กระทู้ล่าสุดของ: าร

[/b]
[url=http://www.disthai.com/16488281/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1]ทับทิม[/url]
ทับทิม เป็นผลไม้ที่นิยมกินอย่างล้นหลาม โดยใช้ประโยชน์จากส่วนที่ได้ผลสดมากที่สุดและยังนำไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆยกตัวอย่างเช่น น้ำทับทิม สารสกัดจากทับทิม สินค้าด้านความสวยงาม ทั้งยังคงใช้ทำเป็นยารักษาโรคตามสูตรยาโบราณในหลายประเทศ
ทัมทิมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและก็สารพฤกษเคมีหลายอย่างที่มีคุณประโยชน์ต่อสภาพทางร่างกาย ก็เลยมั่นใจว่าบางทีอาจเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อการปกป้องโรคหรือทุเลาอาการ ตัวอย่างเช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังหรือทุเลาอาการหายใจไม่สะดวกจากโรคนี้ โรคหัวใจแล้วก็เส้นโลหิต คอเลสเตอรอลสูง โรคในระบบทางเดินอาหาร โรคความดันเลือดสูง โรคในโพรงปากและโรคเหงือก โรคริดสีดวงทวาร โรคผิวหนัง และก็อื่นๆ
ในขณะนี้ยังมีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่เรียนรู้การใช้ทับทิมในรูปแบบแตกต่างกับการดูแลและรักษาโรคที่ค่อนข้างจะจำกัด ทำให้ยังไม่สามารถที่จะเจาะจงคุณภาพของทับทิมต่อการดูแลรักษาโรคได้ชัดเจน ซึ่งตัวอย่างการศึกษาเรื่องทับทิมกับโรคต่างๆมีดังนี้
โรคเส้นโลหิตแดงแข็ง ทับทิมคือผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายตัว ดังเช่น สารเอลลาจิแทนนิน (Ellagitannin) สารแทนนิน (Tannin) สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) สารโพลิฟีนอล (Polyphenol) ที่มั่นใจว่าช่วยยับยั้งปฏิกิริยาต่อต้านอนุมูลอิสระของไขมันไม่ดี ลดการสร้างโฟมเซลล์ แล้วก็ลดการแข็งตัวของเส้นโลหิต จึงบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงสำหรับในการกำเนิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง
จากการเล่าเรียนฤทธิ์การต้านสารอนุมูลอิสระของทับทิมในคนที่มีน้ำหนักเกินปริมาณ 22 คน จากการทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดทับทิม วันละ 1,000 มก. (มีกรดเอ็งลลิค 610 มิลลิกรัม) และวัดผลจากค่า TBARS ในเลือด (Thiobarbituric Acid Reactive Substances: TBARS) ซึ่งเป็นค่าการวัดฤทธิ์สำหรับเพื่อการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เพื่อเปรียบเทียบกับผลก่อนจะมีการทดสอบ พบว่าค่าดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วน้อยลง จึงคาดว่าการรับประทานทับทิมบางทีอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเส้นโลหิต
นอกเหนือจากนั้น ยังมีการค้นคว้าอีกชิ้นให้คนเจ็บโรคหลอดเลือดแดงแข็งปริมาณ 15 คน กินอาหารเสริมจากทับทิมเป็นระยะเวลามากยิ่งกว่า 1 ปีขึ้นไปรวมทั้ง 3 ปีขึ้นไป เปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่มิได้กินอาหารเสริม ผลปรากฏว่า กรุ๊ปที่กินอาหาร 3 ปีขึ้นไป หรูหราไขมันที่น้อยลงราวๆ 16% เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปอื่น จึงชี้ให้เห็นว่าการกินสารสกัดจากทัมทิมมากยิ่งกว่า 3 ปี อาจมีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดแดงแข็ง ดังนี้ ยังคงควรจะมีการศึกษาเสริมเติมในระยะยาวกับกลุ่มการทดลองขนาดใหญ่มากเพิ่มขึ้น ทำให้ยังไม่สามารถที่จะสรุปผลของทับทิมรวมทั้งการดูแลรักษาโรคเส้นโลหิตแดงแข็งได้อย่างชัดเจน
โรคเหงือกอักเสบ ทับทิมคือผลไม้อีกจำพวกที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย จึงถูกประยุกต์ใช้เป็นตัวเลือกสำหรับเพื่อการรักษาโรคเหงือก เนื่องจากการดูแลรักษาหลักบางแนวทางที่ยังไม่มีประสิทธิภาพพอเพียงสำหรับในการทุเลาอาการจากโรคมากเท่าที่ควรและก็ลดความเสี่ยงด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจากการรักษาโรคนี้โดยใช้สารเคมี
จากการทดสอบทางคลินิกกับคนเจ็บโรคเหงือกอักเสบเรื้อรัง จำนวน 40 คน เพื่อมองสมรรถนะของเจลสารสกัดจากทับทิมเป็นระยะเวลา 21 วัน โดยในแต่ละกรุ๊ปจะใช้วิธีรักษาที่แตกต่างกัน ผลพบว่า กรุ๊ปที่ใช้เจลสารสกัดจากทับทิมพร้อมกันกับการดูแลและรักษาโรคเหงือกอักเสบโดยกระบวนการขูดหินน้ำลาย เกลารากฟัน (Mechanical Debridement) มีอาการภายใน 7 วันแรก เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่เหลือสำหรับเพื่อการทดลอง ซึ่งเจลสารสกัดจากทับทิมก็เลยบางทีอาจนำไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสำหรับผู้เจ็บป่วยโรคเหงือกอักเสบควบคู่กับการดูแลรักษาด้วยวิธีรักษาที่เป็นมาตรฐานในอนาคต
สอดคล้องกับการทดลองอีกชิ้นที่เรียนสมรรถนะของน้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากทับทิมเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอกต้นแบบเจลสำหรับในการรักษาคนที่เป็นโรคเหงือกอักเสบปริมาณ 32 คน พบว่าการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากทับทิม วันละ 3 ครั้ง ตรงเวลา 4 อาทิตย์ มีสุขภาพช่องปากดีขึ้นและก็ปัญหาโรคเหงือกอักเสบลดลงมากยิ่งกว่ากลุ่มที่ใช้ยาหลอก งานวิจัยชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากทับทิมอาจเอาไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลโพรงปาก ยกตัวอย่างเช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เพื่อช่วยคุ้มครองและก็ทุเลาลักษณะโรคเหงือกอักเสบ
ปกป้องการเกิดคราบเปื้อนจุลชีพ สารสกัดจากทับทิมมีประสิทธิภาพในการลดรอยเปื้อนจุลชีพตามผิวฟัน แล้วก็อาจก่อให้เกิดโรคทางช่องปากอีกหลายแบบ ซึ่งจากการทดสอบให้อาสาสมัครที่มีสุขอนามัยในโพรงปากดี ปริมาณ 30 คน หยุดใช้น้ำยาบ้วนปากที่เคยใช้ปกติ แต่สลับมาใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากทับทิม น้ำยาบ้วนปากคลอเฮกซิดีน (Chlorhexidine) รวมทั้งยาหลอกในแต่ละกรุ๊ป โดยใช้บ้วนปาก วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 5 วัน ผลพบว่าอาสาสมัครที่ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากทับทิมมีอัตราการเกิดคราบจุลชีพต่ำลงอย่างเป็นจริงเป็นจังมากยิ่งกว่ายาหลอก แม้กระนั้นมีคุณภาพไม่ได้ต่างอะไรจากน้ำยาบ้วนปากคลอเฮกสิดีน ก็เลยเพียงพอจะบอกได้ว่าสารสกัดจากทับทิมอาจลดจังหวะสำหรับการกำเนิดรอยเปื้อนจุลอินทรีย์ด้านในช่องปาก
เวลาเดียวกัน การศึกษาเล่าเรียนอีกชิ้นก็ชี้ว่าสารสกัดทับทิมน่าจะมีส่วนช่วยสำหรับการลดการเกิดรอยเปื้อนจุลชีพ ซึ่งสำหรับในการทดสอบได้เก็บคราบจุลชีวันจากโพรงปากของอาสาสมัครที่มีร่างกายแข็งแรงแล้วก็กำลังจัดฟัน อายุ 9-25 ปี ปริมาณ 60 คน ข้างหลังงดแปรงฟันเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อเปรียบผลก่อนรวมทั้งหลังการใช้น้ำยาบ้วนปากประเภทไม่เหมือนกันในแต่ละกลุ่ม เช่น น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดทับทิม น้ำยาบ้วนปากคลอเฮกสิดีน แล้วก็ยาหลอก ปรากฏพบว่า น้ำยาบ้วนปากจากสารสกัดทับทิมมีคุณภาพสำหรับเพื่อการลดรอยเปื้อนจุลชีวันลงมากที่สุดประมาณ 84% รองลงมาเป็นน้ำยาบ้วนปากคลอเฮกซิดีน 79% และยาหลอกที่น้อยลงเพียงแต่ 11% ก็เลยอาจจะบอกได้ว่าสารสกัดจากทับทิมมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและก็เป็นตัวเลือกในการใช้ขจัดคราบจุลชีพบนผิวฟัน ทั้งนี้ จากข้อมูลข้างต้นยังคงควรมีการต่อว่าดตามผลในระยะยาวจากการใช้สารสกัดทับทิมโดยตลอด เนื่องมาจากช่วงเวลาสำหรับการทดลองออกจะสั้น
สภาวะคอเลสเตอรอลสูง ทับทิมมีสรรพคุณที่กล่าวกันว่าสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดี จากการศึกษาผลการกินน้ำทับทิมเข้มข้น 40 กรัม ในคนเจ็บโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และก็มีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงจำนวน 22 คน เป็นระยะเวลา 8 อาทิตย์โดยระหว่างการทดสอบจะมีการเก็บข้อมูลของกินที่ทานอาหารข้างใน 24 ชั่วโมง ทุกๆ10 วัน (รวมถึงอาหารที่มีสารฟลาโวนอยด์) ข้างหลังจบสัปดาห์ที่ 8 พบว่าคนไข้หรูหราไขมันรวม ไขมันประเภทไม่ดี อัตราส่วนของไขมันไม่ดีกับไขมันดี และอัตราส่วนของไขมันรวมกับไขมันดีที่มีสะสมอยู่ในเลือดน้อยลง แม้กระนั้นไม่เจอความเคลื่อนไหวของระดับไตรกลีเซอไรด์และระดับความเข้มข้นของไขมันดี ซึ่งทำให้เห็นว่าน้ำทับทิมอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยลดระดับไขมันในคนไข้เบาหวานลง แต่ยังบอกไม่ได้เด่นชัด เนื่องมาจากของกินประเภทอื่นที่กินอาจมีส่วนช่วยในการลดไขมันในเลือดได้ด้วยเหมือนกัน แล้วก็กลุ่มการทดสอบมีขนาดเล็ก จะต้องขยายผลการศึกษาเล่าเรียนในกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นเพิ่มอีก นอกนั้น การดูแลรักษาภาวการณ์คอเลสเตอรอลสูงต้องมีการควบคุมของกินรวมทั้งการบริหารร่างกายไปพร้อมกัน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการลดระดับไขมันในเลือดเยอะขึ้นเรื่อยๆ
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ทับทิมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารโพลีฟีนอลที่พบได้มากในทับทิม จากรายงานผลที่เจอในห้องแลปบอกว่าสารพวกนี้มีส่วนสำคัญสำหรับเพื่อการบรรเทาอาการโรคปอดอุดกันเรื้อรังแล้วก็อาจชะลอไม่ให้โรคปรับปรุงอย่างรวดเร็ว จึงมีการศึกษาเล่าเรียนสมรรถนะของสารโพลีฟีนอลในคนเสริมเติม โดยให้คนเจ็บโรคปอดอุดกันเรื้อรัง ปริมาณ 30 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่กินน้ำทับทิม 400 มล. (มีสารโพลิฟีนอล 2.66 กรัม) เปรียบเทียบกับอีกกลุ่มที่กินยาหลอกต่อเนื่องกันแต่ละวันเป็นระยะ 5 อาทิตย์ ผลปรากฏว่า ไม่พบสารโพลิฟีนอลในเลือดและก็เยี่ยวของคนป่วย ทั้งยังยังไม่เจอความไม่เหมือนอย่างเป็นจริงเป็นจังระหว่าง 2 กลุ่ม จึงคาดว่าทับทิมไม่น่ามีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการรักษาหรือบรรเทาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
โดยธรรมดาสารอาหารที่เข้าสู่ร่างกายจะถูกเผาผลาญผ่านกระบวนเมตาบอลิซึมและตรวจเจอได้ในเลือดหรือเยี่ยว แต่ผลการศึกษาวิจัยกลับไม่เจอสารโพลีฟีนอลจากการกิน ซึ่งบางทีอาจมีต้นเหตุที่เกิดจากการเสื่อมสลายสารกลุ่มนี้โดยจุลินทรีย์ในระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหาร จำเป็นต้องทำความเข้าใจกรรมวิธีดูดซึมสารอาหารที่แตกต่างกันก่อนที่จะอ้างถึงถึงผลดีด้านของสุขภาพจากการกิน เนื่องจากสารอาหารที่เจอในของกินที่กินบางทีอาจมิได้ถูกเอาไปใช้ผลดีภายในร่างกายมนุษย์เราทั้งสิ้น
โรครวมทั้งอาการอื่นๆยกตัวอย่างเช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ การหย่อนสมรรถนะทางเพศ เจ็บกล้ามเนื้อข้างหลังการบริหารร่างกาย กรุ๊ปอาการอ้วนอ้วน โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เยื่อบุช่องปากอักเสบ ผิวไหม้จากแดด การตำหนิดเชื้อทริวัวโมแนส (Trichomoniasis) ท้องเดิน โรคบิด เจ็บคอ โรคริดสีดวงทวาร อาการวัยทอง รวมทั้งอื่นๆยังจำต้องศึกษาวิจัยศึกษาค้นคว้าเสริมเติมเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับคุณภาพและก็ความปลอดภัยของทับทิมสำหรับการรักษาโรค
[/b]
ข้อมูลทางโภชนศาสตร์ของผลทับทิม 100 กรัม (โดยประมาณ)
น้ำ 77.93 กรัม
พลังงาน 83 กิโลแคลอรี่
โปรตีน 1.67 กรัม
ไขมัน 1.17 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 18.70 กรัม
เส้นใย 4.0 กรัม
น้ำตาล 13.67 กรัม
แคลเซียม 10 มิลลิกรัม
เหล็ก 0.30 มิลลิกรัม
แมงกานีส 12 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 236 มก.
โซเดียม 3 มก.
สังกะสี 0.35 มิลลิกรัม
วิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม
วิตามินบี 1 0.067 มก.
วิตามินบี 2 0.053 มก.
วิตามินบี 3 0.293 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 0.075 มก.
โฟเลต 38 ไมโครกรัม
วิตามินอี 0.60 มิลลิกรัม
วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม
ความปลอดภัยสำหรับการรับประทานทับทิมหรือผลิตภัณฑ์จากทับทิม
โดยปกติการกินน้ำทับทิมออกจะมีความปลอดภัย แต่ในบางรายที่มีลักษณะอาการแพ้ผลสดของทับทิมอาจเกิดผลใกล้กันจากการดื่มน้ำทับทิมได้
รากทับทิมประกอบด้วยสารที่เป็นพิษต่อสภาพร่างกาย การรับประทานรากรวมทั้งลำต้นของทับทิมในปริมาณมากบางทีอาจไม่ปลอดภัย
สารสกัดจากทับทิมค่อนข้างไม่มีอันตรายสำหรับการกินหรือประยุกต์ใช้กับผิวหนัง แต่ว่าอาจจะก่อให้กำเนิดอาการแพ้บางส่วนในบางราย เช่น อาการคัน บวม น้ำมูกไหล หรือหายใจติดขัด
การกินน้ำทับทิมออกจะมีความปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งท้องหรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร แม้กระนั้นยังไม่มีรายงานยืนยันความปลอดภัยสำหรับเพื่อการรับประทานหรือใช้ทับทิมในแบบอย่างอื่น ยกตัวอย่างเช่น สารสกัดจากทับทิม จำเป็นจะต้องหารือหมอก่อนที่จะมีการกินทุกครั้ง
น้ำทับทิมอาจจะก่อให้ความดันโลหิตลดต่ำลงบางส่วน ซึ่งอาจก่อให้ผู้ป่วยที่มีภาวการณ์ความดันต่ำอาการเกิดขึ้นอีก
คนที่มีลักษณะแพ้จากพิษพืชอาจมีการเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้จากการกินทับทิม
ผู้ป่วยที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัดควรจะหยุดรับประทานทับทิมอย่างน้อย 2 อาทิตย์ เนื่องด้วยทับทิมนำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตต่ำลง จึงอาจกระทบต่อความดันโลหิตในขณะผ่าตัดหรือมีผลต่อเนื่องไปยังหลังการผ่าตัด
การรับประทานทับทิมควบคู่กับยาบางจำพวกอาจจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา เป็นต้นว่า ยาที่เกี่ยวโยงกับหลักการทำงานของตับโดยเอนไซม์ตับ Cytochrome จำพวก P450 2D6 หรือประเภท P450 3A4 ยาลดระดับความดันเลือดหรือเอซีอี อินฮิบิเตอร์ ยารักษาโรคความดันเลือดสูง ยาโรสุวาสแตตำหนิน ผู้ที่รับประทานยาบ่อยๆหรือมีโรคประจำตัวควรขอคำแนะนำหมอก่อนการกินเพื่อให้มีความปลอดภัย

ทับทิ�[/size][/b]
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม ยอดเยี่ยมราชินีที่ผลไม้ มีประโยชน์ต้น
การกินเพื่อสุขภาพ
ทับทิม ยอดเยี่ยมราชินีแห่งผลไม้ มีคุณประโยชน์อีกทั้งต้น
อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ เดือนพฤษภาคม 3, 2018 ประมาณเวลาการอ่าน: 2 นาที
แชร์บทความนี้
[url=http://www.disthai.com/16488281/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1]ทับทิมได้ผลสำเร็จไม่ที่นิยมกินกันมากมาย และลือชื่อในเรื่องของคุณประโยชน์ที่มากมาย จนได้รับสมญาว่า ราชินีที่ผลไม้ กล่าวกันว่าทับทิมนั้นคือผลไม้ที่ถูกประยุกต์ใช้ในแวดวงแพทย์มาแล้วนับพันปี ในขณะนี้ทับทิมถือเป็นผลไม้ที่นิยมปลูก และก็รับประทานกันทั่วโลก สามารถหารับประทานได้ง่ายในประเทศไทย สังเกตได้จากร้านขายน้ำทับทิม หรือผลทับทิมสด ที่แทบมีอยู่ตามท้องถนนหรือทุกตลาดในประเทศไทย
ประโยช์จากทับทิมมีมากมายก่ายกอง อีกทั้งในเรื่องของสารอาหาร และก็การปกป้องโรค
วิตามินซีสูงมาก
ทับทิมถือเป็นผลไม่ที่มีวิตามินซีสูงมาก ในน้ำทับทิมเพียง 1 แก้ว มีวิตามินซีถึงปริมาณร้อยละ 40 ของจำนวนที่พวกเราอยากได้ในหนึ่งวัน (สำหรับผู้ใหญ่) ด้วยจำนวนวิตามินซีที่สูงในระดับนี้ก็เลยมีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคหวัด หรือแพ้อากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
ช่วยทำนุบำรุงผิวพรรณ
การรับประทานทับทิมสด หรือน้ำทับทิมนั้น จะช่วยทำให้ผิวพรรณของพวกเราดูสดใส เพราะเหตุว่าทับทิมสำเร็จพอดีมีคุณประโยชน์สำหรับในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของเรา และด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงจึงช่วยในเรื่องทำให้ผิวกระจ่างขาวสวยใส ยิ่งกว่านั้นเรายังสามารถใช้น้ำทับทิมราวๆ 1 ช้อนชา ทาบริเวณบริเวณใบหน้า ทิ้งเอาไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยสำหรับในการบำรุงผิวหน้าให้ดูเต่งตึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้อีกด้วย คุณประโยชน์ในข้อนี้ของทับทิมสามารถรับรองได้จากการที่ในปัจจุบัน มีเครื่องแต่งหน้าหรือครีมหลายชนิดได้นำทับทิมไปเป็นส่วนประกอบ
เส้นโลหิตและหัวใจดีขึ้น
ในทางการแพทย์มีการวิจัยแล้วพบว่าทับทิม มีสรรพคุณช่วยสำหรับการทำให้การไหลเวียนของโลหิตดียิ่งขึ้น ลดภาวการณ์ขาดเลือดในคนไข้โรคหัวใจ นอกเหนือจากนี้ยังพบว่าคนที่มีความดันโลหิตสูง เมื่อกินน้ำทับทิมวันละ 50cc จะช่วยลดความดันเลือดได้จำนวนร้อยละ 5 ช่วยลดสภาพการณ์การแข็งตัวของไขมันในเส้นโลหิตได้อีกด้วย
ลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดมะเร็ง
เนื่องจากคือผลไม้ที่มีค่าการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สูง ก็เลยช่วยลดความเสี่ยงในการกำเนิดโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี มีงานศึกษาค้นคว้าวิจัยพบว่า การกินทับทิมช่วยลดจังหวะการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์ของมะเร็งถึง 13ช นิด และก็ยังสามารถช่วยทำลายเซลล์ของโรคมะเร็งในหลอดอาหาร แล้วก็ลำไส้ได้อีกด้วย
คุณประโยชน์อื่นๆของทับทิม
เว้นเสียแต่สรรพคุณหลักที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ทับทิมยังมีสรรพคุณอื่นอีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ช่วยทุเลาอาการแพ้ท้องในหญิงท้อง ช่วยทำให้สมดุลในวัยหมดประจำเดือน ลดการเสี่ยงสำหรับในการเป็นโรคจำอะไรไม่ค่อยได้ในคนวัยแก่ ปกป้องโรคเลือดออกตามไรฟัน เสริมสุขภาพกระดูกลดความเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคกระดูกพรุน ป้องกันการเสื่อมสรรถภาพทางเพศ ลดการตกขาว พูดได้ว่ามีสรรพคุณจำนวนมากจริง
 นอกเหนือจากส่วนที่เรานิยมกินกันอย่างเม็ดแล้ว องค์ประกอบอื่นของทับทิมก็เป็นประโยชน์ไม่แพ้กัน ทั้งที่ยังไม่ตายยาแล้วก็สมุนไพร
ใบ: สามารถทำน้ำยาบ้วนปากหรือล้างตาได้ ยาพอกที่ทำจากใบสามารถช่วยทุเลาอาการผมตกได้อย่างดี
เปลือก: ลดการเกิดริ้วรอยในผิวของเราใช้รักษา แผลหิด กากเกลื้อน มีคุณประโยชน์เกี่ยวกับการรักษาโรคในทางเดินของกิน ตัวอย่างเช่นรักษาอาการท้องร่วงได้
เปลือกของลำต้น และก็ราก: สามารถเอามาทำเป็นยาถ่ายพยาธิได้อีกด้วย โดยเอามาผสมกับกานพลู และอาจใส่ดีเกลือต้มกับน้ำราวๆสามถ้วย มีสรรพคุณสำหรับในการถ่ายพยาธิ
ดอก: มีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการสมานแผล และก็บรรเทาอาการอักเสบของหูชั้นใน
ทับทิมนับว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ในทุกส่วนของต้น ไม่ใช่เพียงแค่เม็ด หรือน้ำทับทิม ก็เลยไม่สนเท่ห์ใจเลยที่ทับทิมจะได้รับนามสมมุติว่า "ราชชินีแห่งผลไม้"
โรคแล้วก็อาการอื่นๆได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ การหย่อนยานความสามารถทางเพศ เจ็บกล้ามเนื้อหลังการบริหารร่างกาย กรุ๊ปอาการอ้วนอ้วน โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เยื่อบุช่องปากอักเสบ ผิวไหม้จากแสงอาทิตย์ การติดเชื้อทริวัวโมแนส (Trichomoniasis) ท้องเสีย โรคบิด เจ็บคอ โรคริดสีดวงทวาร อาการวัยทอง และอื่นๆยังจะต้องศึกษาค้นคว้าศึกษาค้นคว้าเสริมเติมเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับคุณภาพและความปลอดภัยของทับทิมสำหรับในการรักษาโรค
ความปลอดภัยสำหรับในการกินทับทิมหรือสินค้าจากทับทิม
โดยทั่วไปการรับประทานน้ำทับทิมค่อนข้างจะมีความปลอดภัย แต่ว่าในบางรายที่มีลักษณะแพ้ผลสดของทับทิมบางทีอาจเป็นผลใกล้กันจากการกินน้ำทับทิมได้
รากทับทิมมีสารที่เป็นพิษต่อสุขภาพ การกินรากแล้วก็ลำต้นของทับทิมในจำนวนมากอาจไม่ปลอดภัย
สารสกัดจากทับทิมออกจะไม่มีอันตรายในการกินหรือนำมาใช้กับผิวหนัง แม้กระนั้นอาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้น้อยในบางราย อย่างเช่น อาการคัน บวม น้ำมูกไหล หรือหายใจติดขัด
การกินน้ำทับทิมค่อนข้างจะมีความปลอดภัยสำหรับหญิงมีท้องหรืออยู่ในช่วงให้นมลูก แม้กระนั้นยังไม่มีรายงานยืนยันความปลอดภัยสำหรับการรับประทานหรือใช้ทับทิมในต้นแบบอื่น อาทิเช่น สารสกัดจากทับทิม ควรต้องขอคำแนะนำแพทย์ก่อนที่จะมีการรับประทานทุกคราว
น้ำทับทิมอาจจะก่อให้ความดันเลือดลดต่ำลงบางส่วน ซึ่งอาจก่อให้คนเจ็บที่มีสภาวะความดันต่ำอาการแย่ลง
[/b]
คนที่มีลักษณะแพ้จากพิษพืชอาจมีการเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้จากการรับประทานทับทิม
คนไข้ที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดกิ�ทับทิม[/url]อย่างน้อย 2 อาทิตย์ เหตุเพราะทับทิมนำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตต่ำลง จึงบางทีอาจกระทบต่อความดันเลือดในขณะผ่าตัดหรือมีผลต่อเนื่องไปยังหลังการผ่าตัด
การรับประทานทับทิมพร้อมกันกับยาบางประเภทอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ตัวอย่างเช่น ยาที่เกี่ยวพันกับหลักการทำงานของตับโดยเอนไซม์ตับ Cytochrome ชนิด P450 2D6 หรือจำพวก P450 3A4 ยาลดความดันเลือดหรือเอซีอี อินฮิบิเตอร์ ยารักษาโรคความดันเลือดสูง ยาโรสุวาสแตตำหนิน คนที่รับประทานยาเป็นประจำหรือมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะมีการกินเพื่อให้เกิดความปลอดภัย http://www.disthai.com/[/b]

[/b]
บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะยังไงนี่ เรากำลังดูหนังการสู้รบอยู่หรอ เปล่านะครับ บุกในที่นี้ไม่ได้ถึงศัตรูบุก แม้กระนั้นหมายคือหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านเรา ต่างหาก แล้วก็ที่จะต้องหนี ไม่ใช่ใครกันแน่ที่ไหน แม้กระนั้นเป็นโรคฮอตฮิตในตอนนี้อย่างโรคอ้วน เบาหวาน ต่างหากที่จำเป็นต้องหนีไป
บุก ส่วนที่เห็นเป็น หัวบุก ทีแรกเรื่องของบุกในเมืองไทย มันก็มิได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมราวกับปัจจุบันนี้เนื่องจากว่าจริงๆตอนแรกมันก็เป็นพืชประจำถิ่นอยู่ดี  คนภายในเขตแดนก็นำบุกมาทำอาหาร ราวกับเผือก เสมือนมันทั่วๆไปพอเริ่มมีคนมาศึกษาค้นคว้า   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยกลายเป็นพืชสมุนไพรไทยยอดนิยม มีการดัดแปลงเป็นแบบอย่างต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก รวมทั้งอื่นๆอีกมาก วันนี้เองก็คงไม่ช้าเหลือเกินที่จะนำทุกคนมารู้จะ พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบลึกซึ้งมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นภูตผีปิศาจ  น่าสะพรึงกลัวครับผมชื่อนี้ คาดว่ามาจากลักษณะของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อตระกูล    ARACEAE
ชื่อตามแคว้น  :  บุกคุงคก (ชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (จังหวัดปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
เราพบบุกพอดีไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่พบทั่วๆไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่ตาม ป่าเขา และบางโอกาสก็เจอตามพื้นที่ ปลูกข้าว อาทิเช่นที่ปทุมธานี แล้วก็จังหวัดนนทบุรี เป็นต้น บุกขึ้นได้ในภาวะดินทุกชนิด แต่จะเจริญเติบโตได้ดิบได้ดีให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินที่ร่วนซุย น้ำไม่ขังและก็ดินที่มีฮิวมัส หรือสารอินทรีย์สูง
ลักษณะของต้นบุก
รูปแบบของต้น บุก ชี้ให้เห็นส่วนประกอบคือใบบุก และหัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  ชนิดเดียวกันกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่โดยประมาณ 25 เซนติเมตร (บางพันธ์บางทีอาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แต่ว่าบางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษแตกต่างออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมอาหารของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเหมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางประเภทมีก้านใย เป็นลวดลายบางจำพวกมีหนามอ่อนๆ หรือบางโอกาสบุกบางจำพวกก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวด้านบน  จะเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่นานัปการมากมาย  แต่ที่เด่นๆสังเกตง่ายว่าเป็บุกคือ จะมีก้านตรงจากกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีทรงแผ่กว้างแบบร่ม แม้กระนั้นบาง จำพวกจะแปลกตรงที่กลับขึ้นข้างบนราวกับหงายร่ม ด้วยเหตุนั้นลักษณะของใบบุก มีหลายแบบอย่างขึ้นอยู่กับจำพวกของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกเหมือนต้นหน้าวัว แต่ละจำพวกมีขนาด สี และรูป ทรงแตกต่าง บางประเภทมีดอกใหญ่มาก โดยยิ่งไปกว่านั้นบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นเสมือนเนื้อสัตว์เน่า บุกจำพวกอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกึ่งกลางหัวบุก เหมือนกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายฤดูแล้ง แต่ว่าบุกสามารถออกดอกได้ในช่วง เวลาต่างๆกัน ระยะเวลาสำหรับในการแก่เต็มกำลัง ของดอกที่จะติดผลก็ไม่เหมือนกัน
 ผลบุ�[/b](อย่างงมากกับหัวบุกนะ ) หลังจากดอก สืบพันธุ์ก็จะเป็นผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง เพียงพออายุ ได้ 1-2 เดือน จะส่งผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายเหมือนผลกล้วย ผล ของบุกส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกัน แต่เมล็ดข้างในต่างกัน พบว่าส่วนมากมีเมล็ดเป็นรูปทรงอูมยาว  บุกบางชนิดก็มีเมล็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม
[url=http://www.disthai.com/16488234/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81][/b]
บุกกับการนำมาปรุงอาหาร[/size][/b]
เป็นพืชอาหารประจำถิ่นซึ่งชาวไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ส่วนหัวบุกมีการนำไปดัดแปลงตามแต่ละภูมิภาค ได้แก่ทางภาคอีสาน มีการทำขนมที่เรียกว่าของหวานบุก แกงบรรพชามันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งรับประทานกับข้าว ทางภาคเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเขา มักเอามา ปิ้งรับประทาน ภาคกึ่งกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งและหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปทำเป็นของหวาน
*บุกมีหลายประเภทหลายชนิด บางทีอาจขมและก็เป็นพิษ ทุกชนิดมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ทั้งๆที่ก้านใบและก็หัว ซึ่งอาจจะทำให้คัน ก่อนเอามาปรุงอาหารจำเป็นต้องต้มซะก่อน มิเช่นนั้นกินเข้าไปทำให้คันปากรวมทั้งลิ้นพอง
ของกินที่แปรรูปมาจากบุก
เดี๋ยวนี้มีการนำบุกมาแปรรูป อีกทั้งในลักษณะของเส้นบุก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากท่อนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถเอามาปรุงเป็นของกินจานอร่อยได้ ผมว่าคนไหนกันเคยไปกินเนื้อย่างอาจเคยเจอบ้าง นอกจากเส้นบุกแล้วมีการเอามาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆแต่ก่อนหมายถึงเจเล่ ผสมผงบุก ถ้าหากจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (เจ้าของบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าโฆษณาด้วยครับผม)
สรรพคุณของบุก
จากการเรียนรู้พบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูโคแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่ประกอบด้วยน้ำตาล 2 ชนิดหมายถึงดี-กลูโคส (D-glucose) แล้วก็ (D-mannose) เป็นสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แม้กระนั้นร่างกายเสื่อมสภาพได้ยาก ดูดซับได้ช้า ก็เลยให้พลังงานและสารอาหารน้อย เหลือกากมาก ทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินการดี คนที่อยากได้ลดความอ้วนนิยมรับประทานอาหารจากแป้งบุก ดังเช่นว่า วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก ด้วยเหตุว่ากินอิ่มได้ ระบายท้อง แม้กระนั้นไม่ทำให้อ้วน
นอกนั้นเองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะเหตุว่าความเหนี่ยว ซึ่งยับยั้งการดูดซึมของกลูโคลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูโคลส ฉะนั้น กลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำตาลก้าวหน้ามาก เดี๋ยวนี้จึงใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นของกินสำหรับคนป่วยเป็นโรคโรคเบาหวาน แล้วก็สำหรับผู้เจ็บป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละนะครับคือคุณประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันนะครับ มีประโยชน์ขนาดนี้ ปัจจุบันนี้ไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว เสนอแนะมามายำแบบยำวุ้นเส้นครับผม รับรองอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/[/b]

[/b]
น้ำมันเหลือง
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากการนว�น้ำมันเหลือง[/url]
น้ำมันเหลิองแสดงว่าการกระตุ้นเยื่อของร่างกายด้วยมือ, เพื่อเกื้อหนุนสุขภาพรวมถึงฟื้นฟูให้ร่างกายทั้งหมดทั้งปวง. น้ำมันนวดถูกออกแบบมาเพื่อให้มือเลื่อนได้ง่ายมากขึ้นในระหว่างนวด และก็ในเวลาเดียวกันเครื่องหอมอโรมาให้ความรู้สึกผ่อนคลายเยอะที่สุดสำหรับทั้งกายใจ. อ่านต่อไปเพื่อหาข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากการนวดน้ำมันแล้วก็บรรเทาร่างกายของคุณที่มีประสบการณ์นวดแจ่มใส.
เมื่อมาถึงการนวดน้ำมัน, มีหลายร้อยปิดตัวเลือกที่แตกต่างให้เลือก. คุณได้อย่างอิสระสามารถเลือกจากจำนวนไม่ใช่น้อยน้ำหอมและสีที่ผิดแผกเพื่อบริการ. น้ำมันนวดเยียวยา, น้ำมันร้อน, น้ำมันเหลืองกระตุ้นความรู้สึก, น้ำมันหอม
น้ำมันเหลืองจะสามารถพบได้ในตลาดท้องน้ำมันนวดเพื่อคุณสามารถเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับความอยากได้แล้วก็ความจำนงของคุณ.
สัมผัสของผู้คนสามารถมีการรักษาและก็พลังความสดชื่นสำหรับผิวและนวดน้ำมันออกมาจากผิวนุ่มแล้วก็เรียบ. เว้นเสียแต่ความรู้สึกสบาย thei พวกเขาถ่ายทอด, น้ำมันนวดยิ่งไปกว่านี้ยังมีทางที่น่าแปลกที่ช่วยบำรุงรักษาผิวของคุณและจากนั้นก็กำจัดจุดแห้งบนผิวของคุณ. อย่างไรก็ดี, ข้างหลังการนวด, จะชี้นำให้ใช้เวลาอาบน้ำที่ผ่อนคลายเพื่อล้างน้ำมันออกมาจากร่างกายของคุณ. น้ำ จะยังช่วยผิวรูขุมขนจะเปิดจึงสนับสนุนการดูดซึมของน้ำมันนวดไปสู่ผิวของคุณ. ทดลองมองกันผลดีต่อร่างกายที่สำคัญของการนวดน้ำมันทุเลา.
อาการปวดหายได้อย่างไร เมื่อใช้น้ำมันนวด
ซึ่ง การใช้น้ำมันตัวนี้นะคะ เราแค่ทาลงไปในส่วนที่เราปวดนะคะ หรือมีการอักเสบของกล้าม เท่านี้จ้ะตัวยาจะซึมเข้าไปทำให้อาการปวดอ่อนเพลียลดน้อยลง อีกอย่างที่สำคัญนะคะ
นํ้ามันเหลือง ตัวนี้เหมาะกับใครกันแน่บ้าง?

• น้ำมันเหลืองคนได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
• ปวดเมื่อยจากการทำงานหนัก
• ปวดมือและก็คอจากการเล่นโทรศัพท์มือถือ
• ปวดหลังจาก Office syndrome
• ปวดข้อจากโรคเกาท์
• ปวดหัวเข่าจากโรคข้อต่ออักเสบ
• ปวดขาจากการเดิน Shopping
• บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
• ตีดอท จนถึงปวดมือ
• ปวดคอจากการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่

นวดน้ำมันเหลือง[/b]ที่ดีเยี่ยมที่สุดของคุณผ่อนคลายร่างกายและก็เกื้อหนุนการนอนที่ดีกว่าสำหรับวัน.
ผู้คนจำนวนมากทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากความเปลี่ยนไปจากปกติของการนอนต่างๆได้สังเกตเห็นการปรับปรุงในนิสัยการนอนของพวกเขาข้างหลังการรักษาด้วยการนวดน้ำมันเหลืองผ่อนคลาย. น้ำมันนวดกระตุ้นจิตใจและจิตวิญญาณ การบำบัด, น้ำมันเหลืองด้วยเหตุดังกล่าวคนไม่ใช่น้อยมีประสบการณ์การนอนหลับลึกและก็พักผ่อนเยอะขึ้นเรื่อยๆ.

Tags : น้ำมันเหลือง

[/b]
น้ำมันเหลือ�[/size][/b]
[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรประสิทธิภาพเยี่ยม ทำมาจากพืชสมุนไพรประเภทต่างๆกัน คุณประโยชน์ที่ใช้สูดดม ทา นวด เพื่อบรรเทาอาการต่างๆคุณประโยชน์นี้ไม่ด้อยกว่ายาแผนปัจจุบันอย่างยิ่งจริงๆ
การใช้นำมันนวดตามจุดต่างๆ
การนวดน้ำมันเหลืองเป็นวิธีสำหรับในการดูแลภาวะผิวและสุขภาพที่ขอชี้แนะเป็นการนวด ที่สกัดจากสมุนไพรรวมทั้งพืชต่างๆที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย โดนการนำสารสกัดกลิ่นแล้วก็เนื้อน้ำมันพวกนั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกายด้วยกลิ่นหอมหวน และสัมผัสของของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ลดความตึงเครียด ทำให้เราผ่อนคลาย รวมไปถึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นรวมทั้งผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้เราจะพาไปดูประโยชน์ซึ่งมาจากการนวดน้ำมันว่ามีสาระในด้านใดบ้าง
บริการนวดน้ำมันเหลืองและโดยมากสร้างความแข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันแล้วก็ช่วยสำหรับในการย่อยของกินดีขึ้น.
ศิลปะที่สวยงามของการนวดได้ทวีความร้ายแรงมากยิ่งขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมากมาย. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณลักษณะรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆสำหรับเพื่อการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่เยี่ยมที่สุดสำหรับความต้องการส่วนบุคคลของคุณรวมทั้งผ่อนคลายร่างกายของคุณด้วยการนวดน้ำมันเหลือ�[/b]ผ่อนคลายและก็ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อจะรักษาความสมดุลด้านจิตวิญญาณของคุณรวมทั้งสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.คุณประโยชน์มีอะไรบ้าง ?
คุณประโยชน์ของน้ำมันเหลือง สมุนไพรนั้น มีมากทีเดียว
น้ำมันเหลืองทุเลาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัด แก้วิงเวียนหัว หน้ามืดคล้ายจะเป็นลมเป็นแล้ง
แก้เคล็ดลับปวดเมื่อย ฟกช้ำ ทาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดบวม
ทาท้องเพื่อขับลมภายในท้อง
ทาแก้ผดผื่น ตุ่มคัน
ทาก่อนนอนทำให้หลับง่ายขึ้น จิตใจสงบ บรรเทา ทาเช็ดนวดฝ่าเท้า ไล่เลือดลม
ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคริว ปวดสันหลังปวดบั้นท้าย ปวดหัวเข่า ปวดขา ฟกช้ำ ปวดกล้ามเนื้อ สูดดมแก้อาเจียน ตาลาย หอบหืด รวมทั้งไซนัส
- บรรเทาอาการเวียนหัวหัว หน้ามืด คล้ายจะเป็นลมเป็นแล้ง
- น้ำมันเหลือง แก้กลยุทธ์ขัดยอก ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมด้านในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผื่นผื่น

• ทาก่อนนอนช่วยให้หลับง่ายดายมากยิ่งขึ้น
• ทุเลาอาการคัดจมูก เหตุเพราะหวัด

น้ำมันเหลือง ใช้ทาแก้ เหน็บชา ตะคิว ปวดสันหลังปวดบั้นท้าย ปวดเข่า ปวดขา บวมช้ำ ปวดกล้ามเนื้อ ดมแก้คลื่นไส้ หน้ามืด อาการหอบหืด แล้วก็ไซนัส
- บรรเทาอาการวิงเวียนหัว หน้ามืด เหมือนจะเป็นลมเป็นแล้ง
- น้ำมันเหลือง แก้เคล็ดลับขัดยอก ทำลายพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ทาท้องเพื่อขับลมข้างในท้อง
- ทาแผลมีดบาด ทาแก้ผดผื่น
- ทาก่อนนอนช่วยทำให้หลับง่ายมากยิ่งขึ้น
- บรรเทาอาการคัดจมูก เหตุเพราะหวัด
3.น้ำมันเหลือง ของ ช้อนทองคำมงคล มีสเตอรอยด์ไหม ?
[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลืองของช้อนทองคำมงคล ไม่มีสเตอรอยด์ ไม่มีสารเคมี ทำจากสมุนไพรไทย 100% ก็เลยสามารถใช้ทาได้ทุกเพศทุกวัย สามารถใช้โดยจะนวดหรือเปล่านวดก็ได้ ใช้แล้วไม่มีการสะสม ลูกค้าจำนวนมากจึงถูกใจ พอใช้หาย รวมทั้งบอกต่อๆกัน

น้ำมันนวดสมุนไพ�[/size][/b]
อาการปวดหายได้อย่างไร เมื่อใช�น้ำมันนวด[/size][/b]
ซึ่ง การใช้น้ำมันตัวนี้นะคะ พวกเราแค่ทาลงไปในส่วนที่เราปวดนะคะ หรือมีการอักเสบของกล้าม เท่านี้จ้ะตัวยาจะซึมเข้าไปทำให้อาการปวดปวดเมื่อยลดน้อยลง อีกอย่างที่สำคัญนะคะ
นํ้ามันนวด ตัวนี้เหมาะกับใครกันแน่บ้าง?

• คนได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
• คนที่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวจากการทำงานหนัก
• ผู้ที่ปวดมือแล้วก็คอจากการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
• คนที่ปวดหลังจาก Office syndrome
• คนที่ปวดข้อจากโรคเกาท์
• คนที่ปวดหัวเข่าจากโรคข้อต่ออักเสบ
• ปวดขาจากการเดิน Shopping
• เจ็บจากการเล่นกีฬา
• ตีดอท กระทั่งปวดมือ
• ปวดคอจากการเล่นมือถือ

น้ำมันนวด ที่เยี่ยมของคุณบรรเทาร่างกายและช่วยเหลือการนอนหลับที่ดีมากกว่าสำหรับวัน.
ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ทรมานสาหัสจากความไม่ปกติของการนอนต่างๆได้สังเกตเห็นการปรับปรุงแก้ไขในนิสัยการนอนของพวกเขาหลังการรักษาด้วยการนวดบรรเทา. น้ำมันนวดกระตุ้นจิตใจและจิตวิญญาณ การบำบัด, โดยเหตุนั้นคนส่วนมากมีประสบการณ์การนอนหลับลึกและพักผ่อนเยอะขึ้น.
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
นวดน้ำมันเพิ่มขึ้นแล้วก็รักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อของคุณ. นวดตัวที่มีประสิทธิภาพหลักการทำงานของกล้ามเนื้อทั้งหมด, เนื้อเยื่อและก็ข้อต่อก็เลยปรับแก้การแสดงกีฬาและการดูแลเกี่ยวกับด้านความสะดวกสบายสำหรับเพื่อการขยับเขยื้อนร่างกายของคุณง่ายขึ้น. เว้นแต่สิ่งเหล่านี้กำเนิดผลดีต่อสุขภาพ, นวดยังช่วยป้องกันการเจ็บแล้วก็เพิ่มความเร็วสำหรับการหาย. นวดแผนโบราณยังเป็นแนวทางที่ดีสำหรับการบรรเทาความเคร่งเครียดของกล้ามเนื้อแล้วก็รักษาร่างกายของคุณ พอดี และก็มีความยืดหยุ่นเป็นเวลานาน.
กำจัดพิษ
ข้อเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการนวดน้ำมันซึ่งมันช่วยให้ร่างกายได้อย่างมีคุณภาพกำจัดสารพิษจากสิ่งมีชีวิตเพราะฉะนั้นการสนับสนุนสุขภาพที่ดีขึ้น.
ช่วยเพิ่มระบบภูมิต้านทาน
บริการนวดน้ำมั�รวมทั้งจำนวนมากสร้างความเข้มแข็ง ระบบภูมิต้านทานรวมทั้งช่วยย่อยของกิน.
ศิลป์ที่งดงามของการนวดได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยการนวดน้ำมันบางมากมาย. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณลักษณะรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆในการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ยอดเยี่ยมสำหรับความอยากได้เฉพาะบุคคลของคุณรวมทั้งบรรเทาร่างกายของคุณด้วยการนวดผ่อนคลายและฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อที่จะรักษาความสมดุลทางใจวิญญาณของคุณรวมทั้งสุขภาพที่ดีที่สุดของร่างกายของคุณ.
โรคนี้จะไม่อาจจะหายไปได้เอง!
โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่อาจจะหายสนิทได้เอง แม้ว่าอาการที่แสดงออกมาจะรุนแรงลดน้อยลงก็ตาม รวมทั้งในที่สุดก็จะแปลงเป็นโรคเรื้อรังรวมทั้งส่งผลให้เกิดความยากลำบากสำหรับการดำเนินชีวิตมากขึ้น
1.[url=http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันนวดจะเข้าไปช่วยกระตุ้นหลักการทำงานของระบบประสาท ให้ทำงานได้ดีมากขึ้น ลดอาการตึงเครียดให้พวกเราบรรเทาจากการความอ่อนล้าแล้วก็ความเหน็ดเหนื่อยสะสม
2.การนวดน้ำมัน จะเข้าช่วยการกระตุ้นรูปแบบการทำงานของโลหิต ให้ดำเนินการได้ดิบได้ดีมีคุณภาพมากเพิ่มขึ้นและก็สามารถหล่อเลี้ยงออกซิเจนรวมทั้งสารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างสมบูรณ์ ป้องกันโรคต่างๆและลดความดันเลือดเจริญด้วย
3.เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมรวมทั้งฟื้นฟูระบบกล้าม ข้อต่อต่างๆในร่างกายให้ปฏิบัติงานได้ดิบได้ดีและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
4.เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดสารพิษ ภายในร่างกายรวมทั้งสภาพผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนเปียกชื้น มองผ่องใสและชีวิตชีวาเพิ่มมากขึ้น
5.ช่วยในประเด็นการนอนหลับให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม บรรเทาสมองรวมทั้งร่างกายต่างๆมีผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนสนิทได้ดีมากยิ่งกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้อย่างยอดเยี่ยม
นอกนั้นการนวดน้ำมันยังมีคุณประโยชน์อีกหลายประเภทต่อสถาพทางร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกแก่คู่รักสุขภาพได้อย่างยอดเยี่ยม
ลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรน
     สำหรับเคยทรมาทรกรรมจากอาการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อยมาก แพทย์ก็ได้เสนอแนะให้ลองไปนวดบำบัดรักษาสุขภาพดูบ้าง เพราะว่าจากผลการศึกษาเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า คนที่มีลักษณะอาการปวดศรีษะไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวต่อเนื่องกัน 2-3 อาทิตย์ จะสามารถทุเลาอาการใกล้กันของโรคไมเกรน และก็นอนได้อย่างสนิทขึ้นด้วยค่ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้งาน และสรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละประเภท โดยส่วนใหญ่น้ำมันพื้นฐานที่นิยมเอามาผสมทำน้ำมันนวด ได้แก่ น้ำมันที่ทำจากเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งมีวิตามินอี สูงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง รวมทั้งน้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ และทำลายของเสียที่รังแกเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต ปกป้องการเกิดมะเร็ง นอกนั้นน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ต้องต่อสภาพทางด้านร่างกาย ทั้งยังยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มกระชุ่มกระชวย
โดยทั้งนี้น้ำมันแต่ละจำพวกจะมีคุณลักษณะ รวมทั้งคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นกับการเลือกใช้ให้สมควรตามการใช้แรงงาน