โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 21 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 24, 2018, 09:26:52 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
1.[url=http://www.disthai.com/16816633/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88]โรคไข้หวัดใหญ่[/url] เป็นยังไง  ไข้หวัดใหญ่ หรือ ฟลู (Influenza , Flu) เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่ระบบฟุตบาทหายใจเหมือนกันกับหวัด แต่ว่ามีเหตุมาจากไวรัสคนละชนิดและก็มีความรุนแรงสูงขึ้นมากยิ่งกว่าโรคหวัดธรรมดามากมาย และก็เป็นอีกโรคหนึ่งพบมากในทุกกลุ่มวัยทั้งในเด็กจนกระทั่ง ถึงคนชรา และก็ได้โอกาสกำเนิดโรคใกล้เคียงกันอีกทั้งในหญิงและก็ในผู้ชาย  โดยมีลักษณะทางคลินิกที่สำคัญคือ เป็นไข้สูงแบบทันทีทันใด ปวดหัว เมื่อยกล้าม อ่อนเพลีย ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สำคัญที่สุดโรคหนึ่งในกลุ่มโรคติดเชื้ออุบัติใหม่และโรคติดเชื้อเกิดซ้ำ เพราะว่าเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก (pandemic) มาแล้วบ่อยครั้ง แต่ละครั้งเกิดขึ้นอย่างมากมายดูเหมือนจะทุกทวีป ทำให้มีผู้เจ็บป่วยและก็เสียชีวิตนับล้านคน

  • ต้นเหตุของไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่มีเหตุที่เกิดจากการติดเชื้อ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกว่า อินฟลูเอนซาเชื้อไวรัส (Influenza virus) เป็น RNA เชื้อไวรัส อยู่ในเครือญาติ Orthomyxoviridae ที่พบอยู่ในสารคัดหลั่งของคนเจ็บ ดังเช่น น้ำมูก น้ำลาย และเสลด ฯลฯ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีทั้งหมดทั้งปวง 3 ชนิด คือ เชื้อ influenza A, B รวมทั้ง C รวมทั้ง เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A เป็นจำพวกที่ท้าให้มีการระบาดอย่าง กว้างใหญ่ทั่วโลก ประเภท B ท้าทายให้เกิดการระบาดในพื้นที่ระดับภูมิภาค ส่วนจำพวก C มักเป็นการติดเชื้อที่ออกอาการ น้อยไหมออกอาการ และไม่ท้าทายให้เกิดการระบาด เชื้อไวรัสประเภท A แบ่งเป็นจำพวกย่อย (subtype) ตามความแตกต่างของโปรตีนของเชื้อไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) รวมทั้ง neuraminidase (N) ชนิดย่อยของไวรัส A ที่ศึกษาค้นพบว่าเป็นสาเหตุของการต่อว่าดเชื้อในคนที่เจอในขณะนี้ตัวอย่างเช่น A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) และก็ A(H9N2) ส่วนเชื้อไวรัสจำพวก B แล้วก็ C ไม่มีแบ่งเป็นจำพวกย่อย
  • อาการโรคไข้หวัดใหญ่ อาการจะเริ่มข้างหลังได้รับเชื้อ 1-4 วัน คนป่วยจะมีไข้สูงแบบทันทีทันควัน ( 38 ซ ในผู้ใหญ่ ส่วนในเด็กชอบสูงกว่านี้) ปวดศีรษะ หนาวสั่น เมื่อยกล้าม อ่อนแรงมาก ปวดกระบอกตาเวลาตาขยับเขยื้อน มีน้ำตาไหลเมื่อมีแสงสว่าง และก็บางทีอาจเจออาการคัดจมูก เจ็บคอ ถ้าหากมีอาการป่วยด้วยระยะเวลานานอาจจะมีอาการไอจากหลอดลมอักเสบ (post viral bronchitis) อาการจะรุนแรงแล้วก็ป่วยเป็นเวลานานกว่าไข้หวัดธรรมดา (common cold) ผู้ป่วยจำนวนมากจะหายปกติด้านใน 1-2 อาทิตย์ แม้กระนั้นมีบางรายที่มีอาการร้ายแรง เพราะมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญเป็น ปอดบวม ซึ่งอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้


  • กลุ่มบุคคลแผนการที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่

           เจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์ และก็ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับผู้เจ็บป่วยไข้หวัดใหญ่
           คนที่มีโรคเรื้อรัง คือ ปอดอุดกันเรื้อรัง อาการหอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย โรคมะเร็งที่กำลังให้เคมี บรรเทา โรคเบาหวาน ธาลัสซีภรรยา ภูมิต้านทานขาดตกบกพร่อง (รวมทั้งผู้ติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องที่มีลักษณะอาการ)
           บุคคลที่แก่ 65 ปีขึ้นไป
           หญิงมีท้อง อายุครรภ์ 4 ข้างขึ้นไป
           ผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไป
           ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองมิได้
           เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี

  • แนวทางอาการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ การวิเคราะห์โรคโดยอาการทางสถานพยาบาลยังมีข้อจำกัด เพราะว่าอาการเหมือนโรคติดเชื้อทางเดิน หายใจจากเชื้อไวรัสชนิดอื่น การวินิจฉัยควรที่จะใช้ การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อรับรองการวินิจฉัยโรค อย่างเช่นตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเสลดที่ป้ายหรือดูดจากจมูกหรือคอ หรือ ตรวจเจอแอนติเจนของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ใน epithelial cell จาก nasopharyngeal secretion โดยวิธี fluorescent antibody หรือ ตรวจเจอว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อในซีรั่มอย่างน้อย 4 เท่าในระยะกระทันหันรวมทั้งระยะพักฟื้น โดยวิธี haemaglutination inhibition (HI) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐาน หรือ complement fixation (CF) หรือ Enzyme - linked immunosorbent assay (ELISA)แล้วก็การใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยาช่วย ได้แก่ ขณะที่มีการแพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่ คนเจ็บที่มีลักษณะอาการน้อย ให้การรักษาตามอาการ อาทิเช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาละลายเสลด ฯลฯ การให้ยาต้านทานเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในทันทีภายหลังที่มีอาการช่วยลดความร้ายแรงรวมทั้งอัตราตายในผู้ป่วย ยาต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น ยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) รวมทั้งซานามิเวียร์ (Zanamivir) การพิเคราะห์เลือกใช้ตัวไหน ขึ้นกับข้อมูลความไวของยาต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในแต่ละประเทศส่วนการให้ยาต้านทานเชื้อไวรัส amantadine hydrochloride หรือยา rimantidine hydrochloride ด้านใน 48 ชั่วโมง นาน 3-5 วัน จะช่วยลดอาการแล้วก็ปริมาณเชื้อไวรัสจำพวก A ในสารคัดเลือกหลั่งที่ทางเดินหายใจได้ ขนาดยาที่ใช้ในเด็กอายุ 1-9 ปี ให้ขนาด 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน แบ่งให้ 2 ครั้ง สำหรับผู้ป่วยอายุ 9 ปีขึ้นไปให้ขนาด 100 มก. วันละ 2 ครั้ง (แต่ถ้าหากคนไข้น้ำหนักน้อยกว่า 45 กิโลกรัม ให้ใช้ขนาดเดียวกับเด็กอายุ 1-9 ปี) นาน 2-5 วัน สำหรับคนป่วยอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่หลักการทำงานของตับรวมทั้งไตไม่ปกติ จำต้องลดขนาดยาลง ในพักหลังๆของการรักษาด้วยยาต้านเชื้อไวรัส บางทีอาจเจอการดื้อยาตามด้วยการแพร่โรคไปยังคนอื่นๆได้ กรณีนี้อาจจำเป็นต้องให้ยาต้านเชื้อไวรัสแก่ผู้เสี่ยงโรคสูงที่อยู่รวมกันเป็นกรุ๊ป ถ้ามีอาการแทรกซ้อนจากเชื้อแบคทีเรียจำเป็นต้องให้ยายาปฏิชีวนะด้วย รวมทั้งควรเลี่ยงยาลดไข้พวก salicylates เพื่อลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรค Reye's syndrome

6.การติดต่อของไข้หวัดใหญ่ ระยะฟักตัวของโรค ระยะฟักตัวของโรคชอบสั้น 1 - 4 วัน แต่ว่าโดยเฉลี่ยแล้วราว เฉลี่ย 2 วัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวนของไวรัสที่ ได้รับ การติดต่อ เชื้อไวรัสที่อยู่ในเสลด น้ำมูก น้ำลายของคนป่วยแพร่ติดต่อไปยังคนอื่นโดยการไอจามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปถ้าเกิดอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือ สิ่งของเครื่องใช้ที่แปดเปื้อนเชื้อ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก  รวมทั้งคนป่วยสามารถแพร่ระบาดไวรัสไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีลักษณะรวมทั้งจะแพร่ระบาดต่อไปอีก 3-5 คราวหน้ามีอาการในผู้ใหญ่ ส่วนในเด็กบางทีอาจกระจายเชื้อได้เป็นเวลายาวนานกว่า 7 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่ไม่มีอาการก็สามารถแพร่ระบาดตอนนั้นได้เช่นเดียวกัน ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั้งโลก 4 ครั้งคือ

  • พุทธศักราช 2461 - 2462 Spanish flu จากไวรัส A(H1N1) เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุด สามัญชนทั่วโลกเจ็บป่วยร้อยละ 50 แล้วก็ตายมากถึง 20 ล้านคน
  • พุทธศักราช 2500 - 2501 Asian flu จากไวรัส A(H2N2) โดยเริ่มตรวจพบในประเทศจีน
  • พุทธศักราช 2511 - 2512 Hong Kong flu จากไวรัส A(H3N2) เริ่มตรวจเจอในฮ่องกง
  • พ.ศ. 2520 - 2521 Influenza A (H1N1) กลับมาระบาดใหญ่อีกครั้ง แยกได้จากผู้ป่วยในโซเวียต จึงเรียก Russian flu แต่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน

7.การกระทำตนเมื่อมีอาการป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ การดูแลตนเอง เมื่อป่วยหวัดใหญ่ คือ เมื่อมีไข้ ควรจะหยุดโรงเรียนหรือหยุดงาน แยกตัวและก็ของใช้จากคนอื่น เพื่อพักและก็ปกป้องการกระจายเชื้อสู่คนอื่น พักให้มากๆรักษาสุขลักษณะพื้นฐาน  เพื่อสุขภาพแข็งแรง ลดโอกาสกำเนิดโรคข้างๆหรือเข้าแทรก บากบั่นรับประทานอาหารเป็นประโยชน์ห้ากลุ่มในแต่ละวันดื่มน้ำสะอาดให้มากมายๆอย่างต่ำวันละ 6 - 8 แก้วเมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม กินยาลดไข้พาราเซตามอล หรือตามแพทย์แนะนำ ไม่สมควรกินยาแอสไพรินเนื่องจากว่าบางทีอาจมีการแพ้ ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ล้างมือให้สะอาดเสมอๆและก็ทุกหนก่อนกินอาหารและข้างหลังเข้าห้องอาบน้ำ  ใช้ทิชชู่สำหรับในการสั่งน้ำมูกหรือเช็ดปาก ไม่สมควรใช้ผ้าที่เอาไว้เช็ดหน้า จากนั้นทิ้งทิชชู่ให้ถูกสุขอนามัย  รู้จักใช้หน้ากากอนามัย งดบุหรี่ หลีกเลี่ยงควันที่เกิดจากบุหรี่ เพราะเหตุว่าเป็นต้นเหตุให้อาการร้ายแรงขึ้น ควรจะรีบพบหมอเมื่อ ไข้สูงเกิน 39 - 40 องศาเซียลเซียส แล้วก็ไข้ไม่ลดลงข้างหลังได้ยาลดไข้ด้านใน 1 - 2 วัน  กินน้ำได้น้อยหรือทานอาหารได้น้อย ไอมากมาย มีเสมหะ รวมทั้ง/หรือ เสลดมีสีเหลืองหรือเขียว ซึ่งมีความหมายว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เป็นโรคโรคหืด เนื่องจากว่าโรคหืดมักกำเริบและก็ควบคุมเองมิได้ อาการต่างๆชั่วช้าลง หอบเมื่อยล้าร่วมกับไอมากมาย บางทีอาจร่วมกับนอนราบไม่ได้ ด้วยเหตุว่าเป็นอาการสอดแทรกจากปอดอักเสบ เจ็บทรวงอกมากร่วมกับหายใจขัด เหน็ดเหนื่อย เพราะเหตุว่าเป็นอาการจากอาการแทรกซ้อนจากเยื่อห่อหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ชัก ซึม งงเต็ก แขน/ขาอ่อนแรง บางทีอาจร่วมกับปวดศีรษะรุนแรง รวมทั้งคอแข็ง เพราะเหตุว่าเป็นอาการแทรกซ้อนจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ  หรือ สมองอักเสบ

  • การคุ้มครองเองจากไข้หวัดใหญ่ รักษาร่างกายให้แข็งแรง เพื่อให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดิบได้ดี โดยการบริหารร่างกาย บ่อยและก็พักผ่อนให้เพียงพอ อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก เลี่ยงความตึงเครียด บุหรี่ สุราและสารเสพติด และระวังรักษาร่างกายให้อบอุ่นในตอนอากาศหนาวเย็น หรืออากาศเปลี่ยน ทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ ผัก รวมทั้งผลไม้ เพื่อร่างกายได้รับสารอาหารและวิตามินเพียงพอ ในตอนที่มีการระบาดของโรค ควรจะหลบหลีกการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนยัดเยียด อาทิเช่น ห้าง สถานเริงรมย์ งานมหรสพ รวมถึงการใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือลูกบิดประตู เป็นต้น แต่ว่าถ้าเกิดเลี่ยงมิได้ ควรสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยแอลกอฮอล์เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อาจติดมาจากการสัมผัสถูกเสมหะของคนเจ็บ แล้วก็อย่าใช้นิ้วมือขยี้ตาหรือแคะไชจมูกถ้ายังไม่ได้ล้างมือให้สะอาด คนเจ็บควรปลีกตัวออกห่างจากคนอื่น อย่านอนปะปนหรือคลุกคลีใกล้ชิดกับคนอื่น เวลาไอหรือจามควรใช้ผ้าปิดปากและก็จมูกเสมอ เวลาเข้าไปในที่ที่มีคนอยู่กันมากๆควรจะใส่หน้ากากอนามัยด้วยทุกครั้ง ส่วนการฉีดวัคซีนคุ้มครองปกป้องไข้หวัดใหญ่นั้น โดยธรรมดาหากไม่มีการระบาดโรค แพทย์จะไม่เสนอแนะให้ฉีดยาแก่พลเมืองทั่วๆไป ยกเว้นในผู้ที่อยู่ในกรุ๊ปมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังกล่าวข้างต้น คนสูงอายุ (แก่กว่า 65 ปี) คนที่มีอายุต่ำยิ่งกว่า 19 ปีที่จำต้องกินยาแอสไพรินบ่อยๆ สตรีมีท้องที่คาดว่าอายุท้องปิ้งเข้าไตรมาสที่ 2 ขึ้นไปในช่วงที่มีการระบาดของโรค คนที่เป็นบุคลากรทางด้านการแพทย์ ผู้ที่ต้องเดินไปในถิ่นที่มีการระบาดของโรค คนที่มีกิจกรรมจำเป็นจะต้องที่ไม่อาจจะหยุดงานได้ (ดังเช่นว่า ดารา นักกีฬา นักทัศนาจร ตำรวจ เจ้าหน้าที่บริการสังคม นักเรียนหรือนักศึกษาที่อยู่รวมกัน รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในที่พักฟื้น สถานสงเคราะห์คนแก่) ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เป็นต้นว่า คนป่วยเอดส์ คนป่วยที่ได้รับยาสเตียรอยด์ ผู้ป่วยรังสีรักษาหรือเคมีบรรเทา) คนไข้ที่เป็นโรคเรื้อรัง (ตัวอย่างเช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด โรคตับ โรคไต โรคเลือด) ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ควรจะได้รับการฉีดยาป้องกันไข้หวัดใหญ่
  • สมุนไพรจำพวกไหนที่สามารถช่วยบรรเทา/รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้
สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Herbs with anti-influenza activity) มีสมุนไพร        
                พลูคาว / ผักคาวตอง (Houttuynia cordata) จากการเรียนรู้ในหลอดทดสอบ น้ำมันระเหยผู้กระทำลั่นพลูคาวสดมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ เริม (Herpes simplex virus type 1) เอชไอวี (HIV-1) ขึ้นรถสำคัญในน้ำมันระเหยจากพลูคาวที่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสดังกล่าว ดังเช่นว่า methyl n-nonyl ketone, laurly aldehyde, capryl aldehyde
                Epigallocatechin (EGCG) ในชาเขียว EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากที่สุดในชาเขียว EGCG ขนาดต่ำในหลอดทดสอบมีฤทธิ์ ยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งยังประเภท A แล้วก็ B เข้าเซลล์& ลดการตำหนิดเชื้อของเซลล์เพาะเลี้ยงจากไตสุนัขได้อย่างมีนัยสำคัญ
                ใบเตย (Pandanus amaryllifolius) ใบเตยมีสารพวกเลกติเตียนน (lectin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นโปรตีน ชื่อ Pandanin ที่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ประเภท A (H1N1) อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยั้งเชื้อได้ 50% (EC50) เท่ากับ15.63 microM
                สาร Aloe emodin Aloe emodin = สารแอนทราควิโนน (anthraquinone) ที่พบได้ในยางว่านหางจระเข้ เมื่อนำสาร Aloe emodin มาผสมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดสอบนาน 15 นาที ที่ 37 องศาเซลเซียส สามารถยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ ยิ่งไปกว่านี้ สาร aloe emodin ยังยั้งไวรัสที่ก่อโรคเริม แล้วก็งูสวัดได้อีกด้วย
สมุนไพรกระตุ้นภูมิต้านทาน (Immunomodulator / Immunostimulant)
                กระเทียม  Aged Garlic Extract (AGE) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทาน AGEเป็นผลิตภัณฑ์กระเทียมตระเตรียมโดยการแช่กระเทียมที่หั่นหรือสับใน 15-20% แอลกอฮอล์แล้วทิ้งเอาไว้ยาวนานมากกว่า 10 เดือน ที่อุณหภูมิปกติแล้วนำมาทำให้เข้มข้น เมื่อให้ AGE ทางปากแก่หนูถีบจักร 10 วันก่อนให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แก่หนูโดยการหยอดทางจมูก มีประสิทธิผลสำหรับในการคุ้มครองปกป้องไข้หวัดใหญ่ได้ดิบได้ดีเท่าการให้วัคซีน
                สินค้าเสริมอาหารกระเทียมที่มีสาร allicin มีการศึกษาวิจัยในอาสาสมัคร 146 คน โดยให้กลุ่มควบคุมได้รับยาหลอก แล้วก็กลุ่มทดลองได้รับกระเทียมรับประทานวันละ 1 แคปซูล นาน 12 อาทิตย์ ระหว่างหน้าหนาว (เดือนพฤศจิกายน - ก.พ.) แล้วก็ให้คะแนนสุขภาพ และอาการหวัดทุกวัน พบว่า กลุ่มที่ได้รับกระเทียมมีโอกาสเป็นหวัดน้อยกว่ากลุ่มยาหลอก และเมื่อเป็นหวัดแล้วหายเร็วกว่า
                โสม (Ginseng)    สารสกัดโสมอเมริกันที่จดสิทธิบัตรแล้ว (CVT-E002) โดยทดลองให้สารสกัดนี้ ขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งหรือยาหลอกแก่ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่รวมกันหลายๆคน (institutional setting) ปริมาณรวม 198 คน ระหว่างฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ (หน้าหนาวปี 2543 -44) เพื่อศึกษาประสิทธิผลสำหรับการปกป้องการป่วยด้วยโรคทางเท้าหายใจอย่างเฉียบพลัน (Acute Respiratory Illness, ARI) พบว่า อุบัติการณ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการตรวจยืนยันทางห้องทดลองของกลุ่ม ยาหลอกสูงขึ้นมากยิ่งกว่ากรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดโสมอย่างเป็นจริงเป็นจัง (7/101 และ 1/97) แล้วก็การต่ำลงของการเสี่ยงจากการป่วยด้วยโรค ARI ในกรุ๊ปที่ได้รับยา CVT-E002 เท่ากับ 89%
เอกสารอ้างอิง

  • Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, D., Hausen, S., Longo, D., and Jamesson, J.(2001). Harrrison’ s:Principles of internal medicine. New York. McGraw-Hill. http://www.disthai.com/[/b]
  • ”สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่-H1n1 (1 มกราคม – 26 ธันวาคม 2558)” สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • ดร.ภก.อัญชลี จูฑะพุทธิ.สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์เรื่อง”สมุนไพร:ไข้หวัดใหญ่-ไข้หวัดนก.”ณ.ห้องประชุมเบญจกูล กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.วันที่ 28 ธันวาคม 2548
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).”ไข้หวัดใหญ่(lnfluenza/Flu).หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป2.หน้า 393-396
  • “ไข้หวัดใหญ่”คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก
  • ไข้หวัดใหญ่.กลุ่มระบาดวิทยา/โรคติดต่อ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • โรคไข้หวัดใหญ่แนวทางการดำเนินการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปี2559.แนวทางการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสถานศึกษา 2559 กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ