กระทู้ล่าสุดของ: giulp54252

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / พลู ประโยชน์เเละสรรพคุณ เมื่อ: มกราคม 01, 2019, 05:53:20 am

พลู
ชื่อสมุนไพร พลู
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น พลูเหลือง, พลูทอง, พลูจีน (ทั่วไป), เปล้าอ้วน, ซีเก๊ะ , ซีเก๊าะ (ภาคใต้),กื่อเจี่ย (จีนแต้จิ๋ว), จวีเจียง (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Piper betle Linn.
ชื่อสามัญ  Bettle Piper , Bettle leaf vine
วงศ์  PIPERACEAE
ถิ่นกำเนิด
พลู มีบ้านเกิดในเขตร้อนชื้นในแถบเอเชียใต้ดังเช่นอินเดีย ศรีลังกา บังคลาเทศ ฯลฯ (แม้กระนั้นอีกตำราหนึ่งระบุว่าพลูมีต้นกำเนิดมาจากประเทศมาเลเซีย) โดยพบว่าพลูมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ทั้งโลกซึ่งจำนวนมากพบได้มากในประเทศอินเดียกว่า 40 สายพันธุ์ ส่วนในประเทศไทยพลูมักพบในทั่วทุกภาคและก็มีแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญในประเทศคือ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปราจีนบุรี นครนายก จังหวัดนครปฐม จังหวัดกรุงเทพ มหาสารคาม ขอนแก่น และก็นครราชสีมา ซึ่งชอบเป็นการปลูกเพื่อการบริโภคในท้องถิ่น และปลูกเพื่อการค้าขาย และส่งออกเมืองนอกในบางส่วน
ลักษณะทั่วไป
พลูเป็นพืชตระกูลเดียวกับพริกไทย (PIPERACEAE) จัดเป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็งลำต้นเกลี้ยงเป็นปล้อง และก็มีข้อ ขนาดลำต้น 2.5-5 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะอวบน้ำ และก็มีร่องเล็กๆสีน้ำตาลอมแดงตามแนวยาวของลำต้น สันร่องมีสีเขียว โดยลำต้นส่วนปลายจะมีสีเขียว ส่วนลำต้นส่วนต้นจะมีสีเขียวอมเทา โดยมีรากยึดเกาะที่ออกตามขอของลำต้นบางครั้งบางคราวเรียกว่า รากตุ๊กแก แตกออกตามข้อของลำต้นเพื่อยึดเกาะอุปกรณ์สำหรับช่วยประคองลำต้นเลื้อยขึ้นที่สูงได้ และทำให้ลำต้นไม่หลุดร่วงลงสู่พื้นได้ง่าย ใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ออกสลับกัน รูปหัวใจหรือกลมปนรูปไข่กว้าง 8 – 12 ซม. ยาว 12 – 16 ซม. ปลายใบแหลมหรือเรียวแหลม เนื้อใบออกจะเป็นมันสด ใบอ่อนมีสีเหลืองอ่อน แล้วก็ค่อยๆกลายเป็นสีเขียวอ่อน รวมทั้งสีเขียวเข้ม เมื่อแก่สุดกำลังจะมีสีเหลือง มีกลิ่นหอมยวนใจเฉพาะ รสเผ็ด เส้นใบนูนเด่นทางข้างล่าง ก้านใบยาว ดอกพลูมีสีขาว ออกรวมกันเป็นช่อ มีช่อดอกแบ่งเพศกันอยู่คนละต้น ประกอบด้วยช่อดอกตัวเมียแล้วก็ดอกตัวผู้ มีใบประดับประดาดอกขนาดเล็กรูปวงกลม ช่อดอกตัวผู้ยาว 2-12 ซม. ก้านช่อดอกยาว 1.5-3 ซม. ประกอบด้วยเกสรตัวผู้ 2 อัน มีขนาดสั้นมากมาย ส่วนช่อดอกตัวเมียมีความยาวพอๆกับช่อดอกตัวผู้ แต่มีก้านช่อดอกยาวกว่า ดอกมักบานไม่พร้อมกัน ก็เลยทำให้ไม่ค่อยพบเจอผลของพลู เนื่องจากว่าได้โอกาสผสมเกสรน้อย ผลของพลูมีลักษณะอัดแน่นที่เกิดขึ้นมาจากดอกในช่อดอก ผลของพลูมีลักษณะค่อนข้างนุ่ม ข้างในประกอบด้วย 1 เม็ด โดยเมล็ดมีลักษณะกลม ปริมาณยาวประมาณ 2.25-2.6 มม. กว้างประมาณ 2 มิลลิเมตร
การขยายพันธุ์
พลูสามารถปลูก และแพร่พันธุ์ใหม่ด้วยการปักชำกิ่ง เหมือนกันกับพืชเชื้อสายพริกไทยอื่นๆ โดยใช้กิ่งหรือลำต้นที่มีข้อราว 3-5 ข้อ ปักชำในแปลงปักชำหรือถุงปักชำเมื่อกิ่งปักชำติดและก็หลังจากนั้นจึงค่อยย้ายลงปลูกภายในแปลงปลูก แล้วจึงทำค้างให้พลูเลื้อยพันขึ้น ซึ่งพลูจะสามารถเติบโตได้ดิบได้ดีในภาวะของดินร่วนที่มีอินทรียวัตถุมาก มีความเป็นกรดบางส่วน (pH 6- 6.7) พื้นที่การระบายเจริญมีค่าความชุ่มชื้นสมาคมราว 70-80%
ส่วนประกอบทางเคมี
ใบพลู มีน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีสาระสำคัญต่างๆได้แก่ chavicol, chavibetol, eugenol , estragole methlyeugnol และก็ hydroxycatechol สารกรุ๊ปโมโนเทอร์ปีนส์ ตัวอย่างเช่น 1,8-cineol, carvacrol, camphene, limonene สารกลุ่มเซสควีเทอร์ไต่ส์ อย่างเช่น cadinene, caryophyllene นอกเหนือจากนี้ยังมีสารอื่นๆอีก ได้แก่ β-carotene, β-sitosterol, stigmasterol และในส่วนของต่างๆของพลูสดยังเจอสาร Fluoride , tectrochrysin, adunctin A, yangonin, fargesin, pluviatilol, sesamin
ที่มา : wikipedia
นอกจากนี้เมื่อนำใบพลูสดมาวิเคราะห์ค่าทางของกินพบว่า มีส่วนประกอบต่างๆดังนี้
ค่าทางโภชนาการในใบพลูสด (100 กรัม)
Water (น้ำ) 85 – 90%
Protein (โปรตีน) 3 – 3.5%
Fat (ไขมัน) 2.3 – 3.3%
Minerals (เกลือแร่) 0.4 – 1.0%
Fiber (ใยอาหาร) 2.3%
Chlorophyll (คลอโรฟีล) 0.01 – 0.25%
Carbohydrate (ติดอยู่รโปรไฮเดรต) 0.5 – 6.10%
Nicotinic acid (วิตามืน บี 3) 0.63 – 0.89 มิลลิกรัม/100 ก.
Vitamin C (วิตามิน ซี) 0.005 – 1.01%
Vitamin A (วิตามิน เอ) 1.9 – 2.9 มก./100 ก.
Thiamine (วิตามิน บี1) 10 – 70 มคกรัม/100 ก.
Riboflavin (วิตามิน บี2) 1.9 – 30 มคก./100 ก.
Tannin (แทนนิน) 0.1 – 1.3%
Nitrogen (ไนโตรเจน) 2.0 – 7.0%
Phosphorus (ธาตุฟอสฟอรัส) 0.05 – 0.6%
Potassium (โพแคสเซียม) 1.1 – 4.6%
Calcium (แคลเซียม) 0.2 – 0.5%
Iron (เหล็ก) 0.005 – 0.007%
Essential oil (น้ำมันหอมระเหย) 3.4 มดก./100 กรัม
Energy (พลังงาน) 44 กิโลแคลอรี่/100 ก.
คุณประโยชน์/สรรพคุณ
ใบพลูกับคนประเทศไทยนับว่ามีความผูกพันกันมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วโดยคนภายในสมัยก่อนมั่นใจว่าใบพลูรับประทานกับหมาก แล้วก็ปูนแดง จะช่วยให้เหงือกแล้วก็ฟันแข็งแรง ช่วยกำจัดกลิ่นปาก และก็ในหนังสือเรียนยาไทยที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ จะใช้ใบสดรับประทานเป็นยาขับลม แก้เจ็บท้อง ฝาดสมาน ขับเสลด เป็นยากระตุ้นน้ำลาย ขับเหงื่อ แก้เจ็บท้อง(ที่มีอาการเย็นบริเวณท้อง) เจ็บท้อง ด้วยเหตุว่าพยาธิ ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ และก็ยังชื่อว่ารักษาอาการช้ำบวม รักษาลักษณะของการปวดท้อง รักษาอาการไอเจ็บคอ รักษาอาการผื่นคันอันเนื่องมาจากเกิดลมพิษ รักษาโรคผิวหนัง รักษาโรคกลาเกลื้อน แผลอักเสบฝีหนองและก็สิว นอกเหนือจากนี้ยังใช้น้ำคั้นจากใบสดเป็นยาถ่ายพยาธิ ยาระบาย แก้ท้องผูก ขับเสลด ลดไข้แก้ปวดศีรษะ ขับลมในกระเพาะอาหาร ทำให้ลมหายใจหอมสดชื่น
นอกจากนี้จากการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยยังระบุถึงสรรพคุณของพลูว่าใช้รักษาแผลรวมทั้งใช้ป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ แล้วก็นอกนั้นยังพบว่าในน้ำพลูมีสารeugenol และก็ chavicol ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาชาและก็ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
ต้นแบบ/ขนาดวิธีใช้
ใช้ใบสด 3-5 กรัม ต้มน้ำกินสำหรับแก้อาการปวดท้อง แก้ลมพิษ ให้ใช้ใบสดตำผสมสุราทาบริเวณที่เป็น ใช้เคี้ยวแล้วคายทิ้งวันละ 2-3 ครั้งช่วยกำจัดกลิ่นปาก แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อและบำรุงกระเพาหาร ใช้ใบสดโขลกให้ถี่ถ้วนคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำร้อนหนึ่งแก้วใช้ดื่ม ลดปวดบวม ใช้ใบพลู ใบใหญ่ๆนำไปอังไฟให้ร้อนใช้ไปประคบรอบๆที่ปวดบวมช้ำ รักษากลากแล้วก็ฮ่องกงฟุต เอาใบสดตำอย่างละเอียดดองกับเหล้าขาวทิ้งไว้ 15 วัน แล้วกรองเอาแต่น้ำใช้ทาบริเวณที่เป็น
การเรียนทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย (Antibacterial activity) จากการศึกษาเล่าเรียนฤทธิ์การยับยั้งแบคทีเรียของสารสกัดจากใบพลูที่สกัดด้วยน้ำ พบว่ามีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อ Streptococcus mutans โดยพบว่าที่ความเข้มข้น 1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ของสารสกัดจากใบพลูส่งผลทำให้เซลล์แตก นอกจากเชื้อดังที่พูดมาแล้วข้างต้นแล้ว มีการศึกษาเกี่ยวกัพลู[/url]ว่าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์กว้างขวางสำหรับเพื่อการยั้งการเจริญก้าวหน้าของเชื้อได้หลายอย่าง เป็นต้นว่า Ralstonia sp., Xanthomonas sp. และก็ Erwinia sp., เป็นต้น โดยส่วนประกอบหลักที่พบในสารสกัดจากใบพลูที่สกัดด้วยน้ำคือ hydroxychavicol, fatty acid รวมทั้งhydroxybenzenacetic acid และก็ยังพบว่าสารสกัดใบพลูที่สกัดด้วยเมทานอลมีฤทธิ์ยั้งการเติบโตของเชื้อ S, aureus, B. cereus, K. pneumonia รวมทั้ง E. coli
ฤทธิ์สำหรับในการยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา (Antifungal activity) มีการศึกษาพบว่าสารสกัดด้วยเอทานอลจากใบพลูมีความรู้สำหรับการยับยั้งการเติบโตของเชื้อราได้หลายประเภทดังเช่นว่า Colletotrichum capsici, Fusarium pallidoroseum, Botryodiplodia theobromae, Altemaria altemate, Penicilium citrinum, Phomopsis caricae-papayae รวมทั้งAspergillus niger ซึ่งทดลองโดยใช้วิธี disc diffusion method พบว่าสารสกัดใบพลูจากเอทานอลมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ดีมากว่าprochloraz 2.5 มิลลิกรัม/มล. หรือ clorimazole 10 มิลลิกรัมมลยิ่งไปกว่านั้นมีการเรียนเพื่อปรับปรุงครีมพลูเพื่อใช้ในการรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ที่สามารถติดต่อสู่กันระหว่างคนรวมทั้งสัตว์โดยเตรียมครีมพลูที่ประกอบด้วย สารสกัดพลูจากเอทานอล10 % เปรียบเทียบกับยามาตรฐาน ketoconazole cream 20% ด้วยแนวทาง disc diffusion method ผลการค้นคว้าพบว่าให้ค่าการหยุดยั้งการเติบโตของเชื้อรา microsporum canis, microporum gypreum รวมทั้ง Trichophyton mentagrophyte ใกล้เคียงกับ ketosporum canis, microsporum gypreum และก็ trichophyton mentagrophyte ใกล้เคียงกับ ketoconazole cream เมื่อทำการอ่านผลที่ 96 ชั่วโมงแต่ว่าความสามารถของครีมพลูเริ่มลดลงภายหลังจาก 96 ชั่วโมง รวมทั้งหมดไปในวันที่ 7 ของการทดลอง
ฤทธิ์การต้านอักเสบ (Anti-inflammatory activity) การเรียนรู้เกี่ยวกับฤทธิ์ต้านทานการอักเสบจากสารสกัดที่ได้จากพลูพบว่าสารสกัดจากใบพลูอบแห้งคราวสกัดด้วยเอทานอล 95% มีสาระสำคัญที่มีฤทธิ์ต้านทานการอับเสบ คือ allylpyrocatechol โดยมีการเรียนรู้ในหนู Sprague Dawley rat เพศผู้มีขนาดน้ำหนักตัว 100 – 120 ก. ผลจาการทดลองพบว่าการฉีด allypyrocatechol ขนาด10 มก./กก. เข้าใต้ผิวหนังรอบๆ sub-plantar มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานการอักเสบที่เกิดขึ้นในหนูโดย allylpyrocaate-chol จะลดการแสดงออกของ mRNA ของ inducible nitric oxide synthase (iNOS), cyclooxygenase-2 (COX-2), interleukin-12p40 (IL-12p40) แล้วก็ tumor necrosing factoralpha (TNF-α) ซึ่ง allylpyocatachol จะป้องกันการทำลาย kappa B inhibitor (IKB) มีผลยั้งหลักการทำงานของ transcription ขึ้น ทำให้มีการกระตุ้นแนวทางการทำงานของ macrophage น้อยลง ทำให้เกิดการอักเสบต่ำลง
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Free radlcal scavenging activity) การศึกษาเล่าเรียนผลของสารสกัดใบพลูด้วยเอทานอลต่อการต้านอนุมูลอิสระในหนู Swiss albino mice โดยศึกษาเล่าเรียนถึงต้นเหตุต่างๆที่มีผลต่อการเกิดอนุมูลอิสระผลจาการเล่าเรียนพบว่าสารสกัดจากใบพลูมีผลในการยับยั้งการเกิดแนวทางการ lipid peroxidation ที่เกิดขึ้นจากการกระตุ้นด้วยรังสีแกมมา รวมทั้งนอกนั้นพบว่าเมื่อทำการป้อนสารสกัดพลูในขนาด 1,5 รวมทั้ง 10 มิลลิกรัม/กก. ให้หนูกินทุกๆวันต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 อาทิตย์จากนั้นจึงนำตับของหนูมาพินิจพิจารณาพบว่าไม่มีการเปลี่ยนระดับของ lipid peroxidation แล้วก็ยังพบว่าสารสกัดจากใบพลูมีผลทำให้จำนวนของ glutathione เพิ่มขึ้น ซึ่งglutathione มีส่วนสำคัญในขั้นตอน detoxification โดยจะไปกระทำควบคุมรวมทั้งรักษาระดับของปฏิกิริยา redox รวมทั้ง thiol homeostasis ในตับ ซึ่งมีผลสำหรับเพื่อการควบคุมการเกิดปฏิกิริยาcellular oxidative แล้วก็ยังพบว่าสารสกัดใบพลูมีผลสำหรับในการทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นลักษณะการทำงานของเอนไซน์ superoxide dismutase (SOD) แต่ว่าตรงกันข้ามพบว่า รูปแบบการทำงานของเอนไซน์ catalase ลดลงนอกจากการเรียนสาเหตุดังที่ได้กล่าวมาแล้วแล้ว ยังมีการเรียนรู้เกี่ยวกับสภาวะเครียดของสัตว์ทดลองที่เกิดภายหลังการให้สารสกัดจากใบพลู โดยศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับ glyoxalase system (Gly l และ Gly ll) ซึ่งเป็นตัวบอกถึงสภาวะเครียดของหนู ซึ่งจากการทดลองพบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับ Gly l และ Gly ll) ภายหลังจากการให้สารสกัดใบพลูกับหนู
ฤทธิ์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน (lmmunomodulating Activity) การเรียนผลของสารสกัดพลูด้วยเอทานอลต่อการสร้าง histamine และ granulocyte macrophage colony stimulating factor (GM-CSF) จาก bone marrow mast cells ของหนูแรท (murine rat) รวมทั้งการหลั่งของ eotaxin และก็ IL-8 โดย human lung epithelial cell line (BEAS-2B) ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสารสกัดพลูด้วยเอทานอล มีผลลดการหลั่ง histamine และ GM-CSF ซึ่งมีต้นเหตุมาจากการกระตุ้นของ lgE ที่เกิดขึ้นในปฏิกิริยาhypersensitive อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งสารสกัดพลูจากเอทานอลยังมีผลในการยับยั้งการหลั่ง eotaxin และก็ IL-8 ซึ่งมาจากจากการกระตุ้นของ TNF-α รวมทั้ง IL-4 ในปฏิกิริยา allergic reaction นอกนั้นยังพบว่าน้ำมันหอมระเหยจากพลูส่งผลต่อการกระบวนการ phagocytosis ของ macrocytes ในหนูถีบจักร และก็น้ำมันหอมระเหยจากพลูยังส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณของlymphocytes จากม้าม ไขกระดูก และต่อม thymus ในหนูถีบจักรด้วย
การเรียนรู้ทางพิษวิทยา
การทดสอบความเป็นพิษ (Toxicity test) ขนาดของสารสกัดพลูที่ป้อนให้หนูถีบจักรกินแล้วตายกึ่งหนึ่ง (LD50) มีค่าเท่ากับ 3.22 ก./กิโลกรัม หนูที่ได้รับสารสกัดต่ำลงยิ่งกว่า 2 ก./กิโลกรัม มีลักษณะซึมแล้วก็หลับ ไม่เป็นผลต่อการหายใจรวมทั้งกลับกลายธรรมดาได้ ถ้าเกิดได้รับสารสกัดมากกว่า 2.5 กรัม/กก. พบว่าหนูมีอาการซึมแล้วก็หลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีลักษณะอาการเหน็ดเหนื่อย หลังจากนั้นมีอาการซึมและตายด้วยเหตุว่าหายใจไม่ออก และก็นอกนั้นยังพบว่า chavicol แล้วก็ chavibetol เป็นสารในใบพลู ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ phenol เป็นพิษกับเซลล์สร้างเม็ดสี (melanocyte) ก่อให้เกิด hypopigmentation ในส่วนของ basal cell layeres ของผิวหนังชั้นกำพร้า
ทดลองความเป็นพิษเมื่อเปล่งแสง (Phototoxicity) ของขี้ผึ้งพลู4% ซึ่งทำจากสารสกัดใบพลูด้วยอีเทอร์ใน modified polyethylene glycol ointment ต่อผิวหนังหนูตะเภา ไม่พบผื่นแดง หรืออาการเคืองอะไรก็แล้วแต่ทั้งยังก่อนฉายและก็หลังส่องแสงอุลยี่ห้อไวโอเล็ต ในเวลาที่ยาตระเตรียมขึ้ผึ้งใบพลูที่ใช้ base เป็น hydrophilic petrolatum จะเป็นพิษต่อผิวหนังหนูตะเภา โดยมีสีแดงกระจ่างแจ้ง
ก่อกลายพันธุ์ สารสกัดอะซีโตนรวมทั้งสารสกัดน้ำจากใบ ความเข้มข้น 200 ไมโครกรัม/เพลท ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ต่อเชื้อ Salmonella typhimurium TA98, TA100 ,TA1535, TA1537 และก็ TA1538 สารสกัดคลอโรฟอร์ม สารสกัด 50% เอทานอล สารสกัด 95% เอทานอล และก็สารสกัดน้ำจากใบ ความเข้มข้น1.41 37.5 50 และก็ 153.8 มก./ เพลท ตามลำดับไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ ต่อเชื้อ S.typhimurium TA98, TA100
พิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำจากช่อดอก ความเข้มข้น 800 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร เป็นพิษอย่างอ่อนต่อเซลล์ oralmucosal fibroblasts แล้วก็สารสกัดเดียวกันนี้เป็นพิษอย่างอ่อนต่อเซลล์ gingival keratinocytes สารสกัด 95% เอทานอลจากใบ ความเข้มข้น20 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร เป็นพิษอย่างอ่อนต่อเซลล์ 9KB
พิษต่อยีน สารสกัดน้ำจากช่อดอก เป็นพิษต่อยีนเมื่อทดสอบในเซลล์ oral mucosal fibroblasts รวมทั้งเซลล์ gingival keratinocytes สาร hydroxychavicol จากช่อดอกเป็นพิษต่อยีน ทำให้โครโมโซมของเซลล์ Chinese hamster ovary (CHO-K1) แบ่งตัวแตกต่างจากปรกติ
เมื่อให้สารสกัดน้ำจากใบพลูร่วมกับสารสกัดน้ำจากหมากแล้วก็ยาสูบ ขนาด9.4 กรัม/กก. แก่หนูถีบจักรเป็นเวลา 10 เดือน พบว่าทำให้โครโมโซมของเซลล์ไขกระดูกของหนูเปลี่ยนแปลงแล้วก็มีการแบ่งตัวไม่ดีเหมือนปกติ
ฤทธิ์ต่อระบบขยายพันธุ์ สารสกัด 95% เอทานอลจากก้านใบขนาด 30 มิลลิกรัม/กก. ส่งผลคุมกำเนิดในหนูขาวทั้งยัง 2 เพศ ให้หนูถีบจักรเพศผู้กินสารสกัด 95% เอทานอลจากใบแล้วก็ลำต้นขนาด 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ใน 30 วันแรก และก็ขนาด 1000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ใน 30 คราวหลัง พบว่าสามารถคุมกำเนิดได้โดยลดการปฏิสนธิ (ferility) ได้ถึง 0% ขณะที่สารสกัด 95% เอทานอล สารสกัดน้ำรวมทั้งสารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์จากใบและก็ราก (ไม่ระบุขนาดที่ใช้) ไม่มีผลต่อการคุมกำเนิดในหนูถีบจักรและไม่ส่งผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อนที่มดลูกในหนูขาวที่ได้รับสารสกัดนี้ใบรวมทั้งรากแห้งไม่เจาะจงสารสกัดและก็ขนาดที่ใช้ ก็ไม่มีผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อนเช่นกัน เมื่อให้โดยการฉีดเข้าทางท้องของหนูขาว
ฤทธิ์ก่อเกิดมะเร็ง นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้ในชายที่เคี้ยวหมากในประเทศไต้หวัด โดยเรียนรู้ในคนเจ็บที่เป็นมะเร็งหลอดของกินระยะเริ่มต้น (esophageal squamous-cell-carcinoma) จำนวน 126 ราย โดย 65 ราย เป็นผู้เจ็บป่วยที่มีประวัติว่าบดหมาก รวมทั้ง 61 ราย ในนั้นเป็นผู้ป่วยที่บดหมากกับดอกพลู (Piper betle infloesence) รวมทั้ง 4 ราย เคี้ยวหมากกับดอกและใบพลู (Piper betle inflorecence and betel leaf) พบว่าเพศชายที่บดหมาก มีโอกาสที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้สูงยิ่งกว่าคนที่ไม่ได้บดหาก 4 เท่า และจากการเรียนเพิ่มเติบพบว่า ผู้ที่เคี้ยวหมากกับดอกพลูมีแนวโน้มเสี่ยงเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้มากกว่าคนที่บดหมากกับใบรวมทั้งดอกพลู หรือบดหมากกับใบรวมทั้งดอกพลู หรือบดหมากกับใบพลูสิ่งเดียวถึง 24 เท่า(ไม่เจอผลต่างกันอย่างเป็นจริงเป็นจังในผู้ที่เคี้ยวหมากกับใบและก็ดอกพลู หรือเคี้ยวหมากกับใบพลูอย่างเดียว) ซึ่งผลจากการทดสอบในครั้งนี้คาดว่าในดอกของพลูมีสารที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดมะเร็ง (carcinogens) แล้วก็ในใบพลูมีสารต้านโรคมะเร็ง (anticarcinogenic)
ข้อเสนอ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง
1. การเก็บใบพลู มาใช้ควรจะเก็บเวลาสาย ด้วยเหตุว่าเป็นตอนๆที่ใบมีการสังเคราะห์ด้วยแสงบริบูรณ์ โดยเลือกเก็บเฉพาะใบที่มีสีเขียวเข้ม ไม่ควรเก็บใบอ่อนบริเวณยอดหรือเก็บใบแก่ที่เหลืองแล้ว ด้วยเหตุว่าใบกลุ่มนี้จะมีสารเคมี หรือน้ำมันหอมระเหยน้อย
2. ในผู้ที่แพ้ยางของพืชจำพวก ชะพลู พริกไทย ควรรอบคอบไม่ให้โดนยางของพลูด้วยเหมือนกันเพราะเป็นพืชในวงศ์เดียวกันอาจจะส่งผลให้เกิดการแพ้ได้
3. การใช้พลูในแบบอย่างสมุนไพรเพื่อการดูแลและรักษาโรคควรที่จะใช้ในขนาดรวมทั้งปริมาณที่เหมาะเจาะไม่ใช้มากมายหรือใช้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน
4. สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว สตรีท้อง หรือสตรีให้นมลูก ควรจะหารือแพทย์รวมทั้งผู้ที่มีความชำนาญก่อนใช้
เอกสารอ้างอิง

  • กานต์ วงศาริยะ , มัลลิกา ชมนาวัง , พลูกับคุณประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ , จุลาสารข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. ปีที่ 26 ฉบับที่ 3 . เมษายน 2552.หน้า 3-10
  • ผกากรอง ขวัญข้าว.พืชใกล้ตัว.อภัยภูเบศรสาร,2549.ปีที่4,หน้า1
  • อรัญญา และ จรีเดช มโนสร้อย.น้ำมันหอยระเหยและสารสกัดจากสมุนไพรไทย การใช้ทางยาและเครื่องสำอาง.2548,คอกข้าง:เชียงใหม่.หน้า 146-17.https://www.disthai.com/[/color]
  • อริญญา ศรีบุศราคัม.พลู กับโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา.จุลสารข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่20.ฉบับที่3.เมษายน2546.หน้า4-8
  • จุฑามณี จารุจินดา จงจิตร อังคทะวานิช ลิ้นจี่ หวังวีระ และคณะ,บรรณาธิการ.ความก้าวหน้าของยาที่ใช้ในระบบทางเดินอาหาร.กรุงเทพฯ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล,2532:271 หน้า.
  • นันทวัน บุณยะประภัศร อรนุช โชคชัยเจริญพร.บรรณธิการ.สมุนไพรไม้พื้นบ้านเล่ม 1 กรุงเทพ:บริษัท ประชาชน จำกัด 2541
  • ผศ.สุนทรี วิทยานารถไพศาล.เลื่อยและพลู.คอลัมน์อื่นๆ นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่40.สิงหาคม.2525
  • พลู ใบพลู ประโยชน์และสรรพคุณพลู.พืชเกษตรดอทคอมเว็บเพื่อพิชเกษตรไทย(ออนไลน์).Choudhary, D.ang R.K. Kale, Antioxidant and non-toxic properties of Piper betle leaf extract: in vitro and in vivo studies. Phytother Res, 2002. 16(5):p. 461-6.
  • Mohamed, S., et al., Antimycotic screening of 58 Malaysia against pathogens. Pesticds science, 1996. 47(3):p.259-264.
  • Guha, P.,Betel Leaf: Negalected Green Gold of lndia. J. Hum. Ecol., 2006. 19(2):p.87-93.
  • Best R, Lewis DA, Nasser N. The anti-ulcerogenic activity of the unripe plantain banana (Musa species). Brit J Pharmacol 1984;82(1):107-16.
  • Ghosal S, Saini KS. Sitoindosides l and ll, two new anti-ulcerogenic sterylacylgucosides from Musa paradisiaca. J Chem Res(s) 1984;4:110
  • Nopamart, T., C. Arinee, and K. Watcharee, An invitro evaluation of Piper betle skin cream as anti-zoonotic dermatophytes. The proceeding of 42th Kasetsart  University  annual conference 2004:p.441-448.
  • Pannangpetch P, Vuttivirojana A, Kularbkaew C, et al. The antiulcerative effect of Thai musa species in rats. Phyther res 2001;15(5):407-10.
  • Sengupta, A., et al., Pre-clinical toxicity evaluation of leaf-stalk extractive of Piper betle Linn in rodents. Lndian J Exp Biol,2000. 38(4): p.338-42.
  • Lirio, L.G.,M.L. Hermana, and M.Q. Fontonilla, Note Antibacterial Activity of Medicinal Plants from the Philippines Pharmaceutical Biology, 1998.36(5): p.357-359.
  • Gruenwald J, Brendler T, Jaenicke C, et al (eds.)PDF for herbal for herbal medicines (2 nd Edition) New Jersey:Medical Economic Company,2000:858pp
  • Wu, M.T., et al., Constituents of areca chewing related to esophageal cancer risk in Taiwanese men. Dis Esophagus, 2004. 17(3):p.257-9.
  • Dompmartin A, Szczurko C, Michel M, et al. Two cases of urticaia following fruit ingestion, with cross-sensitivity to latex Contact Dermat 1994;30(4):250-2.
2  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ราชพฤกษ์ ผักชี สรรพคุณดียังไง เพราะเหตุใด เมื่อ: ธันวาคม 16, 2018, 03:58:24 pm

ราชพฤกษ์ ผักชี คุณประโยชน์ดีอย่างไร เพราะอะไรคนประเทศญี่ปุ่นถึงฮิตกินผักชีหนักมากมาย มาทำความรู้จักคุrthณyukประโrtยช์จาราชพฤกษ์[/url]ผักชี ผัioulwguilๆกลิ่นและแhrtภท|hrจำthGRtyjEhrtพวก}นี้เข้าอย่างจัRErtuiulhthrtง ทั้งที่สรรพคุณของผักชีrthได้ว่าดีตั้งแต่รากจนถึงใบ เluiluพราERGGHะฉะนั้นถัดiuluilไปถ้าเจอผักชีอยู่uilในจtyานirthjtytuiluiอาหารก็อย่ghtrjtyuilาเพิ่งจะiluเขี่ยทิ้uiงนะคะ {เพjytmyukkyราะ|เพuilราะว่jtyผักชีให้อายtyjtyyukคนyukปiulระเทศญี่ปุ่yukนuykjyukil;uiulปเพuiluiราะเหeตุใดluierกันล่ะเนอะผักชีผักชี สtyjtyjมุนไhrพรมีดีที่อยากให้รู้จัก ผักชี หรือภาษyukาอังกฤษว่yukา yukCoriander เป็jkyukykนไม้ล้มลุกที่jtyมีสีเjtyยวyukตลอดทั้งต้ykuน เว้นเสียแต่ yukแล้yukวก็รักษาโรคริดสีดวงทวาร   - รากผักชี ใช้เป็นน้ำกระสายยา ช่วยyukyukyuขับพิษไข้หัว ไข้อีดำอีแดkyuง รักษาหิด และก็อีkukyukสุกอีใสผักlชีวิธีแล้วก็ปริมาณที่uilใช้ผักชีเป็นยา ใช้ต้นผักชีแห้ง 1uilui0-15 กรัม หรือต้นสด 60-150 กรัม มาต้ehttมเอาน้ำyukมาดื่ม hrหรือคั้นน้ำผักชีมาดื่ม ถ้าหากใช้ภายนอกให้เอาน้ำสุกiulผักชีมาuilชำระล้าง หรือนำผักชีต้มมาตำและพอกให้ทั่ว หรือถ้าจะใช้เม็kjtดผักชีแก้ปวดykrlkjฟัน iulกษาแผลในuilปาก ใuiluiห้นำเมล็ดliulผักชีต้มน้ำ แล้วเอาน้ำผักชีมiulาบ้วนปากบ่อยๆ

Tags : ราชพฤกษ์
3  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ขิง ใบสายหยุดเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แตกใบออกเป็นใบ เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2018, 03:13:45 am

ขิง ใบสายหยุดเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แตกใบออกเป็นใบโดดเดี่ยวเยื้องสลับกันบนส่วนปลายของกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบกว้าง ปลายใบแหลม มีก้านใบสั้น แผ่นใบเรียบ ขอบของใบโค้งเป็นเกลียวคลื่น ใบอ่อนมีสีเขียวอ่อน เมื่อrtjhtyjytkjtyjytkutkอายุมากมีสีเขียวเข้ม แลyukะเป็นเงา ขิงขนาดใบกว้าง 5-7 ซม. ยาว 10-15yuk เtywsgjtyซนติเมตร แผ่นใบมีเส้นกึ่งกลางใบแจ้งชัดkyu kมีเส้yukนใบhkuyukแขนงแhยrกสลับerhกันออกด้านข้าง 5yuk-10 คู่ rthยู่กับrthความยาวของใบ ดังนี้ ใบสายหยุrtyykhดจะเขียวyukดกตhyjyukลอดทั้งปีดอกดอกสายหยุด เป็นดehอrกjkจำพวกลำพัง io;แทงออกตามซอกใบ ประกอบด้วยก้านดอกสีเขีjtyว ยาวประมาณty-5 เซนติเมตรyuktyถัดมrthrา|ต่rhอมา}เป็tyjนตัวดอกที่yujyมีกลีtyjบเลี้ยงรูปหอก 3 อัน ขkyuนาดเสมอกัน รวมทั้rtเรียukyuงห่าhrtงกันเป็นสามthrเหลี่ยมr ถัดhtyมrtาเป็นฐjtyjานดอกที่มีกลีบดอกไม้ 2 ชั้rgน ชั้นrhtrhละ 3 กลีบ โดrtยกลีบดอกชั้นนอกเป็egerนแผ่ykนกลีgerบบางกว้าง แลergะยาวกว่ากลีบชั้นใน ความยาวjราว 5-10 ytซนติเมตร กว้างโดยประมาณ 1.2-2 jtyเซนติเมตร jtแผ่นกลีบyjและ|และก็|แล้วก็|รtjyukวมทั้ง}ขอบtyกลีบดอกดอกเรียบ และyผ่ytjนกtrลีบดอกแreลเrtห็นเส้นกลีบrthชัดแจ้ง โดยกลีบเมื่อบergานเต็มกำลังจdrhะส่วนปลายกลีบrthโค้งงอเข้าหาh|ภายใrละก็|แล้วก็|รวมทั้ง}มีรังไข่มากไม่น้อยเลยทีเดียว 15-30 อัน แต่ละอันhrมีที่yuktไข่อ่อน 1-7 อัน ซึ่งส่วนนี้จะเจริญก้าวหน้าyukyukสำเร็จที่มีลักyukษณะได้ผลย่อยเรียงชิดกันดอกสายหยุดจะเริ่มบานในขิงรวมทั้งoiบานได้นานนับเป็olนเวลาหลายวันoกว่าที่กลีบจะร่วง ซึ่งขณะกลีบyukkดอกไม้บานrthukyutจhะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆโดยยิ่งไปกว่าyukนั้นช่วงเวลาเช้าจะมีกลิ่นหอมยวนใจสูงที่สุด แล้วก็กลิ่นจะค่อยอ่อนลงเมื่ออากาศร้อนขึ้นดังนี้ ดอกจะบานต่อเนื่องตลอดในฤดูrthฝนดอกสายหยุดผล แrtละก็เyukม็ดhผลสายหยุดมีรูปร่างแปลกตาที่ไyjytม่tyjเหมือนผลของอื่นๆเป็น ผลออกเป็นช่อที่มีผลย่อยอยู่บนก้านผkykหลักเดียวtrhกัน ขิงและก็แต่ละผลจะkyuมีผลย่อยเรียงชิดกัน เป็น ผลมีลักษณะเป็นคอคอดเว้าเป็นระยะๆjtyj2-6 ตอน นั่ehนก็คือผลผลที่ติดเรียงกันเulถอดๆโดยในyuแต่ละช่อผลuiจะมีผล{ประมาณ|ราว|ราวๆ|โดยประมาณuil1u0-30 ผล แต่iะผลจะส่งผluลย่อยเรียงชิดกัน 2-7 ผล หรืออาจมีเพียงแต่ผลเyjtดียว รวมทั้งผลย่อยแต่ytละผลจะมีเมล็jytด 1 เม็ด ฉะนั้นtyขิง ข้างใน 1 ช่อผล จะส่งผลได้มากถึง 210 ผล
4  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรบัวบก จากที่เคยทานอาหารไทย เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2018, 02:57:58 pm

สมุนไพรบัวบก จากที่เคยรับประทานอาหารไทยเมนูกะหล่ำปลีต้มจืด หรือผัดกะหล่ำปลีหมูบด ถึงแม้เป็นรายการอาหารง่ายๆแต่รับประทานหลายครั้งก็เอียน ลองเปลี่ยนแปลงไอเดียมาทำรายการอาหารกะหล่ำปลีสมุนไพรบัวบกไม่น่าเบื่อกันบ้างดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 12 รายการอาหารกะหล่ำปลี เช่น ไข่ตุ๋นกะหล่ำปลี กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เครปกะหล่ำปลีห่อหมู กระบวนการทำไม่ยาก ใครๆก็ทำเป็นแน่ๆแรงรายการอาหารกะหล่ำปลี1. ไข่ตุ๋นกะหล่ำปลี  ว้าว ! อยากกรี๊ดดังไปถึงปากซอยกับรายการอาหารไข่ต้มกะหล่ำปลี สูตรจาก เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน จับไข่ตุ๋นอยู่ในลูกกะหล่ำปลี จะใส่เนื้อสัตว์ลงไปด้วยก็ได้นะคะ ส่วนประกอบ ไข่ต้มกะหล่ำปลี  • กะหล่ำปลี 1 หัว  • ไข่ไก่ หรือไข่เป็ด (เบอร์ 0) ปริมาณ 2 ฟอง • น้ำซุป 5 ช้อนโต๊ะ • น้ำปลา 1สมุนไพรบัวบก ช้อนชา • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา• แครอท หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ(ใส่ไหมใส่ก็ได้) • พริกไทย (ใส่ไหมใส่ก็ได้) ขั้นตอนการทำไข่ต้มกะหล่ำปลี• 1. แหวกกะหล่ำปลีให้เป็นช่องกึ่งกลางสำหรับใส่ไข่ลงไป กะมองว่าปริมาณไข่ที่จะใส่พอดิบพอดีหรือไม่ • 2. ตอกไข่ใส่จานชามแล้วตีให้ขึ้นฟู ใส่น้ำซุป น้ำปลา ซีอิ๊วขาว แล้วก็พริกไทยลงไป ตีให้เหมาะ ใส่แครอท นำไปหยอดใส่ลงในกะหล่ำปลีที่เจาะไว้• 3. นำไปนึ่งตราบจนกระทั่งไข่จะสุก โดยให้ใช้ส้อมกดลงไปดู ถ้าไม่มีน้ำไข่ดิบไหลออกมา สรุปว่าใช้ได้ ปิดไฟ ยกลง โรยหน้าด้วยต้นหอมตรอก พร้อมเสิร์ฟ    หมายเหตุ : การเลือกกะหล่ำปลี ควรที่จะเลือกหัวที่ค่อนข้างแน่น เวลาทำกะหล่ำปลีจะต้องเหลือเปลือกกะหล่ำปลีให้ดก หากเหลือน้อยๆมีดโดนกะหล่ำปลีทะลุก็จะรั่วได้ ตัดก้านออกก่อนเจาะแล้วก็เจาะด้านโคน ดูขั้นตอนการทำเพิ่มเติมพอดี 20 สูตรของกินทำง่ายๆสมุนไพรบัวบกทั้งคาวหวาน ละลานตา น่าอร่อยสุดๆ2. กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา  มองเห็นหลายคนลือถึงความอร่อยของกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา แบบงี้ขอทดลองสักมื้อ ส่วนผสมมีเพียงแค่กะหล่ำปลี กระเทียม รวมทั้งน้ำปลา ลงทุนน้อยขนาดนี้แม้กระนั้นอิ่มไปอีกมื้อ พลาดไปเสียดายห่วยส่วนผสม กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา• กะหล่ำปลี 1 หัว • กระเทียม 2 หัว • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ • น้ำมันพืชกน้อย (สำหรับผัด)วิธีทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา • 1. หั่นกะหล่ำปลีเป็นชิ้นเล็กๆแล้วดึงแยกออกจากกัน นำไปล้างให้สะอาด จัดเตรียมไว้• 2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟแรง พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวจนหอม • 3. ใส่กะหล่ำปลีลงไปในกระทะ (ยังไม่ต้องผัด) ให้ทิ้งไว้ 10 วินาทีก่อน สมุนไพรบัวบกจากนั้นเบาๆผัดให้กะหล่ำปลีโดนความร้อนทั่วๆแม้กระนั้นยังไม่ต้องสุกมาก• 4. ราดน้ำปลาลงไปบริเวณขอบกระทะ (ยังไม่ต้องผัด) คอยจนถึงมีกลิ่นน้ำปลาหอมๆลอยขึ้นมาก่อน แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยผัดให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกัน เพียงพอผัดจนกะหล่ำปลีสุกแล้ว ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
5  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ทับทิม ผักฟุ้งกระจาย มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า สลิด เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2018, 06:11:00 am

ทับทิม ผักแผ่กว้าง มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า สลิด แพร่ (ภาคกึ่งกลาง), ผักสลิด (นครราชสีมา), กะจอน, ขะจอน, สลิดป่า, ผักสลิดคาเลา, ผักขิกyuk ฯลฯรูปแบบของทับทิมขจร'[p'p[pต้นฟุ้งกระจาย หรือ ต้นสลิด มีบ้านเกิkyyดkyukyukyuนประเทศkuyจีนและอินเดีย โดยจัดเป็นไม้เถาเoi;io;oi;ลื้อยพิงพันกัio;io;บต้นไม้ชนิดอื่น สามารถเkyyukukuลื้อยพัtykuyukuiloiuนไปได้ไกลโดยประมาณjyukyuk 2-5 เมตร เถามีขนyukาดเล็ก ลักษณะกลมเuiluหนียวมliากรวมทั้uiluiงเป็นสีเขียว เมื่อแก่เถาฟุ้งกรyukyukะจายจะกลายเป็นสีน้ำตashjytjtyjtyาล ตามยอดอ่อนมีขนสีขาวขึ้นปกคลุม แตกใบเป็นพุ่มแน่นและก็ทึบ ทำluiluiyukyuklให้บางครั้งบางคราวyพุ่มไม้yukของของต้yukedนแพร่จะแผ่yกคลุมต้นไม้อื่นได้yukมิดkyuเลยทีdtjfyrเดียว เพาะพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำรวมทั้งวิธีการจัด สามารyukพบ|เจอ}ได้ทั่yukวทุกภาคของประเทศyukทยyuk ykyukuโดยจะขึ้kyuนได้ตามป่kuาดิบแล้ง ป่าkyเบญจพรรณ ป่าละเมาะ ป่าเต็งรังต้นขจรใบแผ่กว้าง หรือ ใบสลิด ใบเป็นใบคนเดียว ออกyuyuyukkตรงข้ามกันเป็นคู่ yukลักษณะของใบเป็นรูปkหัวใจ คล้ายใบโพธิ์หรือใบพลู ปลาyukยใบเรียวแหลมยาวเป็นติ่ง (เหมือนใบต้นข้าวสาร) โคนใบมนเว้า ส่วนขอyukบของใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างราวๆ 4-7.5 เซนติเมตร และก็ยาวโดยประมาณ 6-11 ซม. หลังใบและก็yukท้องใบเรียบ แผ่นใบบางทับทิม หมดจด ไม่มีจะ จะมองเห็นเส้นใบชัด หน้าใบเป็นคลื่นน้อย ใบเป็นสีเyukขียวอมสีแดงน้อยdj ส่วนก้านใบยาyuyukuykyukวประมาณ 1.2-2 ซม.ใบสลิดใบฟุ้งกระจายดอกjyu{ขจร|แผ่กว้าง|yjtyukyuk 10-20 ดอjtytyก ดอกย่อyukยมีลักษliะแข็งเป็นสีเขียวอมสีliuเหลือง ดอกมีกลิ่นหอมyuiluilวน (หอมแรyukyufrว่าดอกชำมะนาดหรือกลิ่นของio;ใบเตย โดยจะหอมมากในช่วyukเย็นถึงตอkyuนกลางคืlio;lio;น) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกราวๆ kyyuk1.5 เซjtrนติเมตรทับทิม กลีบดอukมี 5yuk กลีบ ส่วนโคนกลีบเชื่อมติดกันเyukkป็นหลอดสั้นๆกลีบร่นรวมทั้งบิด ปลายแยkuกเป็นแฉกแหลม 5 แyukฉก ดอกมีjtyเกสรเพศผู้ 5 ก้าน ติดอยู่บนหลอดกลีjahrthrtบดอtyjก เชื่อมติดกัtyjนเองและเชื่อมติดกับยอดเกสรเพศเมีย แล้วจะเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นชั้นกระบังรอบ ล้อมก้านtyjยอดเกสเพศเมียและก็jtกสรเพศเมียเอาjtyไว้ และมีชุดกรุ๊ปเรณูอยู่ 5 ชุด ซึ่งมีลักษณะการเกิดคล้ายกับในดอกรัก เกสรเพศเมียจytyะมีรังไข่ 2 อัน แต่มีก้านยอดเกสรเพศเมียรวมทั้งทับทิมยอดเกสรtyjพศเมียร่วมกัน ส่วนกลีบเลี้ยงดอกเป็นสีเขียว มี 5 กลีบ แยกจากกันมีอิสรภาพ โดยจะออกดอกในตอนมี.ค.ถึงพ.ค. บ้างว่าจะออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม

Tags : ทับทิม
6  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: ขายส่งสลายไขมัน กระเทียม สมุนไพรไทย แก้ได้สารพัด เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2018, 02:22:27 pm
สลายไขมัน
7  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: ขายตรีผลา ถ้าคุณ เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2018, 04:27:14 pm
ตรีผลา
8  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ขายตรีผลา ถ้าคุณ เมื่อ: ตุลาคม 09, 2018, 08:23:59 am

ขายตรีผลา ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ไม่ทราบมาก่y;op;oอนว่ามะขามป้อมลูกเrtlkouy;ล็กๆที่เราทานกันนั้นมีประโยชน์ช่pop'u;poวยบำรุงร่างกายได้ตั้งแต่หัวถึง จำหน่ายตรีผลาเท้า แถมยังรักษาi;i;i;oi;ลักษณะของการเจ็บไข้ได้ป่วยไข้ต่i;างoๆp'ได้สารi;พัดก็ไม่เป็นไรจ้ะ เพราะใi;นวันนี้ioi;พวกเรานำประi;i;โยชi;i;น์ดีๆกลุ่มนี้'ของมะขามป้อi;มมาฝากกันอi;ย่าi;งสp'มบูรณ์;i; แต่ก่อนอื่นyg ไi;ปทำtp'yiความรู้จักi;กันมi;ะขามป้อมให้มากกi;i;ว่i;านี้i;อีi;กนิดมะขi;ามป้อม i;กับลักษณoi;ะทางพฤกษศาสตร์ที่เชิญมารู้จัก  'po'มะขามป้อม ภาษาlioอังกฤษ เป็i;น 7y6Inodian gooseboi;;erry มีiอทางวิทยาi;ศาสตoร์ว่า Phyi;llanthusop;; emblica Linn. จัดเป็นพืช;i;ตระกูลเดียวกับมะยมop คืo'o'อ เชื้อสาย ;i;Phyi;lli;anthus L. ปกติแล้วจo'ะปลูก'ขึ้นในเอเชียเขตร้อน ก็เลยio;;io;ขายตรีผลาสามารถเจริญเi;ติiop;;'บโตเจริญใo;นปp'ระเทศไทย โดยมีลักษ;po;ณะทางจำหน่ายตรีผลาวิชาพฤกษศาสตร์เป็น   - ต้น :  เป็นไม้ยืนต้นขนาดyipoyuกลาง สูงโดยปรop'ะมาณ 8-1op2 เมi;ตร ลำต้นมี';poลักษณะคด ไม่ตรง    - เปลือก : เปลือกนoอกของ;ลำopต้9oiuนเป็นสีน้ำตาลอมเทาoli ส่วนtjเปลือกในเป็นtjtjสีชมพูสด  - ใบ : ใบเป็นtjช่อ เป็u';นใบเลี้ยงลำพังเรียงสลับ ปลp'ายใi;บแหลม โคนjtใบโค้งมน ขอบใบเรียบ มีi;สีเขียวอ่อio;น เรียงติpo;opดชิดกันบนก้านใrfบ   - ดอก : มีดอruyku89liกสีขาวหtjรือเหลืองo;op;อ่อนเล็กๆรtjวมอ8uยู่บop;นกิ่งเytjดียวกันi; โดยจะออกดi;อกyi;ราวเดือนกันยายน  - ผล : มีผi;ลกลม เนื้i;อหguiloyulนjk.i;า สีเขียj.kiuo;ว ถ้าเกิดได้gkiผลสำเร็จอ่อนจะมีสีเขียวอ่pyk'อน ถ้าเกิดio;เป็ykนผลแก่จะมีสีเขียวอมเหลือง ค่อนข้างจะใส ออกน้ำตาลนิดๆสามารถกินได้ มีรสฝาด เปรี้ยว ขม รวมทั้งอมujilkul;หวาน โดยจะออกดi;อกออกผลประมาณเดือนพฤศจิกายนขายตรีผลา-ก.พ.

Tags : จำหน่ายตรีผลา,ขายตรีผลา
9  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรรากสามสิบมีประโยชน์เเละสรรพคุณที่น่าทึ่ง เมื่อ: สิงหาคม 15, 2018, 05:18:37 pm
[/b]
รากสามสิ[/size][/b]
รากสามสิบ สรรพคุณสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพที่คนต้องการมีลูกห้ามพลาด
          [url=http://www.disthai.com/16660416/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2]รากสามสิบ
สรรพคุณเด่นๆของสมุนไพรตัวนี้ลือชื่อเรื่องเป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งหลายคนบางทีอาจเคยเห็นสมุนไพรากสามสิบ[/url]แบบแคปซูลกันมาบ้าง แล้วทราบไหมขาว่า ประโยช์จากรากสามสิบ สมุนไพรตัวเด็ดนี้มิได้มีดีแค่ช่วยคนต้องการมีลูกเท่านั้น
รากสามสิบ สมุนไพรนี้มีที่มา
          รากสามสิบตามที่เป็นจริงแล้วถูกเรียกหลายชื่อมากๆอย่างเช่น สาวร้อยผัว จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ) ผักชีช้าง ผักหนาม (ภาคอีสาน) สามร้อยราก สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน หรือม้าสามต๋อน มีชื่อสามัญว่า Shatavari
          ส่วนลักษณะต้นรากสามสิบเป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง มีหนามแหลม มีเหง้าแล้วก็รากใต้ดินเหมือนรากของต้นกระชาย ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว แยกเป็นช่อ มีกลิ่นหอมสดชื่น ฯลฯที่มีผลสดลักษณะกลม ผิวเรียบมัน และก็มีเม็ดสีดำ
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
คุณประโยชน์รากสามสิบ
          รากสามสิบถูกเปรียบเทียบให้เป็นพลังที่การบูรณะความสาว (Female Rejuvenation) เป็นยาโบราณที่หมอแผนโบราณรวมทั้งหมอสมุนไพรใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรีมาตั้งแต่อดีต ซึ่งก็นับเป็นที่มาของชื่อสาวร้อยสามี ชื่อเล่นอีกชื่อของรากสามสิบนั่นเอง โดยคนสมัยก่อนมักจะนำรากมาต้มรับประทานหรือปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง ซึ่งบอกต่อๆกันว่า จะช่วยบำรุงสตรีให้ไมว่าจะอายุเยอะแค่ไหนก็มีลูกได้ง่าย
          นอกจากนี้สมุนไพรรากสามสิบยังผ่านการศึกษาเรียนรู้วิจัยสรรพคุณมามากมายก่ายกอง โดยพบว่า รากสามสิบมีคุณประโยชน์ทางเภสัชวิทยาตามนี้ติดตัวอยู่ด้วย
          - ฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรียรวมทั้งเชื้อรา
          - คลายกล้ามมดลูก
          - บำรุงหัวใจ
          - ลดการอักเสบ
          - แก้ปวด
          - ยับยั้งเบาหวาน
          - ปราบเซลล์ของมะเร็ง
          - กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
รากสามสิบ
          - ต้านภาวการณ์เม็ดเลือดขาวต่ำ
          - ลดระดับไขมันเลือด
          - คุ้มครองกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
          - ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง
          - มีฤทธิ์ใกล้เคียงฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง)
          - ช่วยสร้างสมดุลฮอร์โมนผู้หญิง
          - ขับนม
          - ช่วยให้การตกไข่สมบูรณ์
          - ช่วยทำนุบำรุงกำลังท่านชาย
          - เสริมความแข็งแรงของน้ำเชื้อน้ำเชื้อ
          - ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
          - ลดอาการกรดเกินในกระเพาะอาหาร
          - ยั้งพิษต่อตับ
          - แก้ริดสีดวงทวาร
          - ขับลม
          - ขับฉี่
          - ขับเสมหะ
          - บำรุงเด็กในท้อง
          - แก้ตกเลือด
          - รักษาโรคคอพอก
          - แก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ครั่นตัว
          - ฝนรากทาเป็นยาแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยได้
          - กระตุ้นประสาท ชูกำลัง
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี
          และด้วยคุณประโยชน์ของรากสามสิบที่มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยจังหวัดพะเยาจีงได้ทำการวิจัยเรื่อง ผลของสารสกัดรากสามสิบต่อการปกป้องการสลายเนื้อกระดูกและอวัยวะสืบพันธุ์ ในหนูแรทที่ถูกตัดรังไข่ เนื่องจากมองเห็นว่า โรคกระดูกพรุนซึ่งชอบกำเนิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนั้น มีต้นสายปลายเหตุหลักจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนตอนหลังหมดเมนส์ โดยได้ผลการทดลองมาว่า หนูที่ได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิบภายหลังถูกตัดรังไข่ มีน้ำหนักมวลกระดูกที่มากกว่ากลุ่มหนูถูกตัดรังไข่แม้กระนั้นมิได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิ[/b]
          ยิ่งกว่านั้นสารสกัดรากสามสิบยังไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเยื่อบุโพรงมดลูก ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงสรุปได้ว่า สารสกัดรากสามสิบอาจมีคุณภาพสำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันการสลายของเนื้อกระดูกในตัวทดลองได้ โดยไม่ทำให้เกิดผลเสียอะไรก็ตามต่ออวัยวะสืบพันธุ์ แต่ว่ายังคงจำต้องทดสอบเพิ่มเติมเพื่อวิจัยว่า สารสกัดรากสามสิบจะส่งผลกระทบใดๆกับอวัยวะอื่นไหม
รากสามสิบ สมุนไพรบำรุงสตรี       
[url=http://www.disthai.com/16660416/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2]
[/b]
หารากสามสิบได้จากที่ไหน
          แม้ต้นรากสามสิบจะยังมีให้มองเห็นอยู่ในประเทศไทย แต่ว่าก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปขุดหารากสามสิบมาต้มรับประทานให้เมื่อยล้า เพราะเหตุว่าปัจจุบันนี้มีสารสกัดรากสามสิบในรูปแคปซูลมาให้เลือกซื้อจำนวนมาก แต่ดังนี้ควรตรวจทานให้แน่ว่าแคปซูลรากสามสิบมียี่ห้อรวมทั้งได้รับการยืนยันจากองค์การของกินแล้วก็ยาหรือไม่
          แม้กระนั้นถ้าผู้ใดสามารถหาต้นรากสามสิบสดๆได้ จะเอามาต้มยารับประทานเองเราก็มีสูตรยาสมุนไพรรากสามสิบมาให้ด้วยจ้ะ
น้ำรากสามสิบ (สูตรดั้งเดิม)
     ส่วนผสม

  • สมุนไพรรากสามสิบ ใช้ส่วนราก 2.5 กิโล
  • น้ำ 10 ลิตร

     กระบวนการทำ

  • นำรากสามสิบมาล้างให้สะอาด
  • ปอกแล้วก็ดึงไส้ออก
  • หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ล้างให้สะอาดอีกรอบ
  • ต้มน้ำให้เดือด
  • ใส่รากสามสิบ ลงในหม้อต้ม
  • ต้มโดยประมาณ 3 ชั่วโมง
  • ชิมรส รวมทั้งสามารถเติมน้ำตาลกรวดหรือใบเตยเพิ่มความหอมลงไปได้
รากสามสิบแช่อิ่ม
     ส่วนประกอบ

  • สมุนไพรรากสามสิบ ใช้ส่วนราก 2.5 โล
  • น้ำตาล 1.5 กก.
  • น้ำ 5 ลิตร
    ขั้นตอนการทำ

รากสามสิบ
ข้อควรตรึกตรองสำหรับการใช้สมุนไพรรากสามสิบ
          เพราะเหตุว่าสมุนไพรรากสามสิบออกฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยเหตุนั้นจึงจัดเป็นยาสมุนไพรที่ไม่ปลอดภัยนักต่อผู้หญิงที่มีความเสี่ยงโรคมะเร็งอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น คนที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในมดลูก (Uterine Fribrosis) หรือมีก้อนเนื้อในเต้านม (Fibrocystic Breast) เป็นต้น ดังนั้นไม่ว่าจะใช้สมุนไพรอะไรก็ควรจะขอความเห็นแพทย์ก่อนจะเยี่ยมที่สุดนะคะ       
          เห็นสรรพคุณรากสามสิบกันไปแล้วผู้คนจำนวนมากเริ่มพึงพอใจต้องการหา[url=http://www.disthai.com/16660416/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%9A-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2]รากสามสิบ
มาบำรุงสุขภาพกันบ้าง แต่ว่าก็อย่าลืมที่เตือนไว้นะคะ ก่อนซื้อแคปซูลรากสามสิบมากิน ควรจะตรวจดูแหล่งที่มาแล้วก็ตรา รวมทั้งการรับรองจากหน่วยงานที่น่าไว้วางใจด้วย http://www.disthai.com/[/b]
10  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / คูนประโยชน์-เเละสรรพคุณ ของราชพฤกษ์ เมื่อ: สิงหาคม 13, 2018, 04:05:37 pm

[/b]
ราชพฤกษ[/size][/b]

คูน ผลดีและสรรพคุณของคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์
ความเป็นมาดอกราชพฤกษ์
           ต้น[url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C][url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ์
[/url] หรือ ต้นคูน เป็นต้นไม้พื้นบ้านของทวีปเอเชียใต้ ตั้งแต่ปากีสถาน อินเดีย ประเทศพม่า รวมทั้งศรีลังกา โดยนิยมปลูกกันมากในเขตร้อน สามารถเจริญวัยก้าวหน้าในที่โล่ง รวมทั้งมีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายสิบปี โดยมีการเสนอให้ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 แต่ว่าก็ยังไม่ได้บทสรุปกระจ่าง จนตราบเท่ามีการลงชื่อให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย ช่วงวันที่ 26 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2544
ดอกไม้ประจำชาติไทย
           เพราะว่า ต้นราชพฤกษ์ มีดอกสีเหลืองชูช่อ ดูสง่างาม อีกทั้งยังมีสีตรงกับ สีทุกวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงถูกตั้งชื่อว่าเป็น "ต้นไม้ของพระมหากษัตริย์" แล้วก็มีการเซ็นชื่อให้ต้นราชพฤกษ์ เป็นเลิศใน 3 สัญลักษณ์ประจำชาติไทย โดยมี 1. ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติไทย 2. ศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติไทย รวมทั้ง 3. ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย
เหตุผลเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

  • เนื่องด้วยฯลฯไม้ท้องถิ่นที่รู้จักกันอย่างมากมาย และมีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย
  • มีประวัติเกี่ยวเนื่องกับจารีตหลักๆในไทยแล้วก็เป็นต้นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลที่นิยมปลูก
  • ใช้ประโยชน์ได้นานัปการ ยกตัวอย่างเช่น ใช้เป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังใช้ลำต้นเป็นเสาเรือนได้ ฯลฯ
  • มีสีเหลืองอร่าม พุ่มสวยเต็มต้น เปรียบเป็นเครื่องหมายแห่งพุทธศาสนา
  • มีอายุยืนนาน และแข็งแรง

คูน หรือ ราชพฤกษ์ (Golden Shower, Indian Laburnum) เป็นพืชสมุนไพรประเภทยืนต้นขนาดกลางถึงกับขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นต่างๆดังเช่นว่า ภาคเหนือเรียก ราชพฤกษ์, คูน หรือชัยพฤกษ์ ส่วนปัตตานีเรียก ลักเคย หรือลักเกลือ และก็กะเหรี่ยง-จังหวัดกาญจนบุรีเรียก กุเพยะ เป็นต้น ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรประจำถิ่นของทวีปเอเชียใต้ไปจนถึงอินเดีย ศรีลังกา และเมียนมาร์ และก็คูนหรือราชพฤกษ์นี้ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติของไทยอีกด้วย
————– advertisements ————–
การดูแลรักษา
           แสงสว่าง : อยากได้แดดจัด หรือที่โล่งแจ้ง และก็เจริญวัยเจริญในเป็นพิเศษ
           น้ำ : ชอบน้ำน้อย ควรรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับสภาพภูมิอากาศร้อนเจริญ
           ดิน : สามารถเติบโตได้ดีในดินซึ่งร่วนซุย ดินร่วนซุยผสมทราย หรือดินเหนียว
           ปุ๋ย : นิยมใส่ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก ในอัตรา 2-3 กิโลต่อต้น และควรให้ปุ๋ยปีละ 3-4 ครั้ง
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทย
การขยายพันธุ์
           วิธีแพร่พันธุ์ต้นราชพฤกษ์ที่นิยม คือ การเพาะเมล็ด โดยใช้เม็ดใหม่ๆมาขลิบด้วยกรรไกรตัดเล็บ แต่ว่าจำต้องเลือกขลิบรอบๆด้านป้าน เนื่องจากด้านแหลมจะมีต้นอ่อนอยู่ แล้วนำไปแช่น้ำสะอาดทิ้งเอาไว้ข้ามวัน แล้วก็ค่อยเทน้ำออกให้เหลือจำนวนเพียงพอหล่อเลี้ยงเมล็ดได้ แล้วทิ้งเอาไว้อีกคืนก็จะเจอรากแตกหน่อ และสามารถนำลงปลูกได้เลย
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นราชพฤกษ์
           มั่นใจว่าฯลฯพืชที่มีความเป็นสิริมงคล ที่ควรจะปลูกเอาไว้ภายในทิศตะวันตกเฉียงใต้ และถ้าเกิดปลูกเอาไว้ภายในบ้านจะช่วยทำให้มีเกียรติยศ เกียรติยศ แล้วก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยเวท โดยใช้ใบทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ เนื่องจากเป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนาม
ลักษณะทั่วไปของคูน
สำหรับต้นคูนนั้นจัดว่าเป็นไม้ต้นขนาดกึ่งกลาง โดยลำต้นมีสีน้ำตาลอมเทา มักขึ้นตามป่าผลัดใบ หรือในดินที่สามารถระบายน้ำเจริญ ส่วนใบจะมีสีเขียวเป็นมัน โคนมน เนื้อใบเกลี้ยงรวมทั้งบาง ดอกจะออกเป็นช่อ มีกลีบรูปทรงไข่กลับอยู่ 5 กลีบ และมองเห็นเส้นกลีบกระจ่างแจ้ง ฝักอ่อนมีสีเขียวแล้วก็จะเป็นสีดำเมื่อแก่จัด และในฝักจะมีผนังเยื่อบางๆกันเป็นช่องๆอยู่ตามแนวขวางของฝัก และก็ด้านในช่องเหล่านี้จะมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์
ผลดีรวมทั้งคุณประโยชน์ของคูน
ใบ – ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง ฆ่าเชื้อโรคต่างๆช่วยระบายท้อง สามารถใช้พอกแก้ลักษณะของการปวดข้อ หรือแก้ลมตามข้อ และช่วยแก้โรคอัมพาตของกล้ามบนบริเวณใบหน้า หรือนำไปต้มกินแก้เส้นพิการ รวมทั้งโรคที่เกิดขึ้นและมีปัญหาเกี่ยวกับสมอง ให้รสเมา
ดอกราชพฤกษ์ – ช่วยระบายท้อง แก้ไข้ แก้พรรดึก (ท้องผูก) รวมทั้งโรคกระเพาะอาหาร รวมทั้งแผลเรื้อรัง ให้รสขมเปรี้ยว
ราก – ช่วยสำหรับเพื่อการฆ่าเชื้อโรคกุฏฐัง ระบายพิษไข้ แก้ขี้กลากหรือโรคเกลื้อน แก้อาการเซื่องซึมหนักบริเวณศีรษะ รวมทั้งช่วยถ่ายสิ่งสกปรกเปรอะเปื้อนออกมาจากร่างกาย แก้อาการหายใจขัด ทำให้ชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวยอก แก้ลักษณะของการมีไข้ ไปจนถึงรักษาโรคหัวใจ ถุงน้ำดี มีฤทธิ์ถ่ายแรงกว่าเนื้อในฝัก สามารถใช้ได้กับเด็กหรือสตรีท้อง ไม่มีผลข้างเคียงใดๆก็ตามให้รสเมา
แก่น – ช่วยในการขับพยาธิไส้เดือน ให้รสเมา
กระพี้ – ช่วยแก้โรครำมะนาด ให้รสเมา
เนื้อในฝัก – ใช้พอกเพื่อช่วยแก้ลักษณะของการปวดข้อ แก้ตานขโมย ปรับปรุงมาลาเรีย แก้บิด ถ่ายพยาธิ หรือผู้ที่มีลักษณะท้องผูกเรื้อรัง รวมทั้งถ่ายเสมะและก็แก้พรรดึก (ท้องผูก) ไปจนกระทั่งระบายพิษไข้ สามารถใช้ได้ในเด็กและสตรีตั้งครรภ์ ไปจนกระทั่งเป็นยาระบายที่ไม่ทำให้ปวดมวนหรือไข้ท้อง ให้รสหวานเอียน
เปลือกฝัก – ทำให้แท้งลูก ทำให้คลื่นไส้ รวมทั้งขับรกที่ค้างอยู่ออกมา ให้รสขื่นเมา
เมล็ด – ทำให้คลื่นไส้ ให้รสเฝื่อนเมา
เปลือกต้น – ช่วยแก้อาการท้องเสีย ใช้ฝนผสมกับหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ และน้ำตาล รับประทานเพื่อให้กำเนิดลมเบ่ง ให้รสฝาดเมา
เปลือกราก – ช่วยแก้ไข้ไข้จับสั่น และก็ระบายพิษไข้ ให้รสฝาด
ดอกคูน หรือ ดอกราชพฤกษ์
ต้นคูนมักนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในพื้นที่เขตร้อนและก็ครึ่งหนึ่งเขตร้อน สามารถเติบโตได้ดิบได้ดีในที่โล่ง และก็ปลูกได้ง่ายในดินร่วนซุย ดินร่วนซุยปนทราย หรือดินร่วนซุยเหนียว แล้วก็ยังทนต่อสภาพภูมิอากาศแล้งรวมทั้งดินเค็มก้าวหน้า แต่ว่าถ้าหากอากาศหนาวจัดอาจจะทำให้ติดเชื้อราหรือโรคใบจุดได้http://www.disthai.com/[/b]
11  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ราชพฤกษ์เป็นสมุนไพรที่นำมารักษาโรคได้อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อ: สิงหาคม 10, 2018, 03:42:01 pm
[/b]
ชื่อตระกูล : LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia fistula L.
ชื่อสามัญ : Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree
ชื่อท้องถิ่นอื่น : คูน (ภาคเหนือ) ; ปูโย, เปอโซ, ปือยู, แมะหล่าหยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ; คูณ (ภาคกึ่งกลาง, ภาคเหนือ) ; ชัยพฤกษ์, ราชพฤกษ[/b] (ภาคกึ่งกลาง) ; กุเพยะ (กะเหรี่ยง-จังหวัดกาญจนบุรี)
จำพวกนี้ตำราเรียนหลังเล่มเสนอ ชื่อใหม่เป็นเพียงแค่ระดับประเภทย่อยหมายถึงCassia javanica L.subsp javanica K.& S.S .Larsen พืชจำพวกนี้เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ถึงกับขนาดกลาง สูงได้ถึง ๑๕ เมตร เมื่อลำต้นอย่างอ่อนอยู่มีน้ำแข็งที่เกิดขึ้นจากกิ่งแก่ที่ร่วงหล่นไป แต่เมื่อต้นอายุมากขึ้นจะหายไป ลำต้นไม่ตะปุ่มตะป่ำ ใบเป็นใบประกอบแบบขนเรียงสลับกัน มีใบย่อย ๕-๑๕ คู่ ก้านใบยาว ๑.๕-๔ ซม. ศูนย์กลางใบยาว ๒๐-๓๐ เซนติเมตร ใบย่อยรูปไข่แกมรูปมูลหรือรูปขอบขนาน กว้าง ๑.๕-๓ เซนติเมตร ยาว ๒-๕ ซม. ปลายใบกลมหรือมน โคนใบกลม ใต้ใบมีขนละเอียดอยู่เอนราบกับผิวใบ ก้านใบย่อยสั้นมาก ดอกออกเป็นช่อตามกิ่ง ก้านช่อดอกใหญ่และแข็ง ไม่แตกแขนง ยาว ๕-๑๖ ซม. เมื่อเริ่มบานมีสีชมพูแล้ว เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม เมื่อใกล้โรยกลายเป็นสีออกขาว ดอกย่อยมีก้านเรียวยาว ๓-๕ เซนติเมตร[url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C][url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ์
[/url] มีกลีบเลี้ยงมี สีแดงเข้มถึงสีแดงอมน้ำตาล รูปไข่ ปลายแหลม ยาว ๗-๑๐ มม.กลีบดอกไม้รูปไข่กลับ กว้าง ๗-๘ มิลลิเมตร ยาว ๒๕-๓๕มม. โคนกลีบดอกไม้เป็นก้านยาวราว ๓ มิลลิเมตร  เกสรเพศผู้มี ๑๐ อัน ขนาดยาวแตกต่างกัน รังไข่เรียว ขนปกคลุมบางๆผลเป็นฝักรูปกระบอกขนาดวัดผ่าศูนย์กลางราม ๑-๑.๕ ซม. ยาว ๒๐-๖๐ ซม. ห้อยลงมาจากกิ่ง ฝักแก่สีดำ หมดจด ไม่มีขน ไม่แตก มีเม็ดเยอะแยะ รวมทั้งรูปแบนเกือบกลม สีน้ำตาลเป็นเงา
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ต้น (T) สูงราวๆ 5-15 เมตร เปลือกต้นเรียบ หมดจด สีเทาอ่อนหรือสีเทาอมน้ำตาล สีเทาอมขาว หรือสีนวล
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบเรียงสลับ ลักษณะใบย่อยรูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ โคนใบมน แผ่นใบสีเขียว มีใบย่อยราว 4-12 คู่
ดอก ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ เป็นช่อแขวนระย้าออกตามกิ่งหรือออกตามง่ามใบ ออกดอกแบบสมมาตรด้านข้าง มีกลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองสด โดยกลีบข้างบนสุดจะเรียงอยู่รอบในสุด ดอกมีกลิ่นหอมหวนอ่อนๆ
ผล เป็นฝักกลม ทรงกระบอกยาว ผิวเรียบ แล้วก็มีเปลือกแข็ง ข้างในมีฝาผนังแบนสีน้ำตาล กั้นเป็นห้องและก็มีเม็ดห้องละ 1 เม็ด ผลอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือดำ
เม็ด มีเนื้อหุ้มห่อนิ่มๆสีน้ำตาลไหม้ หรือสีดำ ลักษณะกลมมนแล้วก็แบน มีรสหวาน
นิเวศวิทยา
ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้งทั่วๆไป มีมากทางภาคเหนือ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับและก็ปลูกข้างถนนเพื่อความงดงาม
การปลูกแล้วก็เพาะพันธุ์
ปลูกได้ไม่ยากรวมทั้งเจริญวัยได้ในดินดูเหมือนจะทุกชนิด แม้กระนั้นจะชอบดินร่วนคละเคล้าทราย ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและก็ตอนกิ่ง
[/b]
คุณประโยชน์ทางยา
รสและก็สรรพคุณในหนังสือเรียนยา
ราก รสเมา เป็นยาบำรุง รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดี เป็นยาถ่ายอย่างแรง รักษาลักษณะของการมีไข้ ระบายพิษไข้ ถ่ายสิ่งสกปรกออกมาจากร่างกาย ฆ่าเชื้อโรคกุฏฐัง แก้ขี้กลากเกลื้อน แก้อาการเซื่องซึม หนักศีรษะ
เปลือกราก รสฝาด ต้มดื่มแก้ไข้ไข้จับสั่นรวมทั้งระบายพิษไข้ ใช้ร่วมกับเนื้อในฝักเป็นยาแก้ไข้มาลาเรียรวมทั้งเป็นยาระบาย
แก่น รสเมา ใช้เป็นยาขับพยาธิไส้เดือน รักษาอาการท้องร่วง รวมทั้งช่วยเร่งคลอด
ราชพฤกษ์เปลือกต้น รสฝาดเมา ใช้เป็นยาช่วยเร่งคลอด รักษาอาการท้องร่วง
กระพี้ รสเมา ใช้แก้โรครำมะนาด
ฝัก เนื้อในฝักรสหวานเบื่อ ใช้กินเป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาการแน่นหน้าอก ถูหรือจ่ายน้ำดี แก้ลมเข้าข้อและขัดข้อ
เปลือกฝัก รสฝาดเมา ทำให้แท้งลูก ขับเกลื่อนกลาดที่ค้าง และทำให้คลื่นไส้
ใบแก่ รสเมา ใบสดหรือตากแห้ง ใช้เป็นยาถ่าย รักษาอัมพาต ฆ่าเชื้อโรคทั้งสิ้น ฆ่าพยาธิผิวหนัง รักษาอัมพาตของกล้ามบนบริเวณใบหน้า พอกแก้ปวดข้อ หรือต้มน้ำแก้โรคเกี่ยวกับสมอง แก้เส้นเอ็นพิการ
ใบอ่อน รสเมา ตำพอกหรือคั้นเอาน้ำทารักษาโรคกลากเกลื้อน แก้ไข้รูมาติก
ดอก รสเปรี้ยวขม ใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร เป็นยาถ่ายพยาธิ ต้มดื่มแก้ไข้ แก้แผลเรื้อรัง ช่วยหล่อลื่นในลำไส้ ระบายท้อง
เม็ด ช่วยกระตุ้นให้อาเจียน เป็นยาถ่าย
ราชพฤกษ์ วิธีรวมทั้งปริมาณที่ใช้
แก้อาการท้องผูก โดยเอาเนื้อในฝักแก่หนักราว 5-10 กรัม ต้มกับน้ำ 500 ซีซี ใส่เกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนนอนหรือเวลาเช้าก่อนรับประทานอาหาร เป็นยาระบายที่เหมาะกับคนที่ท้องผูกเสมอๆ และสตรีมีครรภ์ก็ใช้ฝักคูณเป็นยาระบายได้
รักษาโรคกระเพาะอาหาร โดยใช้ฝักประมาณ 30 กรัม ผสมน้ำ 100 ซีซี ต้มให้เดือดและเหลือน้ำ 50 ซีซี ดื่มให้หมดครั้งเดียว วันละ 3 ครั้ง http://www.disthai.com/[/b]
12  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / กระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์ดีนักหนาอย่างไร เมื่อ: สิงหาคม 09, 2018, 03:23:28 pm
[/b]
กระเทีย[/size][/b]
ลักษณะด้านกายภาพรวมทั้งเคมีที่ดี:
           ปริมาณน้ำไม่เกิน 68% w/w  จำนวนเถ้ารวมไม่เกิน 2.5% w/w  จำนวนขี้เถ้าที่ไม่ละลายในกรดไม่เกิน 1% แล้วก็ปริมาณสารสกัดเฮกเซน แอลกอฮอล์ และก็น้ำ ประมาณ 0.52, 0.50 แล้วก็ 15% w/w  ตามลำดับ เภสัชตำรับอังกฤษเจาะจงปริมาณสาร alliin ไม่น้อยกว่า 0.45 % w/w
สรรพคุณ:
           แบบเรียนยาไทยใช้หัว[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม
เป็นยาขับลม แก้ลมจุกเสียด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ธาตุพิการ  ของกินไม่ย่อย ขับเสลด ขับเหงื่อ ลดไขมัน รักษาปอด แก้ปอดพิการ  แก้อุจจาระเป็นมูกเลือด  บำรุงธาตุ  กระจัดกระจายโลหิต  ขับปัสสาวะ แก้บวมพุพอง  ขับพยาธิ  แก้ตาปลา  แก้ตาแดง ร้องไห้  ตามัว รักษาโรคลักปิดลักเปิด  รักษามะเร็งคุด   รักษาริดสีดวง แก้ไอ  คุมกำเนิด แก้สะอึก  บำบัดโรคในอก แก้พรรดึก รักษาฟันเป็นโรครำมะนาด  แก้หูอื้อ แก้อัมพาต  ลมเข้าข้อ  แก้อาการชักกระตุกของเด็ก พอกหัวเหน่าแก้ขัดเบา รักษาวัณโรค  แก้โรคประสาท แก้โรคหืด แก้ปวดมวนในท้อง บำรุงสุขภาพทางกามคุณ  ขับโลหิตรอบเดือน  บำรุงเส้นประสาท   แก้ไข้   แก้ฟกช้ำ แก้ปวดกระบอกตา แก้โรคในปาก แก้หวัดคัดจมูก   แก้ไข้เพื่อเสมหะ ทำให้ผมเงางาม  บำรุงเส้นผมให้ดกดำ ใช้ข้างนอก รักษาแผลเรื้อรัง รักษาขี้กลากเกลื้อน แก้โรคผิวหนัง  ทาภายนอกทุเลาอาการปวดบวมตามข้อเพราะว่าเป็นยาพอกให้ร้อน ใช้พอกตรงที่ถูกแมลง ตะขาบ แมงป่องต่อยเป็นองค์ประกอบในตำรับยาเหลืองปิดสมุทร (แก้ท้องร่วง), ยาประสะไพล (ขับน้ำคร่ำ ในสตรีหลังคลอด), ยาธาตุบรรจบ (แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ  ท้องเสีย ใช้กระเทียม 3 กลีบ ตีชงน้ำร้อน ใช้เป็นน้ำกระสายยา สำหรับยาผง)
         บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์วิชาความรู้เริ่มแรก ตามประกาศคณะกรรมการปรับปรุงระบบยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ กำหนดการใช้กระเทียมในตำรับ “ยาแก้ลมอัมพฤกษ์” มีส่วนประกอบของหัวกระเทียมร่วมกับสมุนไพรประเภทอื่นๆในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดตามเส้นเอ็น กล้าม มือ เท้า ตึงหรือชา ตำรับ "ยาประสะไพล" มีส่วนประกอบของหัวกระเทียมร่วมกับสมุนไพรจำพวกอื่นๆในตำรับ มีคุณประโยชน์รักษาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือมาน้อยกว่าปกติ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน  และก็ขับน้ำคาวปลาในหญิงข้างหลังคลอดบุตร
แบบอย่างและขนาดวิธีใช้ยา:
กระเทียมสด 2-5 กรัมต่อวัน กระเทียมแห้ง 0.4-1.2 กรัมต่อวัน น้ำมักระเทียม[/url] 2-5 มิลลิกรัมต่อวัน สารสกัด 300-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือรูปแบบยาอื่นๆที่มีสาร alliin 4-12 มก.หรือสาร allicin 2-5 มิลลิกรัม
ขนาดและการใช้สำหรับอาการท้องอืดท้องอืดแน่นจุกเสียด:
ใช้กระเทียม  5-10  กลีบ ซอยละเอียด  รับประทานหลังอาหาร หรือพร้อมอาหาร
ขนาดและการใช้สำหรับรักษากลากโรคเกลื้อน:
                   ฝานกระเทียมเช็ดเป็นประจำรอบๆที่เป็น  หรือตำแล้วขยี้ทาบริเวณที่เป็น  วันละ 2 ครั้ง ก่อนจะทายาใช้ไม้บางๆเล็กๆที่ได้ฆ่าเชื้อโรคแล้ว (โดยการแช่ในแอลกอฮอล์ 70%  หรือต้มในน้ำเดือด 10-15 นาที) ขูดบริเวณที่เป็น ให้ผิวหนังแดงๆก่อนทา เพื่อให้ตัวยาซึมลงไปได้ดีขึ้น เมื่อหายแล้วให้ทายาต่ออีก 7-10 วัน
ขนาดและวิธีใช้สำหรับแก้ไอ:
                   แบบเรียนยาไทยให้ใช้กระเทียม และขิงสดอย่างละเสมอกันตำละเอียด ละลายน้ำอ้อยสด คั้นเอาน้ำจิบแก้ไอ กัดเสลด ทำให้เสลดแห้ง แบบเรียนยาไทยบางตำรับให้คั้นกระเทียมกับน้ำมะนาวเพิ่มเกลือใช้จิดหรือกวาดคอ
องค์ประกอบทางเคมี:
           น้ำมันหอมระเหย ประมาณ 0.1-0.4% มีองค์ประกอบหลักคือ allicin  ajoene  alliin  allyldisulfide diallyldisulfide ซึ่งเป็นสารประกอบกลุ่มกลุ่ม organosulfur  สารในกลุ่มนี้ที่พบในกระเทียมยกตัวอย่างเช่น  สารกลุ่ม S-(+)-alkyl-L-cysteine sulfoxides , alliin 1% , methiin 0.2% , isoalliin 0.06% รวมทั้ง cycloalliin 0.1% และก็สารที่ไม่ระเหยเป็น สารกลุ่ม gamma-L-glutamyl-S-alkyl-L-cysteines , gamma-glutamyl-S-trans-1-propenylcysteine 0.6% และ gamma-glutamyl-S-allylcysteine รวมราวๆ 82% ของสารกลุ่ม organosulpur ทั้งหมดทั้งปวง ส่วนสารกลุ่ม thiosulfinates (allicin) สารกลุ่ม ajoenes (E-ajoene รวมทั้ง Z-ajoene) สารกรุ๊ป vinyldithiins (2-vinyl-(4H)-1,3-dithiin , 3-vinyl-(4H)-1,2-dithiin) และก็สารกลุ่ม sulfides (diallyl disulfide , diallyl trisulfide) ซึ่งเป็นสารที่ไม่ได้เจอในธรรมชาติแต่ว่าเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการเสื่อมสภาพของสาร allin ซึ่งถูกสลายตัวด้วยเอนไซม์ alliinase หลังจากนั้นก็เลยมีการรวมตัวกันใหม่ได้สาร allicin ซึ่งเป็นสารที่ไม่เสถียร ย่อยสลายได้สารกลุ่ม sulfides อื่นๆฉะนั้นกระเทียมที่ผ่านขั้นตอนการสกัด การกลั่นน้ำมัน หรือความร้อน สารประกอบจำนวนมากที่พบเป็นสารกรุ๊ป diallyl sulfide , diallyl disulfide , diallyl trisulfide แล้วก็ diallyl tetrasulfide ส่วนกระเทียมที่ผ่านกรรมวิธีการหมักในน้ำมัน สารประกอบที่พบจำนวนมากเป็น 2-vinyl-(4H)-1,3-dithiin , 3-vinyl-(4H)1,2-dithiin , E-ajoene และก็ Z-ajoene ปริมาณของ alliin ที่พบในกระเทียมสด ราว 0.25-1.15% สารกรุ๊ปอื่นๆที่เจอ ตัวอย่างเช่น สารเมือก รวมทั้ง albumin, scordinins, saponins 0.07% , beta-sitosterol 0.0015%, steroids, triterpenoids และก็ flavonoids
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา: 
ฤทธิ์คุ้มครองปกป้องตับจากพิษ
      การทดลองป้อนสาร diallyl disulfide (DADS) จากกระเทียมให้แก่หนูขาว ขนาดวันละ 50 แล้วก็ 100 มก./กิโลกรัม น้ำหนักตัว ในหนูแต่ละกรุ๊ป นานต่อเนื่องกัน 5 วัน ก่อนรั้งนำให้ตับเกิดการเสียหายด้วยสาร carbon tetrachloride (CCl4) พบว่า DADS ทั้งสองขนาดสามารถคุ้มครองปกป้องตับเป็นพิษได้ การสำรวจลักษณะทางจุลกายส่วนศาสตร์พบว่าสามารถยับยั้งความย่ำแย่ของเซลล์ตับ โดยลดแนวทางการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี aspartate transaminase (AST) และก็ alanine transaminase (ALT) ในตับลงได้ ลดการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนอักเสบ รวมทั้งการเสียชีวิตของเซลล์ตับ ได้แก่ Bax, cytochrome C, caspase-3, nuclear factor-kappa B, I kappa B alpha นอกจากนั้นยังส่งผลเพิ่มการแสดงออกของโปรตีน และก็เอนไซม์ที่เกี่ยวพันในขั้นตอนการต่อต้านอนุมูลอิสระ ตัวอย่างเช่น catalase, superoxide dismutase, glutathione peroxidase, glutathione reductase, glutathione S-transferase ผลจากการศึกษาทำให้เห็นว่า สาร DADS จากกระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระแล้วก็ปกป้องตับจากพิษ โดยกลไกกระตุ้นการทำงานของ nuclear factor E2-related factor 2 (Nrf2) ซึ่งเป็น transcription factor หรือโปรตีนที่ควบคุมการแสดงออกของยีนที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเซลล์ รวมทั้งเยื่อจากอนุมูลออกซิเจนที่รวดเร็วต่อปฏิกิริยา การกระตุ้น Nrf2 มีผลรั้งนำการสร้างเอนไซม์ต้านทานอนุมูลอิสระ รวมทั้งสร้างเอนไซม์ในระบบการกำจัดสารพิษออกมาจากร่างกายในขั้นตอนที่ 2 (detoxifying Phase II  enzyme) และยับยั้ง nuclear factor-kappa B มีผลให้ลดการสร้างสารที่เกี่ยวโยงกับการอักเสบลง แล้วก็ปกป้องตับจากสารพิษได้ (Lee, et al, 2014)
ฤทธิ์ต้านการอักเสบ
      เล่าเรียนฤทธิ์ต้านการอักเสบของสารสกัดน้ำโดยไม่ผ่านความร้อน (raw garlic) และสารสกัดกระเทียมที่ผ่านการต้มแล้ว นำมาทดลองในหลอดทดลอง โดยใช้เนื้อเยื่อของกระต่าย พบว่า raw garlic สามารถยับยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี cyclooxygenase (ที่นำมาซึ่งการผลิตสารอักเสบ) แบบ non-competitive รวมทั้ง irreversible จากการเรียนรู้พบว่า raw garlic สามารถยับยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี cyclooxygenase ได้ โดยมีค่า IC50 ต่อเกล็ดเลือด,ปอด และก็หลอดเลือดแดงในกระต่ายเท่ากับ 0.35, 1.10 และก็ 0.90 mg ตอนที่กระเทียมที่ต้มแล้วมีฤทธิ์ยั้ง cyclooxygenase ได้บางส่วนเมื่อเปรียบเทียบกับกระเทียมที่ไม่ผ่านความร้อน เนื่องด้วยส่วนประกอบสำคัญในกระเทียมนั้นถูกทำลายในขณะให้ความร้อน จากผลการศึกษาเรียนรู้ชี้ให้เห็นว่ากระเทียมคงจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกันโรคหลอดเลือดตันได้ (Ali, 1995)
      จากการรวบรวมงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัย ที่เรียนฤทธิ์ต้านการอักเสบของกระเทียม โดยสรุปพบว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบผ่านหลายกลไก ดังต่อไปนี้คือ ต้านทานการอักเสบผ่าน T-cell lymphocytes โดยไปยั้ง SDF1a-chemokine-induced chemotaxis ส่งผลให้การมารวมกลุ่มกันของสารที่ทำให้มีการเกิดการอักเสบลดน้อยลง, ยับยั้ง transendothelial migration of neutrophils ส่งผลให้ลดการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาวประเภท neutrophil ในวิธีการอักเสบลง, ยับยั้งการหลั่งสาร TNFα ซึ่งเป็นสารเริ่มต้นในกระบวนการอักเสบ, กดการผลิตอนุมูลไนโตรเจนที่คล่องแคล่วต่อการเกิดปฏิกิริยาการอักเสบ แล้วก็การทำงานผ่าน ERK1/2 ทั้งยัง 2 กลไก อาทิเช่น การหยุดยั้ง phosphatase-activity (directly related with ERK1/2 phosphorylation) และการเพิ่ม phosphorylation of ERK1/2 kinase (ผ่านทาง p21ras protein thioallylation) ส่งผลทำให้การอักเสบน้อยลง (Martins, et al, 2016)
[/b]
ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
      การทดลองความสามารถในการต่อต้านเชื้อ Escherichia coli ซึ่งป็นเชื้อก่อโรคทางเดินอาหาร ของสารสกัดหัวกระเทียมด้วย เอทานอล เมทานอล  อะซิโตน  รวมทั้งการสกัดสดโดยแนวทางกดดันแบบเย็น โดยใช้วิธี microdilution broth susceptibility test พบว่าการสกัดสดมีค่า MIC และค่า MBC น้อยที่สุด (3.125กรัมต่อลิตร) แล้วก็รองลงมาคือ สารสกัดจากตัวทำละลาย เอทานอล เมทานอล และก็อะซิโตน ให้ค่า MIC รวมทั้ง MBC เสมอกัน (6.25กรัมต่อลิตร) แปลว่าสารสกัดสดมีทรัพย์สินสำหรับในการยั้ง และฆ่าเชื้อแบคทีเรียดีเยี่ยมที่สุด เหตุเพราะในกระเทียมสดมี allin เป็นสารประกอบกำมะถันที่สำคัญ เมื่อกระเทียมสดถูกบด หรือผ่านขั้นตอนการดัดแปลง allinase จะถูกปลดปล่อยออกมาจากภายใน vacuole ของเซลล์ รวมทั้งอาศัยน้ำเป็นกลไกสำหรับการทำปฏิกิริยาได้เป็น allicin ซึ่งเป็นสารที่มีความรู้และความเข้าใจสำหรับเพื่อการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งวิธีการสกัดสดช่วยให้วิธีการทำปฏิกิริยาระหว่างสาร allin รวมทั้ง allinase ดียิ่งขึ้น เพราะจะต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการบีบเค้นน้ำกระเทียมซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวข้างต้นช่วยให้การทำปฏิกิริยาระหว่างสารเพิ่มมากขึ้น อาจก่อให้ได้ allicin เพิ่มขึ้น (ภรเจริญ และรังสินี, 2554)
ฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระ
         เมื่อนำสารสกัดกระเทียมที่ได้จากการบ่มสกัด (aged garlic extract (AGE) ด้วย 20 % เอทานอล เป็นเวลา 20 เดือน ที่อุณหภูมิห้อง นำมาทดสอบการต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ หรือต่อต้านการเกิด oxidized LDL (ซึ่งเป็นต้นเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดภาวะเส้นโลหิตแดงแข็ง) โดยนำ LDL ที่แยกได้จากคนมาทดลองในภาวะที่มีไหมมี AGE โดยใช้ CuSO4 รวมทั้ง 5-lipoxygenase รั้งนำให้เกิด oxidized LDL รวมทั้งทดสอบสารสกัดของ AGE ผลของการทดลองพบว่า AGE มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระโดยลดการผลิต superoxide ion (อนุมูลอิสระของออกสิเจน) รวมทั้งลดการเกิด lipid peroxide (ออกซิเดชันของไขมัน)  โดย AGE 10%v/v เมื่อใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย สามารถยั้งการเกิด superoxide ได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนสารสกัด 10% v/v จาก diethyl ether ของ AGE ให้ผล 34%  ฤทธิ์ลดการเกิด lipid peroxidation ของ LDL พบว่าสารสกัด 10% v/v จาก diethyl ether ลดการเกิด lipid peroxidation ที่เกิดขึ้นมาจากการเหนี่ยวนำของ Cu2+ แล้วก็ 5-lipoxygenase ได้ 81% และ 37% ตามลำดับ สรุปได้ว่า AGE มีผลยับยั้งการเกิด oxidation ของ LDL โดยลดการสร้าง superoxide รวมทั้งยับยั้งการเกิด lipid peroxide  ด้วยเหตุนี้ AGE จึงอาจมีหน้าที่ในการคุ้มครองปกป้องการเกิดภาวการณ์เส้นโลหิตแดงแข็งตัว (atherosclerotic disease) ได้ (Dillon, et al, 2003)
      การศึกษาฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระของสารสกัดหัวกระเทียมด้วย เอทานอล เมทานอล  อะซิโตน  และการสกัดสดโดยแนวทางบีบบังคับแบบเย็น ทดสอบโดยวิธีการยั้งอนุมูลอิสระ DPPH, การต้านออกสิไดส์จากสาร hydrogen peroxide (hydrogen peroxide (H2O2) scavenging activity ผลการทดสอบฤทธิ์ยับยั้งอนุมูลอิสระ DPPH พบว่าการสกัดกระเทียมด้วยตัวทำละลายอะซิโตน ให้ค่า IC50 น้อยที่สุด เท่ากับ 3.58±0.02 mg/ml รองลงมา อย่างเช่น สารสกัดเมทานอล เอทานอล และการสกัดสด ตามลำดับ โดยมีค่า IC50 พอๆกับ 3.72±0.03, 4.47±0.20 และ 55.36±3.96 mg/ml เป็นลำดับ  ผลการต้านทานสารออกสิไดซ์ที่ร้ายแรง ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) พบว่าสารสกัดด้วยตัวทำละลายเมทานอล มีทรัพย์สินการต้านออกซิไดส์ของสาร H http://www.disthai.com/[/b]
13  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ เมื่อ: สิงหาคม 03, 2018, 02:50:58 pm
[/b]
บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะยังไงนี่ พวกเรากำลังดูหนังการศึกอยู่หรอ เปล่าครับผม บุกในที่นี้ไม่ได้ถึงศัตรูบุก แต่หมายถึงหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านพวกเรา ต่างหาก และที่จำต้องหนี ไม่ใช่ใครที่ใด แต่ว่าเป็นโรคฮอตฮิตในปัจจุบันอย่างโรคอ้วน เบาหวาน ต่างหากที่จำต้องหนีไป
บุก ส่วนที่มองเห็นเป็น หัวบุก ตอนแรกเรื่องของบุกในประเทศไทย มันก็มิได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมเสมือนทุกๆวันนี้เพราะจริงๆทีแรกมันก็เป็นพืชพื้นบ้านอยู่ดี  คนในแคว้นก็นำบุกมาปรุงอาหาร เสมือนเผือก เสมือนมันทั่วไปพอเริ่มมีคนมาวิจัย   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยเปลี่ยนเป็นพืชสมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยม มีการแปรรูปเป็นแบบต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก และก็อื่นๆอีกมาก วันนี้เองก็คงจะไม่ช้าเหลือเกินที่จะนำทุกท่านมารู้จัก พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบถึงกึ๋นมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นอสุรกาย  น่าสยดสยองนะครับชื่อนี้ คาดว่ามาจากรูปแบบของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อตระกูล    ARACEAE
ชื่อตามเขตแดน  :  บุกคุงคก (จังหวัดชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (ปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกึ่งกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
เราเจอบุกเหมาะไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่เจอทั่วไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่ตาม ป่าเขา รวมทั้งครั้งคราวก็เจอตามพื้นที่ ทำไร่ทำนา เช่นที่ปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี เป็นต้น บุกขึ้นได้ในภาวะดินทุกชนิด แม้กระนั้นจะเจริญเติบโตเจริญให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินที่ร่วนซุย น้ำไม่ขังรวมทั้งดินที่มีฮิวมัส หรืออินทรียวัตถุสูง
รูปแบบของต้นบุก
รูปแบบของต้น บุก บ่งบอกถึงองค์ประกอบคือใบบุก รวมทั้งหัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  ชนิดเดียวกันกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่ประมาณ 25 ซม. (บางพันธ์อาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แม้กระนั้นบางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษต่างกันออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมอาหารของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเสมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางประเภทมีก้านใย เป็นลวดลายบางประเภทมีหนามอ่อนๆ หรือบางเวลาบุกบางประเภทก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวข้างบน  จะมีความคิดเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่หลากหลายมาก  แม้กระนั้นที่เด่นๆดูง่ายว่าเป็บุกเป็น จะมีก้านตรงจากกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีรูปทรงแผ่กว้างแบบร่ม แต่ว่าบาง ชนิดจะแปลกตรงที่กลับขึ้นด้านบนเสมือนหงายร่ม ฉะนั้นรูปแบบของใบบุก มีหลายแบบขึ้นอยู่กับประเภทของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกคล้ายต้นหน้าวัว แต่ละชนิดมีขนาด สี และก็รูป ทรงแตกต่างกัน บางจำพวกมีดอกใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นราวกับเนื้อสัตว์เน่า บุกจำพวกอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกลางหัวบุก เหมือนกันกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แต่ว่าบุกสามารถมีดอกได้ในช่วง เวลาต่างๆกัน ช่วงเวลาสำหรับการแก่เต็มที่ ของดอกที่จะติดผลก็ไม่เหมือนกัน
 ผลบุ[/b](อย่างงงันกับหัวบุกนะ ) หลังจากดอก สืบพันธุ์ก็จะเป็นผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง เพียงพออายุ ได้ 1-2 เดือน จะส่งผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายคล้ายผลกล้วย ผล ของบุกส่วนมากจะมีลักษณะคล้ายๆกัน แม้กระนั้นเม็ดข้างในต่างกัน พบว่าส่วนใหญ่มีเมล็ดเป็นทรงอูมยาว  บุกบางจำพวกก็มีเมล็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม
[url=http://www.disthai.com/16488234/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81]
[/b]
บุกกับการนำมาเตรียมอาหาร
เป็นพืชของกินประจำถิ่นซึ่งคนประเทศไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ส่วนหัวบุกมีการนำไปปรับเปลี่ยนตามแต่ละภูมิภาค ดังเช่นทางภาคอีสาน มีการทำขนมที่เรียกว่าขนมบุก แกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคทิศตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งกินกับข้าว ทางภาคเหนือโดยเฉพาะชาวดอย มักเอามา ปิ้งกิน ภาคกึ่งกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งแล้วหลังจากนั้นก็ให้นำไปทำเป็นอาหารว่าง
*บุกมีหลายชนิดหลายประเภท บางทีอาจขมและก็เป็นพิษ ทุกชนิดมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ในขณะที่ก้านใบและหัว ซึ่งอาจก่อให้คัน ก่อนนำมาประกอบอาหารจำต้องต้มซะก่อน ไม่อย่างนั้นกินเข้าไปทำให้คันปากและก็ลิ้นพอง
ของกินที่ดัดแปลงมาจากบุก
ปัจจุบันมีการนำบุกมาดัดแปลง อีกทั้งในรูปแบบของเส้นบุก ซึ่งเป็นสินค้าแปรรูปจากส่วนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถเอามาปรุงเป็นอาหารจานอร่อยได้ ผมว่าผู้ใดกันแน่เคยไปรับประทานเนื้อย่างคงเคยพบบ้าง นอกจากเส้นบุกแล้วมีการนำมาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆสมัยเก่าเป็นเจเล่ ผสมผงบุก หากจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (เจ้าของบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยครับผม)
คุณประโยชน์ของบุก
จากการเรียนรู้พบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูโคแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่มีน้ำตาล 2 ชนิดหมายถึงดี-กลูโคส (D-glucose) รวมทั้ง (D-mannose) เป็นสารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แม้กระนั้นร่างกายสลายตัวได้ยาก ซับได้ช้า จึงให้พลังงานและสารอาหารน้อย เหลือกากมาก ทำให้ระบบขับถ่ายปฏิบัติงานดี ผู้ที่ต้องการลดหุ่นนิยมรับประทานอาหารจากแป้งบุก ดังเช่นว่า วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เนื่องจากว่ากินอิ่มได้ ระบายท้อง แต่ว่าไม่ทำให้อ้วน
นอกเหนือจากนั้นเองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดจำนวนน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะว่าความเหนี่ยว ซึ่งยั้งการดูดซึมของกลูวัวลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งเหนียวหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูโคลส เพราะฉะนั้น กลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำตาลได้ดีมาก ปัจจุบันจึงใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นอาหารสำหรับผู้เจ็บป่วยเป็นโรคโรคเบาหวาน และก็สำหรับคนป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละครับผมเป็นคุณประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันครับ มีประโยชน์ขนาดนี้ สมัยปัจจุบันนี้ไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว แนะนำมามายำแบบยำวุ้นเส้นนะครับ รับรองอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุรไพรบุก
หน้า: [1]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย