระดับดิวิชันหนึ่งหรือดิวิชันสองยังคงมีอรรธจันทร์ที่สร้างด้วยไม้ทำให้การปรับแต่งสนามฟุตบอลของสโมสรบอลอังกฤษคราวนี้จำต้องใช้เงินลงทุนเป็นอันมาก ท่ามกลางสถานะทางด้านการเงินที่ไม่มั่นคงเพราะรายได้ลดลงเป็นอย่างมาก ชมรมเล็กบางแห่งซึ่งมีผู้ชมน้อยอยู่แล้วจึงใช้แนวทางปิดตายอรรธจันทร์ยืน ส่วนสโมสรใหญ่ที่ฐานะด้านการเงินดีกว่าก็เจอปัญหาเช่นกัน เพราะไม่บางทีอาจใช้แนวทางเลี่ยงปัญหาแบบสมาคมเล็กได้

รัฐบาลอังกฤษในช่วงเวลานั้นจำต้องเข้าช่วยเหลือโดยลดค่าธรรมเนียมหรือภาษีธุรกิจบอล นำเงินส่วนนี้มาตั้งกองทุนบอลปริมาณ 100 ล้านปอนด์ ให้บอลลีกเป็นคนจัดแบ่งให้สโมสรฟุตบอลซึ่งเป็นกลุ่มสมาชิกทั้งยัง 96 ชมรม นำไปพัฒนาปรับปรุงสนามแข่งขันของตัวเอง แต่งบโดยประมาณเท่านี้จำเป็นต้องนับว่าน้อยมาก แม้นำมาเฉลี่ยอย่างเสมอกันแล้วจะได้รับเงินเพียงแต่สมาพันธ์ละ 1.08 ล้านปอนด์เพียงแค่นั้น ในเวลาที่สโมสรบอลชั้นนำของลีกจำเป็นต้องใช้เงินสำหรับในการณ์นี้มากถึงกว่าสิบล้านปอนด์ ชมรมใหญ่ในดิวิชันหนึ่งก็เลยกดดันบอลลีกจัดสรรเงินให้มากกว่าชมรมเล็ก เพราะหากไม่เสร็จทันตามกำหนดบางครั้งก็อาจจะถูกถอนเอกสารสิทธิ์ได้

เครดิตบทความจาก : [url]https://footballclub99.wordpress.com/[/url]

Tags : พรีเมียร์ลีก,ฟุตบอล,ข่าวฟุตบอล
27  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / กีฬาฟุคบอลเป็นอย่างไร ทำไมคนทั่วโลก และคนไทยถึงถูกใจบอล เมื่อ: มกราคม 04, 2019, 07:31:50 pm
ฟุตบอลเป็นยังไง ใครๆก็รู้จักกีฬาประเภทนี้ เป็นกีฬาที่จะต้องร่วมเล่นกันเป็นหมู่คณะ รู้จักความปรองดองรวมพลังกันเพือความมีชัย ทำให้เป็นกีฬาที่คนทั้งโลกติดอกติดใจ แล้วก็นิยมเล่นกันสูงที่สุด จำเป็นต้องใช้ความสามารถความสามารถส่วนตัวสูง

ธุรกิจกีฬาฟุตบอลเป็นเยี่ยงไร
นาย เบนจามิน ตัน รองประธานข้าราชการบริหารข้างควบคุมการประลอง บริษัท ไทยลีก จำกัด และผู้อำนวยการคลับ ไลเซนซิง ชมรมกีฬาบอลที่ประเทศไทยฯ จะมาอธิบายถึงจุดสำคัญบริหารการเงินสโมสรอย่างไรให้ยืนนานเมื่อเร็วๆนี้ ทางสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ประกาศปรับรวมทั้งตัดแต้ม 6 สมาพันธ์ เนื่องจากค้างค่าตอบแทนนักเตะ พร้อมกับขีดเส้นใต้ให้จ่ายเงินค้างชำระภายในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่ง 6 ชมรมที่ว่า ดังเช่น อัล อราบี สปอร์ตส์ คลับ และ อัล คาไรติยัต 2 สมาคมของกาตาร์, ซามาเล็ค สปอร์ติ้ง คลับ ของอียิปต์, อัล จาซีร่า เอสซี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เมอร์สิน เหนื่อยมาน ยูรดู สปอร์ คูลูบู ของประเทศตุรกี รวมทั้ง เอฟซี คูบาน ของรัสเซีย ในเมื่อตอนนี้ฟุตบอลคือธุรกิจ และก็สมาพันธ์ก็เสมือนเป็นบริษัทๆหนึ่ง จึงมีอีกทั้งกำไร แล้วก็ขาดทุน โดยเหตุนี้มันเป็นโจทย์สำคัญสำหรับทุกสมาพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นไทแก่ตัวยหรือต่างชาติ สำหรับเพื่อการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน นี่ก็เลยเป็นสิ่งที่สมาพันธ์บอลเอเชีย(เอเอฟซี) ได้สอดแทรกเข้าไปเป็นข้อตกลงของการดำเนินกิจการสมาคมฟุตบอลอาชีพ ว่าจำเป็นจะต้องผ่านการตรวจสอบทางด้านการเงินทุกปี เพื่อทำให้มั่นใจว่า ทุกครั้งมมีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรงพอที่จะเข้าร่วมชิงชัย การคลังแข็งแรง = สมาพันธ์แข็งแรง รากฐานสำหรับในการเงิน ถือเป็นปัจจัยหลักในการต่อยอดด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ สาธารณูปโภค, การพัฒนาเยาวชน, ค่าใช้สอยของนักกีฬาและก็เจ้าหน้าที่ อื่นๆอีกมากมายพูดได้ว่าเป็นจุดเริ่มแรกของทั้งหมดทุกอย่าง ซึ่ง นาย เบนจามิน ตัน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายควบคุมการแข่งขันชิงชัย บริษัท ไทยลีก จำกัด รวมทั้งผู้อำนวยการคลับ ไลเซนสิง สัมพันธ์กีฬาบอลที่เมืองไทยฯ จะขอมาชี้แจงถึงความสำคัญดังที่กล่าวถึงมาแล้ว นอกนั้น ยังได้บอกเล่าถึงหน้าที่ของไทยลีกในการขับเคลื่อนให้สมาพันธ์ต่างๆเห็นจุดสำคัญของการใช้เงินและก็แนวทางการหาเงิน นอกจากเงินอุดหนุนที่ไทยลีกมอบให้ เนื่องจากการที่ทุกทีมสามารถหาเงินได้เองนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ยั่งยืนกว่า “หลังจากที่เราได้จัดการประชุมร่วมกับสโมสรในไทยลีก รวมถึงการทำเวิร์คช็อปทางการเงินกับพวกเขา มันเป็นเรื่องสำคัญมากมาย เพราะผมมีความคิดว่ามันเป็นจุดที่ฟุตบอลไทยจำเป็นต้องพัฒนา” เบนจามิน ตัน กล่าว “ก่อนหน้านี้ เราได้รับจดหมายแล้วก็เคสจากฟีฟ่ากับเอเอฟซีหลายฉบับ แม้กระทั้งเอเย่นต์และก็ตัวนักฟุตบอลเอง ด้วยเหตุนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากที่จะจำเป็นต้องไขปัญหาดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว” “ในไทยลีก เมื่อเราเทียบจากปี 2015 แล้วก็ 2016 ค่าครองชีพของสโมสรมากยิ่งกว่า 50 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ค่าจ้างรายเดือนของนักกีฬารวมทั้งคนฝึก เช่นเดียวกับค่าตัวและก็ค่าเสียหาย นี่ชี้ให้เห็นว่าสมาคมในไทยใช้จ่ายมากจนเกินไปกับค่าทำขวัญของนักเตะและผู้ฝึกสอนที่ไม่มีความสำคัญ” “ในประเทศไทย พวกเรารู้ดีว่าหลายทีมอุตสาหะเลี่ยงการจ่ายและชำระหนี้ ด้วยการใช้สโมสรผู้แทน ดังเช่นว่าสมาพันธ์ เอ มีหนี้สินและขายสโมสรให้กับผู้ครอบครองใหม่ แล้วก็มีการเปลี่ยนชื่อเป็นสมาคม บี และไม่ใช้หนี้ใช้สิน ซึ่งโน่นไม่ใช่เรื่องถูก เนื่องจากว่าเจ้าของใหม่ก็ควรจะรับผิดชอบในส่วนของภาระค้างจ่ายและก็หนี้ด้วยเหมือนกัน” ตัวอย่างจากเจลีก เชื่อไหมว่า กว่าที่เจลีกจะแข็งแรงรวมทั้งมั่นคง เป็นลีกแถวหน้าของเอเชียได้อย่างทุกๆวันนี้ พวกเขาก็เคยผ่านกระแสที่นิยมย่ำแย่เหมือนกันโดยภายหลังที่เริ่มก่อตั้งเจลีกได้เพียงแต่ 3 ปี ค่าถัวเฉลี่ยผู้ชมก็เริ่มต่ำลงถึงแทบครึ่งในระยะอันเร็ว ทำให้มีการเกิดการกระตุ้นให้สมาพันธ์ได้การโปรโมโคนปิ้งหนักทั้งยังในส่วนที่เกี่ยวโยงกับฟุตบอล และไม่เกี่ยวโยงกับฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นการเชิญให้คนมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี, จัดงานกิจกรรมการกุศล, เลือกสรรสปอนเซอร์เขตแดน, ผูกมิตรที่ดีกับแฟนบอลท้องถิ่นในระดับรากหญ้า ให้มีการยึดโยงกับเมืองหรือจังหวัด มากกว่าที่จะพึ่งจากสปอนเซอร์เจ้าใหญ่เพียงแต่เจ้าเดียวราวกับอย่างเช่นครั้งก่อน เบนจามิน ตัน พูดว่า “แน่ๆว่ามีบางสมาคมที่ปฏิบัติการภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ตัวชมรมเองก็ดำเนินงานอย่างหนักสำหรับการหาผู้ช่วยเหลือรายอื่นๆด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยเหลือเจ้าใหญ่เจ้าเดียว พวกเขาตื่นตัวเป็นอย่างมากสำหรับการสร้างความสัมพันธ์กับธุรกิจห้างร้านเล็กๆรวมถึงแฟนบอลในชุมชนรวมทั้งจังหวัด” “ชมรมมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่มากมายรวมทั้งเหมาะสมกับสปอนเซอร์ของพวกเขาไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ จนสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนบนเจลีกโมเดล” “ในเจลีกนั้น พวกเขามีสถานะการคลังที่แข็งแรงตามเกณฑ์ของคลับ ไลเซนสิง ซึ่งคุณจะเห็นได้ตลอด 4-5 ปีให้หลัง นอกเหนือจากนั้นเจลีกยังตั้งกฎที่ต้องปฏิบัติไว้ว่าแต่ว่าละชมรมจำเป็นต้องขาดทุนไม่เกิน 3 ปีต่อเนื่องกัน ไม่เช่นนั้นจะมิได้เอกสารสิทธิ์” “ซึ่งในปี 2015 ไม่มีชมรมไหนในญี่ปุ่นที่ขาดทุนสุทธิในรอบปีเลย ซึ่งก็ถือได้ว่าเกือบทุกสมาคมมีสถานะทางการเงินที่เป็นบวก และก็โน่นเป็นสิ่งที่สโมสรในเจลีกปรับปรุงขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้” “ผมรู้สึกว่าชมรมในไทยลีกสามารถเริ่มหาวิธีสำหรับการสร้างความผูกพันธ์กับสปอนเซอร์ได้ด้วยเหมือนกัน เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้ นอกเหนือจากผู้ช่วยเหลือหลัก, เงินจากผู้ครอบครอง รวมทั้งจากภาครัฐ” “ดังนั้นเป้าประสงค์ของเรา สิ่งแรกก็คือการให้แต่ละทีมมีเสถียรภาพทางการเงินเพื่อสามารถอยู่รอดได้อย่างยั่งยืนในลีก อย่างลำดับที่สองก็คือ ให้ชมรมเริ่มคิดถึงการเพิ่มรายได้ผ่านผู้ช่วยเหลือหรือปริมาณผู้ชม เพื่อที่ว่าพวกเขาจะสามารถรับรองตัวเลขที่เป็นบวกแก่เอเอฟซี” การลงทุนอย่างยั่งยืน จากการที่ โตโยต้าไทยลีก สามารถส่งนักเตะอาเซียนลงในสนามได้มากขึ้นในฤดูกาล 2019 ก็มั่นใจว่าจะก่อให้ลีกสูงสุดของไทย ได้รับความพึงพอใจจากฝรั่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ราวกับอย่างที่ อ่อง ธู ฟีเวอร์ เกิดขึ้นกับโปลิศ เทโร ในช่วงฤดูกาลนี้เวลาที่ อิซวาน มะห์บุด มือกาวชาวประเทศสิงคโปร์ ก็ได้พา หนองบัว พิชญ เจาะตลาดแดนลอดช่อง ด้วยการไปเตะนัดหมายกระชับมิตรกับ เฮากัง ยูไนเต็ด ในช่วงเบรคเลกแรก โดยความนิยมจากต่างแดนที่เกิดขึ้น ก็เหมือนกับการที่เจลีกจับตัวได้ ชนาธิป สรโลภระสินธ์, ธีรศิลป แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน รวมทั้งสตาร์ดังอย่าง อันเดรส อิเนียสต้า แล้วก็ เฟร์นานโด โคนร์เรส ไปร่วมทีม แต่กว่าที่สมาคมในญี่ปุ่นจะคว้าดาวดังของแต่ละประเทศมาเสริมทัพ แม้ว่าจะเป็นชาติพันธมิตรของเจลีกซึ่งสามารถเซ็นได้ไม่จำกัดโควต้า อย่าง ไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ภรรยานมา, สิงคโปร์, มาเลเซีย, เขมร, กาตาร์ หรือแม้กระทั้งประเทศอิหร่านเอง พวกเขาก็จะต้องทำศึกษาค้นคว้า (research) ทั้งยังในสนามและนอกสนาม ว่าแต่ละคนจะสามารถสร้างแรงกระเพื่อม (impact) ได้อย่างไร ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ การที่นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมซัปโปโร, ฮิโรชิม่าและโกเบเพิ่มขึ้น เหมือนกับจังหวัดซากะอันเป็นที่ตั้งของสมาคม ซากัน โตสุ สังกัดเดิมใหม่ของตอร์เรส ที่อยู่ระหว่างฟุกุโอกะกับนางาซากิ ก็ได้รับความสนใจมากยิ่งกว่าเดิมด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สามารถบริหารค่าแรงงานของนักเตะให้มีความสมดุล ระหว่างลำแข้งต่างชาติกับแคว้น ไม่ให้ค่าใช้สอยเฟ้อจนเกินไปนัก โดยย้ำไปที่การปั้นเด็กจากอะคาเดมีให้มีคุณภาพ แล้วก็ยิ่งเป็นเรื่องดีเข้าไปอีกแม้เยาวชนจากแถวจังหวัดใกล้เคียงถูกดันขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่ เนื่องจากโน่นสามารถทำให้สมาพันธ์ยึดโยงกับชุมชนได้อีกทางหนึ่ง “ผมมีความคิดว่ามันเป็นการดีที่ไทยลีกเซ็นสัญญากับนักเตะฝรั่งฝีเท้าดี แต่ว่าก็จำเป็นต้องพึงจะรำลึกไว้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เอเอฟซีได้เน้นย้ำจุดสำคัญอย่างใหญ่โต โดยเหตุนั้นหลายชมรมจึงต้องระวัง ไม่ให้ใช้จ่ายเกินกำลัง” “มันไม่ใช่เรื่องฉลาดสำหรับสมาพันธ์ในการใช้เงินกับค่าเหนื่อยและค่าตอบแทนนักฟุตบอลเยอะเกินไป ซึ่งอย่างหลังส่งผลเสียต่อสถานะทางด้านการเงิน แน่ๆว่าพวกเราจำเป็นต้องมีส่วนผสมของนักฟุตบอลต่างประเทศ แต่ว่าผมรู้สึกว่าส่วนหนึ่งของการลงทุนก็ควรจะไปอยู่ที่การพัฒนาเยาวชนและก็ระบบแมวมองด้วยด้วยเหมือนกัน” “ถ้าเราดูตัวอย่างจากเยอรมนี, ประเทศญี่ปุ่น หรือแม้กระทั้งประเทศสเปน ก็จะมีความเห็นว่าพวกเขาได้ลงทุนไปกับนักเตะท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอะคาเดมี ฉะนั้นผมมีความรู้สึกว่ามันเป็นอีกโอกาสหนึ่งสำหรับสมาคมสำหรับเพื่อการพึ่งผลิตผลจากเขตแดน” “ผมรู้สึกว่าเยอรมนีเป็นแบบอย่างที่ดีมากมาย พวกเขาเป็นชั้น 1 บนแรงกิ้งฟีฟ่า แม้กระนั้นยังลงทุนกับการพัฒนาเยาวชนในตอนทศวรรษก่อนหน้านี้” “พวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการลงทุนกับเยาวชน พร้อมกันไปกับการให้การเรียนรู้แก่คนฝึกและก็ทางด้านเทคนิค นั่นทำให้พวกเขาสามารถผลิตนักฟุตบอลสุดยอดขึ้นมาได้คนไม่ใช่น้อย” “ผมหวังว่าสมาพันธ์จะได้ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการทางการเงินอย่างเหมาะสม ซึ่งทางสัมพันธ์ฯ และไทยลีกได้ทำงานอย่างมากสำหรับในการให้ความให้การช่วยเหลือแล้วก็หาวิธีจัดแจงทางการเงิน เพื่อให้สมาพันธ์ถูกปรับปรุงไปอย่างยั่งยืน”
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ข่าวฟุตบอล

เครดิต : [url]https://trickballteng.blogspot.com/[/url]

Tags : ข่าวฟุตบอล,บอล,ฟุตบอล
28  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / กีฬาฟุคบอลเป็นอย่างไร ทำไมคนทั้งโลก แล้วก็คนประเทศไทยถึงชอบฟุตบอล เมื่อ: มกราคม 04, 2019, 07:22:17 pm
ฟุตบอลเป็นยังไง ใครๆก็รู้จักกีฬาจำพวกนี้ เป็นกีฬาที่จะต้องร่วมเล่นกันเป็นหมู่คณะ รู้จักความกลมเกลียวรวมพลังกันเพือชัยชนะ ทำให้เป็นกีฬาที่คนทั่วโลกชอบพอ แล้วก็นิยมเล่นกันเยอะที่สุด จำเป็นต้องใช้ทักษะความสามารถเฉพาะตัวสูง

ธุรกิจกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างไร
มร. เบนจามิน ตัน รองประธานข้าราชการบริหารฝ่ายควบคุมการแข่งขันชิงชัย บริษัท ไทยลีก จำกัด และผู้อำนวยการคลับ ไลเซนซิง ชมรมกีฬาฟุตบอลที่เมืองไทยฯ จะมาอธิบายถึงจุดสำคัญบริหารการคลังชมรมยังไงให้ยืนยงเมื่อเร็วๆนี้ ทางสมาพันธ์บอลนานาประเทศ (ฟีฟ่า) ได้ประกาศปรับแล้วก็ตัดแต้ม 6 สมาพันธ์ เนื่องจากว่าค้างค่าเหนื่อยนักฟุตบอล พร้อมทั้งขีดเส้นใต้ให้จ่ายเงินติดหนี้ภายในระยะเวลาที่ระบุ ซึ่ง 6 สโมสรที่ว่า อาทิเช่น อัล อราบี สปอร์ตส์ คลับ และ อัล คาไรว่ากล่าวยัต 2 สโมสรของกาตาร์, ซามาเล็ค สปอร์ติ้ง คลับ ของอียิปต์, อัล จาซีร่า เอสซี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เมอร์ซิน อิดมาน ยูรดู สปอร์ คูลูบู ของประเทศตุรกี และก็ เอฟซี คูบาน ของรัสเซีย ในเมื่อปัจจุบันฟุตบอลเป็นธุรกิจ รวมทั้งสมาคมก็ราวกับเป็นบริษัทๆหนึ่ง ก็เลยมีอีกทั้งกำไร รวมทั้งขาดทุน ด้วยเหตุผลดังกล่าวมันคือปัญหาสำคัญสำหรับทุกสโมสร ไม่ว่าจะมีอิสรภาพยหรือเมืองนอก สำหรับเพื่อการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน นี่ก็เลยเป็นสิ่งที่สหพันธ์ฟุตบอลทวีปเอเชีย(เอเอฟซี) ได้สอดแทรกเข้าไปเป็นข้อจำกัดของการดำเนินกิจการสมาพันธ์บอลอาชีพ ว่าจำเป็นจะต้องผ่านการตรวจสอบด้านการเงินทุกปี เพื่อทำให้แน่ใจว่า ทุกทีมมีสุขภาพด้านการเงินที่แข็งแรงพอที่จะเข้าร่วมชิงชัย การคลังแข็งแรง = สมาพันธ์แข็งแรง รากฐานสำหรับในการเงิน นับว่าเป็นปัจจัยหลักในการต่อยอดด้านต่างๆไม่ว่าจะคือเรื่องของ สาธารณูปโภค, การพัฒนาเยาวชน, ค่าใช้จ่ายของนักกีฬาและก็ข้าราชการ ฯลฯพูดได้ว่าเป็นจุดเริ่มของทุกสิ่ง ซึ่ง นาย เบนจามิน ตัน รองประธานข้าราชการบริหารฝ่ายควบคุมการประลอง บริษัท ไทยลีก จำกัด และผู้อำนวยการคลับ ไลเซนสิง สัมพันธ์กีฬาบอลแห่งเมืองไทยฯ จะขอมาชี้แจงถึงความสำคัญดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว นอกนั้น ยังได้บอกเล่าถึงบทบาทของไทยลีกในการเคลื่อนให้สมาคมต่างๆเห็นจุดสำคัญของการใช้เงินและก็แนวทางการหาเงิน นอกเหนือจากเงินช่วยเหลือที่ไทยลีกมอบให้ เพราะเหตุว่าการที่ทุกครั้งมสามารถหาเงินได้เองนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ยืนยงกว่า “ภายหลังที่เราได้จัดแจงสัมมนาร่วมกับสโมสรในไทยลีก รวมถึงการทำเวิร์คช็อปทางการเงินกับพวกเขา มันเป็นเรื่องจำเป็นมากมาย เนื่องจากผมมีความรู้สึกว่ามันเป็นจุดที่บอลไทยจำเป็นต้องพัฒนา” เบนจามิน ตัน กล่าว “ก่อนหน้าที่ผ่านมา เราได้รับจดหมายแล้วก็เคสจากสมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติกับเอเอฟซีหลายฉบับ แม้กระทั้งเอเย่นต์รวมทั้งตัวนักฟุตบอลเอง เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะจำต้องแก้ไขปัญหาดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว” “ในไทยลีก เมื่อเราเทียบจากปี 2015 รวมทั้ง 2016 ค่าครองชีพของสมาพันธ์มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ค่าจ้างรายเดือนของนักกีฬาแล้วก็ครูฝึก เหมือนกับค่าตัวและค่าเสียหาย นี่ทำให้เห็นว่าชมรมในไทยใช้จ่ายมากจนเกินความจำเป็นกับค่าทำขวัญของนักเตะแล้วก็โค้ชที่ไม่สำคัญ” “ในประเทศไทย พวกเรารู้ว่าหลายทีมเพียรพยายามเลี่ยงการจ่ายหนี้ ด้วยการใช้สโมสรผู้แทน ดังเช่นสมาคม เอ มีหนี้รวมทั้งขายชมรมให้กับเจ้าของใหม่ ต่อจากนั้นก็มีการแปลงชื่อเป็นชมรม บี และไม่ใช้หนี้ใช้สิน ซึ่งโน่นไม่ใช่เรื่องถูก เนื่องจากว่าเจ้าของใหม่ก็ควรจะรับผิดชอบในส่วนของภาระหน้าที่ค้างจ่ายรวมทั้งหนี้ด้วยเช่นเดียวกัน” แบบอย่างจากเจลีก เชื่อหรือไม่ว่า กว่าที่เจลีกจะแข็งแรงรวมทั้งมั่นคง เป็นลีกแถวหน้าของเอเชียได้อย่างเดี๋ยวนี้ พวกเขาก็เคยผ่านกระแสที่นิยมตกอับเหมือนกันโดยภายหลังที่เริ่มริเริ่มตั้งขึ้นเจลีกได้เพียง 3 ปี ค่าเฉลี่ยคนดูก็เริ่มลดลงถึงเกือบจะครึ่งในระยะอันรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นให้สโมสรได้เรื่องโปรโมโคนปิ้งหนักทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล และไม่เกี่ยวกับฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นการเชิญให้คนมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ, จัดกิจกรรมการกุศล, คัดเลือกสปอนเซอร์ท้องถิ่น, สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนบอลแคว้นในระดับรากหญ้า ให้เกิดการยึดโยงกับเมืองหรือจังหวัด มากกว่าที่จะพึ่งจากผู้ช่วยเหลือเจ้าใหญ่เพียงเจ้าเดียวเสมือนอาทิเช่นก่อนหน้า เบนจามิน ตัน บอกว่า “แน่ๆว่ามีบางสโมสรที่ดำเนินการภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ตัวสมาคมเองก็ปฏิบัติงานอย่างหนักในการหาผู้สนับสนุนรายอื่นๆด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่ผู้สนับสนุนเจ้าใหญ่เจ้าเดียว พวกเขาตื่นตัวอย่างยิ่งสำหรับเพื่อการสร้างความสัมพันธ์กับกิจการค้าร้านค้าเล็กๆรวมถึงแฟนบอลในชุมชนรวมทั้งจังหวัด” “สมาคมมีกลยุทธ์ทางการขายที่นานัปการและเหมาะสมกับผู้ช่วยเหลือของพวกเขาไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ จนกระทั่งสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนบนเจลีกโมเดล” “ในเจลีกนั้น พวกเขามีสถานะการเงินที่แข็งแรงตามเกณฑ์ของคลับ ไลเซนสิง ซึ่งคุณจะมองเห็นได้ตลอด 4-5 ปีที่ล่วงเลยไป นอกจากนั้นเจลีกยังตั้งกฎที่ต้องปฏิบัติไว้ว่าแต่ว่าละชมรมควรต้องขาดทุนไม่เกิน 3 ปีต่อเนื่องกัน มิเช่นนั้นจะไม่ได้เอกสารสิทธิ์” “ซึ่งในปี 2015 ไม่มีสมาคมไหนในญี่ปุ่นที่ขาดทุนสุทธิในรอบปีเลย ซึ่งพูดได้ว่าเกือบทุกชมรมมีสถานะทางด้านการเงินที่เป็นบวก รวมทั้งโน่นคือสิ่งที่ชมรมในเจลีกพัฒนาขึ้นตลอดหลายปีล่วงมาแล้ว” “ผมคิดว่าชมรมในไทยลีกสามารถเริ่มหาวิธีสำหรับการสร้างความผูกพันธ์กับผู้ช่วยเหลือได้เช่นกัน เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้ นอกเหนือจากสปอนเซอร์หลัก, เงินจากเจ้าของ และก็จากภาครัฐ” “โดยเหตุนี้วัตถุประสงค์ของพวกเรา สิ่งแรกก็คือการให้แต่ละกลุ่มมีเสถียรภาพด้านการเงินเพื่อสามารถอยู่รอดได้อย่างยั่งยืนในลีก อย่างลำดับที่สองก็คือ ให้ชมรมเริ่มนึกถึงการเพิ่มรายได้ผ่านสปอนเซอร์หรือจำนวนผู้ชม เพื่อที่ว่าพวกเขาจะสามารถยืนยันจำนวนที่เป็นบวกแก่เอเอฟซี” การลงทุนอย่างยั่งยืน จากการที่ โตโยต้าไทยลีก สามารถส่งนักเตะอาเซียนลงในสนามได้มากขึ้นในช่วงฤดูกาล 2019 ก็เชื่อว่าจะก่อให้ลีกสูงสุดของไทย ได้รับความพอใจจากฝรั่งมากเพิ่มขึ้น เหมือนอย่างที่ อ่อง ธู ฟีเวอร์ เกิดขึ้นกับโปลิศ เทโร ในช่วงฤดูกาลนี้ในขณะที่ อิซวาน มะห์บุด มือกาวชาวประเทศสิงคโปร์ ก็ได้พา หนองบัว พิชญ เจาะตลาดแดนลอดช่อง ด้วยการไปเตะนัดกระชับมิตรกับ เฮากัง ยูไนเต็ด ในตอนเบรคเลกแรก โดยกระแสความนิยมจากต่างแดนที่เกิดขึ้น ก็เช่นเดียวกับการที่เจลีกได้ตัว ชนาธิป สรโลภระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา แล้วก็ ธีราทร บุญมาทัน รวมถึงสตาร์ดังอย่าง อันเดรส อิเนียสต้า และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ไปร่วมทีม แต่กว่าที่สมาพันธ์ในญี่ปุ่นจะคว้าดาวดังของแต่ละประเทศมาเสริมทัพ แม้ว่าจะเป็นประเทศพันธมิตรของเจลีกที่สามารถเซ็นได้ไม่จำกัดโควต้า อย่าง ไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, เมียนมา, สิงคโปร์, มาเลเซีย, กัมพูชา, กาตาร์ หรือแม้แต่อิหร่านเอง พวกเขาก็ต้องทำศึกษาค้นคว้า (research) ทั้งยังในสนามและก็นอกสนาม ว่าแต่ว่าละคนจะสามารถสร้างแรงกระเพื่อม (impact) ได้อย่างไร ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ การที่นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมซัปโปโร, ฮิโรชิม่าและโกเบมากขึ้น เหมือนกับจังหวัดซากะอันเป็นที่ตั้งของชมรม ซากัน โตสุ สังกัดเดิมใหม่ของโคนร์เรส ที่อยู่ระหว่างฟุกุโอกะกับนางาซากิ ก็ได้รับความพอใจมากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน แต่ พวกเขาก็สามารถบริหารค่าจ้างของนักฟุตบอลให้มีความสมดุล ระหว่างแข้งต่างชาติกับแคว้น ไม่ให้ค่าครองชีพเฟ้อจนเกินความจำเป็นนัก โดยเน้นย้ำไปที่การปั้นเด็กจากอะคาเดมีให้มีคุณภาพ รวมทั้งยิ่งเป็นการดีเข้าไปอีกแม้เยาวชนจากละแวกจังหวัดใกล้เคียงถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เนื่องจากว่าโน่นสามารถทำให้ชมรมยึดโยงกับชุมชนได้อีกทางหนึ่ง “ผมรู้สึกว่ามันเป็นการดีที่ไทยลีกเซ็นสัญญากับนักเตะต่างประเทศฝีเท้าดี แต่ก็ต้องพึงจะรำลึกไว้ด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เอเอฟซีได้เน้นย้ำจุดสำคัญเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุดังกล่าวหลายสมาคมก็เลยต้องระมัดระวัง ไม่ให้ใช้จ่ายเกินความสามารถ” “มันไม่ใช่เรื่องเฉลี่ยวฉลาดสำหรับสมาพันธ์สำหรับเพื่อการใช้เงินกับค่าตอบแทนรวมทั้งค่าจ้างนักฟุตบอลมากเกินไป ซึ่งอย่างหลังส่งผลกระทบต่อสถานะด้านการเงิน แน่นอนว่าเราจำเป็นที่จะต้องมีส่วนผสมของนักฟุตบอลฝรั่ง แม้กระนั้นผมมีความคิดว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของการลงทุนก็ควรจะไปอยู่ที่การพัฒนาเยาวชนและก็ระบบแมวมองด้วยด้วยเหมือนกัน” “หากพวกเราดูตัวอย่างจากเยอรมนี, ประเทศญี่ปุ่น หรือแม้กระทั้งประเทศสเปน ก็จะมีความเห็นว่าพวกเขาได้ลงทุนไปกับนักฟุตบอลแคว้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอะคาเดมี ดังนั้นผมคิดว่ามันเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับสโมสรสำหรับเพื่อการพึ่งผลิตภัณฑ์จากแคว้น” “ผมมีความคิดว่าเยอรมนีเป็นตัวอย่างที่ดีมาก พวกเขาเป็นอันดับ 1 บนแรงกิ้งฟีฟ่า แต่ยังลงทุนกับการพัฒนาเยาวชนในช่วงทศวรรษก่อนหน้าที่ผ่านมา” “พวกเขาได้พิสูจน์ให้มองเห็นถึงการลงทุนกับเยาวชน ควบคู่ไปกับการให้การเรียนรู้แก่ผู้ฝึกสอนและทางเทคนิค โน่นทำให้พวกเขาสามารถผลิตนักเตะระดับนานาชาติขึ้นมาได้ผู้คนจำนวนมาก” “ผมหวังว่าสมาคมจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการทางด้านการเงินอย่างเหมาะสม ซึ่งทางสมาคมฯ รวมทั้งไทยลีกได้ปฏิบัติงานอย่างหนักสำหรับเพื่อการให้การช่วยเหลือและหาวิธีจัดแจงเรื่องการเงิน เพื่อสมาคมถูกพัฒนาไปอย่างยั่งยืน”

เครดิต : [url]https://trickballteng.blogspot.com/[/url]

Tags : ข่าวฟุตบอล,ทีเด็ดบอลเต็ง
หน้า: 1 [2]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย