โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 27 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kittipong99010
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15531


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 31, 2018, 10:26:44 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
1.โรคไข้หวัดใหญ[/color]เป็นยังไง  ไข้หวัดใหญ่ หรือ ฟลู (Influenza , Flu) เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่ระบบฟุตบาทหายใจเหมือนกับโรคไข้หวัด แม้กระนั้นมีต้นเหตุจากเชื้อไวรัสคนละชนิดและมีความรุนแรงสูงยิ่งกว่าหวัดธรรมดามาก และเป็นอีกโรคหนึ่งพบบ่อยในทุกกลุ่มอายุทั้งยังในเด็กจน ถึงคนชรา และก็ได้โอกาสกำเนิดโรคใกล้เคียงกันอีกทั้งในสตรีรวมทั้งในเพศชาย  โดยมีลักษณะทางสถานพยาบาลที่สำคัญเป็น เป็นไข้สูงแบบทันทีทันใด ปวดศีรษะ เมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนล้า ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สำคัญที่สุดโรคหนึ่งในกรุ๊ปโรคติดเชื้อเกิดใหม่และก็โรคติดเชื้อเกิดซ้ำ เนื่องด้วยเกิดการระบาดใหญ่ทั่วทั้งโลก (pandemic) มาแล้วหลายหน แต่ละครั้งเกิดขึ้นอย่างมากมายดูเหมือนจะทุกทวีป ทำให้มีคนเจ็บรวมทั้งเสียชีวิตนับล้านคน

  • ต้นเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่ [url=http://www.disthai.com/16816633/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88]โรคไข้หวัดใหญ่มีต้นเหตุจากการตำหนิดเชื้อ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกว่า อินฟลูเอนซาไวรัส (Influenza virus) เป็น RNA เชื้อไวรัส อยู่ในเครือญาติ Orthomyxoviridae ที่พบอยู่ในสารคัดหลั่งของคนป่วย ดังเช่น น้ำมูก น้ำลาย และก็เสลด ฯลฯ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีทั้งผอง 3 ชนิดเป็นเชื้อ influenza A, B และ C แล้วก็ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A เป็นชนิดที่ท้าทายให้เกิดการระบาดอย่าง กว้างขวางทั่วโลก จำพวก B ท้าทายให้มีการระบาดในพื้นที่ระดับภูมิภาค ส่วนจำพวก C มักเป็นการติดเชื้อที่แสดงอาการ น้อยไหมออกอาการ และไม่ท้าทายให้เกิดการระบาด เชื้อไวรัสจำพวก A แบ่งเป็นชนิดย่อย (subtype) ตามความแตกต่างของโปรตีนของไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) และ neuraminidase (N) ชนิดย่อยของไวรัส A ที่พบว่าเป็นสาเหตุของการต่อว่าดเชื้อในเจอในปัจจุบันตัวอย่างเช่น A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) และ A(H9N2) ส่วนเชื้อไวรัสจำพวก B และ C ไม่มีแบ่งเป็นจำพวกย่อย
  • ลักษณะโรคไข้หวัดใหญ่ อาการจะเริ่มข้างหลังได้รับเชื้อ 1-4 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูงแบบฉับพลัน ( 38 ซ ในผู้ใหญ่ ส่วนในเด็กมักจะสูงขึ้นยิ่งกว่านี้) ปวดหัว หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนล้ามาก ปวดกระบอกตาเวลาตาขยับเขยื้อน มีน้ำตาไหลเมื่อมีแสงสว่าง และก็บางทีอาจพบอาการคัดจมูก เจ็บคอ ถ้าเกิดมีอาการป่วยเป็นช่วงเวลานานอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอาการไอจากหลอดลมอักเสบ (post viral bronchitis) อาการจะรุนแรงแล้วก็เจ็บไข้เป็นเวลายาวนานกว่าไข้หวัดธรรมดา (common cold) ผู้เจ็บป่วยส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติภายใน 1-2 อาทิตย์ แต่มีบางรายที่มีลักษณะรุนแรง เพราะมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ปอดบวม ซึ่งอาจจะเป็นผลให้เสียชีวิตได้
  • กลุ่มบุคคลแผนการที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่

           เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ แล้วก็ข้าราชการที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
           ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง คือ ปอดอุดกันเรื้อรัง โรคหอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย โรคมะเร็งที่กำลังให้เคมี บรรเทา โรคเบาหวาน ธาลัสซีเมีย ภูมิต้านทานบกพร่อง (รวมทั้งผู้ติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องที่มีลักษณะอาการ)
           บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
           หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
           ผู้ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไป
           ผู้ทุพพลภาพทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองมิได้
           เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี

  • ทางอาการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ การวิเคราะห์โรคโดยอาการทางสถานพยาบาลยังมีข้อกำหนด เนื่องด้วยอาการคล้ายโรคติดเชื้อทางเดิน หายใจจากเชื้อไวรัสชนิดอื่น การวินิจฉัยควรใช้ การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการวิเคราะห์โรค ยกตัวอย่างเช่นตรวจเจอเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเสลดที่ป้ายหรือดูดจากจมูกหรือลำคอ หรือ ตรวจเจอแอนติเจนของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ใน epithelial cell จาก nasopharyngeal secretion โดยแนวทาง fluorescent antibody หรือ ตรวจพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับภูมิต้านทานต่อเชื้อในซีรั่มอปิ้งน้อย 4 เท่าในระยะรุนแรงและก็ระยะพักฟื้น โดยแนวทาง haemaglutination inhibition (HI) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐาน หรือ complement fixation (CF) หรือ Enzyme - linked immunosorbent assay (ELISA)และการใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยาช่วย ได้แก่ ตอนที่มีการแพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่ ผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะน้อย ให้การรักษาตามอาการ ดังเช่นว่า ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาละลายเสลด ฯลฯ การให้ยาต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยทันทีหลังจากที่มีลักษณะอาการช่วยลดความรุนแรงและอัตราตายในคนไข้ ยาต้านทานไวรัส ไข้หวัดใหญ่ ดังเช่นว่า ยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) รวมทั้งซานาไม่เวียร์ (Zanamivir) การพิเคราะห์เลือกใช้ตัวไหน ขึ้นอยู่กับข้อมูลความไวของยาต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในแต่ละประเทศส่วนการให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัส amantadine hydrochloride หรือยา rimantidine hydrochloride ด้านใน 48 ชั่วโมง นาน 3-5 วัน จะช่วยลดอาการแล้วก็จำนวนเชื้อไวรัสชนิด A ในสารคัดหลั่งพื้นที่เดินหายใจได้ ขนาดยาที่ใช้ในเด็กอายุ 1-9 ปี ให้ขนาด 5 มก./กิโลกรัม/วัน แบ่งให้ 2 ครั้ง สำหรับคนไข้อายุ 9 ปีขึ้นไปให้ขนาด 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง (แต่ว่าหากผู้ป่วยน้ำหนักน้อยกว่า 45 กก. ให้ใช้ขนาดเดียวกับเด็กอายุ 1-9 ปี) นาน 2-5 วัน สำหรับคนไข้อายุ 65 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่รูปแบบการทำงานของตับและก็ไตผิดปกติ ต้องลดปริมาณยาลง ในช่วงหลังๆของการดูแลรักษาด้วยยาต้านทานไวรัส บางทีอาจเจอการดื้อยาและก็ตามด้วยการแพร่โรคไปยังคนอื่นๆได้ กรณีนี้บางทีอาจจะต้องให้ยาต้านทานเชื้อไวรัสแก่ผู้เสี่ยงโรคสูงที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ถ้าเกิดมีลักษณะแทรกซ้อนจากเชื้อแบคทีเรียจำเป็นต้องให้ยายาปฏิชีวนะด้วย และควรหลีกเลี่ยงยาลดไข้พวก salicylates เพื่อลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรค Reye's syndrome

6.การติดต่อของโรคไข้หวัดใหญ่ ระยะฟักตัวของโรค ระยะฟักตัวของโรคมักจะสั้น 1 - 4 วัน แต่โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ เฉลี่ย 2 วัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปริมาณของไวรัสที่ ได้รับ การติดต่อ เชื้อไวรัสที่อยู่ในเสลด น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยแพร่ติดต่อไปยังผู้อื่นโดยการไอจามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปถ้าหากอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือ สิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก  และก็คนเจ็บสามารถกระจายเชื้อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีอาการรวมทั้งจะแพร่เชื้อถัดไปอีก 3-5 วันหน้ามีลักษณะอาการในคนแก่ ส่วนในเด็กอาจแพร่เชื้อได้เป็นเวลานานกว่า 7 วัน คนที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่ไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อในขณะนั้นได้เช่นเดียวกัน ในช่วงศตวรรษก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั้งโลก 4 ครั้งคือ

  • พ.ศ. 2461 - 2462 Spanish flu จากไวรัส A(H1N1) เป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด ประชาชนทั้งโลกเจ็บป่วยปริมาณร้อยละ 50 และตายสูงถึง 20 ล้านคน
  • พ.ศ. 2500 - 2501 Asian flu จากเชื้อไวรัส A(H2N2) โดยเริ่มตรวจเจอในประเทศจีน
  • พุทธศักราช 2511 - 2512 Hong Kong flu จากเชื้อไวรัส A(H3N2) เริ่มตรวจเจอในประเทศฮ่องกง
  • พุทธศักราช 2520 - 2521 Influenza A (H1N1) กลับมาระบาดใหญ่อีกที แยกได้จากผู้ป่วยในสหภาพโซเวียต ก็เลยเรียก Russian flu แต่มีถิ่นกำเนิดจากเมืองจีน

7.การปฏิบัติตนเมื่อมีอาการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ การดูแลตัวเอง เมื่อเจ็บป่วยหวัดใหญ่หมายถึงเมื่อมีไข้ ควรจะหยุดสถานศึกษาหรือหยุดงาน แยกตัวแล้วก็สิ่งของจากคนอื่นๆ เพื่อพักและคุ้มครองป้องกันการกระจายเชื้อสู่คนอื่นๆ พักให้มากๆรักษาสุขลักษณะฐานราก  เพื่อสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ลดจังหวะเกิดโรคข้างๆหรือแทรก พยายามทานอาหารมีประโยชน์ห้ากลุ่มในทุกๆวันดื่มน้ำสะอาดให้มากๆอย่างต่ำวันละ 6 - 8 แก้วเมื่อไม่มีโรคจะต้องจำกัดน้ำกิน กินยาลดไข้พาราเซตามอล หรือตามหมอชี้แนะ ไม่ควรรับประทานยาแอสไพรินเพราะอาจมีการแพ้ ดังที่กล่าวถึงแล้ว ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆรวมทั้งทุกครั้งก่อนอาหารและหลังเข้าห้องสุขา  ใช้ทิชชู่ในการสั่งน้ำมูกหรือเช็ดปาก ไม่สมควรใช้ผ้าเช็ดหน้า จากนั้นทิ้งทิชชู่ให้ถูกสุขลักษณะ  รู้จักใช้หน้ากากอนามัย งดเว้นยาสูบ หลีกเลี่ยงควันที่เกิดจากบุหรี่ ด้วยเหตุว่าเป็นต้นเหตุให้อาการรุนแรงขึ้น ควรจะรีบพบหมอเมื่อ ไข้สูงเกิน 39 - 40 องศาเซียลเซียส และไข้ไม่น้อยลงข้างหลังได้ยาลดไข้ด้านใน 1 - 2 วัน  ดื่มน้ำได้น้อยหรือรับประทานอาหารได้น้อย ไอมาก มีเสลด และก็/หรือ เสลดมีสีเหลืองหรือเขียว ซึ่งหมายความว่ามีการติดโรคแบคทีเรียแทรกซ้อน เป็นโรคโรคหืด เนื่องจากว่าโรคหืดมักกำเริบเสิบสานแล้วก็ควบคุมเองมิได้ อาการต่างๆชั่วช้าลง หอบอิดโรยร่วมกับไอมาก บางทีอาจร่วมกับนอนราบไม่ได้ เนื่องจากเป็นอาการแทรกซ้อนจากปอดอักเสบ เจ็บทรวงอกมากร่วมกับหายใจขัด อิดโรย เพราะเหตุว่าเป็นอาการจากอาการแทรกจากเยื่อห่อหุ้มหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ชัก ซึม สับสน แขน/โคนขาแรง อาจร่วมกับปวดศีรษะรุนแรง รวมทั้งคอแข็ง เพราะเป็นอาการเข้าแทรกจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ  หรือ สมองอักเสบ

  • การปกป้องคุ้มครองเองจากไข้หวัดใหญ่ รักษาร่างกายให้แข็งแรง เพื่อร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคก้าวหน้า โดยการบริหารร่างกาย สม่ำเสมอและก็พักผ่อนให้พอเพียง อยู่ในที่ที่อากาศระบายได้ดี หลีกเลี่ยงความเคร่งเครียด บุหรี่ เหล้ารวมทั้งสารเสพติด แล้วก็ระวังรักษาร่างกายให้อบอุ่นในตอนอากาศหนาวเย็น หรืออากาศเปลี่ยนแปลง ทานอาหารที่มีประโยชน์ ผัก แล้วก็ผลไม้ เพื่อร่างกายได้รับสารอาหารแล้วก็วิตามินพอเพียง ในช่วงที่มีการระบาดของโรค ควรจะหลบหลีกการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนแออัด เป็นต้นว่า ห้าง สถานบันเทิง งานมหรสพ รวมทั้งการใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือลูกบิดประตู เป็นต้น แต่หากหลีกเลี่ยงมิได้ ควรจะใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือทามือด้วยแอลกอฮอล์เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อาจติดมาจากการสัมผัสถูกเสลดของผู้ป่วย รวมทั้งอย่าใช้นิ้วมือขยี้ตาหรือแคะไชจมูกถ้าหากยังไม่ได้ล้างมือให้สะอาด คนไข้ควรปลีกตัวออกห่างจากคนอื่น อย่านอนปนเปหรือคลุกคลีใกล้ชิดกับคนอื่น เวลาไอหรือจามควรใช้ผ้าปิดปากและก็จมูกเสมอ เวลาเข้าไปในที่ที่มีคนอยู่กันมากมายๆควรใส่หน้ากากอนามัยด้วยทุกหน ส่วนการฉีดวัคซีนปกป้องไข้หวัดใหญ่นั้น โดยปกติถ้าเกิดไม่มีการระบาดโรค หมอจะไม่ชี้แนะให้ฉีดยาแก่พสกนิกรทั่วไป ยกเว้นในคนที่อยู่ในกรุ๊ปมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ผู้สูงอายุ (แก่กว่า 65 ปี) คนที่แก่ต่ำยิ่งกว่า 19 ปีที่ต้องรับประทานยาแอสไพรินเป็นประจำ สตรีตั้งครรภ์ที่คาดว่าอายุท้องปิ้งเข้าไตรมาสที่ 2 ขึ้นไปในตอนที่มีการระบาดของโรค คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ผู้ที่จำต้องเดินไปในถิ่นที่มีการระบาดของโรค คนที่มีกิจกรรมจำเป็นจะต้องที่ไม่สามารถหยุดงานได้ (เป็นต้นว่า ดารา นักกีฬา นักทัศนาจร ตำรวจ ข้าราชการบริการสังคม เด็กนักเรียนหรือนิสิตที่อยู่รวมกัน รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานพักฟื้น สถานสงเคราะห์คนแก่) ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เป็นต้นว่า ผู้ป่วยโรคภูมิคุมกันบกพร่อง ผู้ป่วยที่ได้รับยาสเตียรอยด์ ผู้ป่วยรังสีรักษาหรือเคมีบำบัด) ผู้เจ็บป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง (ยกตัวอย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด โรคตับ โรคไต โรคเลือด) ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นกรุ๊ปที่ควรได้รับการฉีดยาปกป้องไข้หวัดใหญ่
  • สมุนไพรจำพวกไหนซึ่งสามารถช่วยบรรเทา/รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้
สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต่อต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Herbs with anti-influenza activity) มีสมุนไพร        
                พลูคาว / ผักคาวโคนง (Houttuynia cordata) จากการเล่าเรียนในหลอดทดลอง น้ำมันระเหยการกลั่นพลูคาวสดมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ เริม (Herpes simplex virus type 1) เอชไอวี (HIV-1) ขึ้นรถสำคัญในน้ำมันระเหยจากพลูคาวที่มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัสดังที่กล่าวมาแล้ว อย่างเช่น methyl n-nonyl ketone, laurly aldehyde, capryl aldehyde
                Epigallocatechin (EGCG) ในชาเขียว EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสูงที่สุดในชาเขียว EGCG ขนาดต่ำในหลอดทดสอบมีฤทธิ์ ยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งยังจำพวก A และ B เข้าเซลล์& ลดการต่อว่าดเชื้อของเซลล์เพาะเลี้ยงจากไตสุนัขได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง
                ใบเตย (Pandanus amaryllifolius) ใบเตยมีสารพวกเลกว่ากล่าวน (lectin) ซึ่งมีคุณลักษณะเป็นโปรตีน ชื่อ Pandanin ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อ ไข้หวัดใหญ่จำพวก A (H1N1) อย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งเชื้อได้ 50% (EC50) เท่ากับ15.63 microM
                สาร Aloe emodin Aloe emodin = สารแอนทราควิโนน (anthraquinone) ที่พบได้ในยางว่านหางจระเข้ เมื่อนำสาร Aloe emodin มาผสมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดลองนาน 15 นาที ที่ 37 องศาเซลเซียส สามารถยับยั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ นอกเหนือจากนั้น สาร aloe emodin ยังยั้งไวรัสที่ก่อโรคเริม และก็งูสวัดได้อีกด้วย
สมุนไพรกระตุ้นภูมิต้านทาน (Immunomodulator / Immunostimulant)
                กระเทียม  Aged Garlic Extract (AGE) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทาน AGEเป็นผลิตภัณฑ์กระเทียมจัดแจงโดยการแช่กระเทียมที่หั่นหรือสับใน 15-20% แอลกอฮอล์แล้วทิ้งเอาไว้นานมากกว่า 10 เดือน ที่อุณหภูมิปกติแล้วนำมาทำให้เข้มข้น เมื่อให้ AGE ทางปากแก่หนูถีบจักร 10 วันก่อนให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แก่หนูโดยการหยอดทางจมูก มีประสิทธิผลในการคุ้มครองปกป้องไข้หวัดใหญ่ก้าวหน้าเท่าการให้วัคซีน
                สินค้าเสริมอาหารกระเทียมที่มีสาร allicin มีการทำการวิจัยในอาสาสมัคร 146 คน โดยให้กรุ๊ปควบคุมได้รับยาหลอก และกลุ่มทดลองได้รับกระเทียมรับประทานวันละ 1 แคปซูล นาน 12 สัปดาห์ ระหว่างหน้าหนาว (เดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์) และให้คะแนนสุขภาพ และอาการหวัดทุกวี่วัน พบว่า กลุ่มที่ได้รับกระเทียมมีโอกาสเป็นหวัดน้อยกว่ากลุ่มยาหลอก และก็เมื่อเป็นหวัดแล้วหายเร็วกว่า
                โสม (Ginseng)    สารสกัดโสมอเมริกันที่จดสิทธิบัตรแล้ว (CVT-E002) โดยทดลองให้สารสกัดนี้ ขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งหรือยาหลอกแก่ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่รวมกันหลายท่าน (institutional setting) จำนวนรวม 198 คน ระหว่างฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ (ฤดูหนาวปี 2543 -44) เพื่อศึกษาเล่าเรียนประสิทธิผลสำหรับในการคุ้มครองการป่วยด้วยโรคทางเท้าหายใจอย่างฉับพลัน (Acute Respiratory Illness, ARI) พบว่า อุบัติการณ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการของกรุ๊ป ยาหลอกสูงยิ่งกว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดโสมอย่างเป็นจริงเป็นจัง (7/101 รวมทั้ง 1/97) และก็การลดน้อยลงของการเสี่ยงจากการป่วยด้วยโรค ARI ในกรุ๊ปที่ได้รับยา CVT-E002 เท่ากับ 89%
เอกสารอ้างอิง

  • Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, D., Hausen, S., Longo, D., and Jamesson, J.(2001). Harrrison’ s:Principles of internal medicine. New York. McGraw-Hill. http://www.disthai.com/[/b]
  • ”สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่-H1n1 (1 มกราคม – 26 ธันวาคม 2558)” สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • ดร.ภก.อัญชลี จูฑะพุทธิ.สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์เรื่อง”สมุนไพร:ไข้หวัดใหญ่-ไข้หวัดนก.”ณ.ห้องประชุมเบญจกูล กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.วันที่ 28 ธันวาคม 2548
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).”ไข้หวัดใหญ่(lnfluenza/Flu).หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป2.หน้า 393-396
  • “ไข้หวัดใหญ่”คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก
  • ไข้หวัดใหญ่.กลุ่มระบาดวิทยา/โรคติดต่อ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • โรคไข้หวัดใหญ่แนวทางการดำเนินการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปี2559.แนวทางการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสถานศึกษา 2559 กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ